ดร.บุญชัย โกศลธนากุล

ในห้อง 'สมเด็จโต พรหมรังสี' ตั้งกระทู้โดย pongio, 31 สิงหาคม 2014.

  1. pongio

    pongio เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2013
    โพสต์:
    843
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +6,852
    ประวัติการศึกษา
    จากการที่เคยได้รับทุนต่างๆ จากองค์กรและสถาบันชั้นนำในระดับระหว่างประเทศกว่า 17 ทุน อาทิ ทุน Fulbright, ทุน Ford Foundation (ไปดูงานที่รัฐสภาสหรัฐ), ทุนผู้ช่วยสอนจาก University of Virginia 4 ปีซ้อน (และได้ Excellent Teaching Awards), ทุนทำวิทยานิพนธ์ปริญญาเอกจาก Institute of World Politics, ทุน Dupont Fellowship เป็นต้น ทำให้สามารถนำประสบการณ์อันมีประโยชน์ตรงนี้ มานำเสนอและวิธีการหาทุนและหาโอกาสในการไปศึกษาต่อต่างประเทศสำหรับเยาวชนไทยของเรา ทั้งนี้ คนไทยเรามีความสามารถแต่ส่วนใหญ่มักขาดเทคนิคที่ดี และต้องลองถูกลองผิดกันเอง ทำให้มีความยากลำบากในการไปแข่งขันกับเยาวชนของชาติอื่นๆ หรือแม้แต่คนจากประเทศเพื่อนบ้านเอเชียของเราเอง ที่มักจะรู้เทคนิควิธีการในการสมัครเรียนและขอทุนต่างๆ ดี ทำให้เด็กไทยของเราพลาดโอกาสอย่างน่าเสียดายมากๆ ในหลายๆ ครั้ง ในทางกลับกัน ถ้าหากพวกเรามีความเข้าในเทคนิคและวิธีการในการสมัครเรียนและสมัครทุนอย่างดีแล้ว คนไทยเราจะสามารถสู้ชาติอื่นได้อย่างแน่นอน ตัวอย่าง นักเรียนที่ประสบความสำเร็จและได้ทุนต่าง ๆ มากมาย อาทิ คุณกังสดาล ได้รับทุน ฟูลไบรท์ (Fulbright), คุณนันตสรณ์ ได้รับทุน HARVARD MEDICAL SCHOOL, คุณกรภัทร ได้รับทุนของมหาวิทยาลัย Columbia, คุณพรอุมา ได้รับทุน อีราสมุส มุนดุส (Erasmus Mundus), คุณพรกาญจน์ทิมา ได้รับทุนของธนาคารอาคารสงเคราะห์, คุณปัทมาพร ได้รับทุน กพ. สาขาพยาบาล, คุณภัทริยา ได้รับทุน กพ. สาขา Logistic Management เป็นต้น

    จากการที่เป็น self-made man ระดับชนชั้นกลางที่สามารถผันตัวเองเป็นผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จได้โดยเปิดสถาบันสอนภาษาอังกฤษในบริเวณ prime area เช่น ใจกลางถนนสีลม (มุมคอนแวนต์) เซ็นทรัลเวิลด์ เซ็นทรัลลาดพร้าว และสยามแสควร์ ที่มีค่าเช่ากว่าหนึ่งล้านห้าแสนบาท ความสำเร็จตรงนี้จะสามารถ inspire ผู้ชมโดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ที่ต้องการเป็นผู้ประกอบการ ให้เข้าใจถึงปรัชญาในการคิด ในการทำงาน และในการใช้ชีวิต ตลอดจนจะต้องผ่านการต่อสู้และสร้างสมประสบการณ์ในการทำงานอย่างไรจนกว่าจะมาถึงความสำเร็จวันนี้ได้ ในส่วนนี้น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับคนรุ่นใหม่ที่ต้องการรวยและประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว โดยเน้นเฉพาะจะหาเงินอย่างเดียว แทนที่จะเรียนรู้ก่อนว่า ผู้ที่รวยและประสบความสำเร็จเขามีความคิดและหลักในการทำงานอย่างไรก่อน ถ้าหากมีความคิดและหลักการที่ถูกต้องแล้ว ความสุขและความสำเร็จอย่างยั่งยืนย่อมตามมาเอง

    เป็นผู้สนใจศึกษาและมีความเชี่ยวชาญในแง่การพัฒนาตัวเอง (self-improvement) และเข้าใจหลักปรัชญาคำสอนของพระพุทธศาสนาอย่างถ่องแท้ และสามารถปรับประยุกต์ทั้งสององค์ความรู้เข้ากับหลักการบริหารงานในยุคปัจจุบันได้อย่างกลมกลืนและมีประสิทธิผลยิ่ง ทำให้ได้รับเชิญไปพูดตามหน่วยงานภาครัฐและเอกชนต่างๆ กว่า 200 องค์กร ด้วยค่าบรรยายถึง 10,000-15,000 บาทต่อชั่วโมง อาทิ วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.), สำนักงานกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.), สำนักงานองค์การอาหารและยา (อย.), วิทยาลัยพยาบาล สภากาชาดไทย, โรงพยาบาลศิริราช, โรงพยาบาลรามาธิบดี, คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาฯ, บริษัทปูนซิเมนต์ไทยจำกัดมหาชน, EXIM Bank, ธนาคารไทยพาณิชย์, บริษัทโตโยต้ามอเตอร์ (ประเทศไทย) เป็นต้น โดยหัวข้อที่ได้รับเชิญให้ไปบรรยายเกี่ยวกับประเด็นดังต่อไปนี้คือ กฏเหล็กในการเป็นผู้นำ, การสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ชีวิต, หลักในการบริหารสู่ความเป็นเลิศ, หลักการสร้างพลังชีวิต, จริต 6: ศาสตร์ในการอ่านใจคน, การเพิ่มศักยภาพในการทำงานของพนักงาน, ใช้ชีวิตอย่างไรจึงจะมีความสุข, และพลานุภาพของ Positive Thinking

    ผู้จัดรายการวิทยุ CEO Vision ทาง FM 96.5 ทุกวันอาทิตย์เวลา 9.00-10.00 น. รายการนี้นำเสนอแนวคิด และกลยุทธ์ต่างๆในการสร้างความสำเร็จทางธุรกิจและความสำเร็จในชีวิต โดยรวบรวมแนวคิดและสาระจากหนังสือ Bestsellers ที่ขายดีที่สุดในอเมริกา ทั้งที่เป็นหนังสือประเภท Business Management, How to, Psychology และ Self-Improvement มานำเสนอต่อผู้ฟังในรูปแบบที่ย่นย่อเป็นระบบเน้นเฉพาะใจความสำคัญเข้าใจง่าย เป็นรูปแบบรายการที่ผู้ฟังทุกท่านมี Feedback กลับมาว่า สามารถนำไปปรับใช้กับตนเองกับธุรกิจหน้าที่การงานและในการมีปฏิสัมพันธ์กับบุคคลรอบข้างได้ทันทีอย่างมีประสิทธิภาพ เข้าใจหลักปรัชญาคำสอนของพระพุทธศาสนาอย่างถ่องแท้ ทำให้สามารถปรับใช้กับชีวิตการเรียนและการงาน สร้างความหวังให้กับคนไทยที่จะมีชีวิตที่มีความสุขและสำเร็จ และสร้างสรรค์สังคมให้ดีขึ้น

    เป็นผู้เขียน(ร่วม)หนังสือ “จริต 6: ศาสตร์ในการอ่านใจคน” ซึ่งมียอดจำหน่ายกว่า 100,000 เล่มแล้ว และขณะนี้กำลังตีพิมพ์เป็นครั้งที่ 25 อยู่ หนังสือเล่มนี้ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูงเพราะได้ช่วยให้ผู้อ่านเข้าใจคนรอบข้างได้เป็นอย่างดีและลดความความใจผิดและความขัดแย้งระหว่างกันลง ที่สำคัญหนังสือเล่มนี้ทำให้ผู้อ่านเข้าใจตนเองได้ดีขึ้นว่ามีจุดอ่อนจุดแข็งเช่นไร และจะพัฒนาตัวเองอย่างไรให้ประสบความสำเร็จทั้งในชีวิตและการทำงาน
    จบปริญญาโทจาก University of Pennsylvania และปริญญาเอกจาก University of Virginia สหรัฐอเมริกา และเคยทำงานที่กระทรวงการต่างประเทศและธนาคารกรุงเทพฯ มาก่อน


    :: ประสบการณ์การทำงาน
    เคยดำรงตำแหน่งเลขานุการเอกกรมอเมริกาและแปซิฟิกใต้กระทรวงการต่างประเทศ และเคยเป็นตัวแทนของกระทรวงฯ ไปบรรยายที่วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) โรงเรียนเสนาธิการทหารบก วิทยาลัยการทัพบก วิทยาลัยการทัพเรือ และวิทยาลัยการทัพอากาศ และสอบเจ้าหน้าที่การทูตระดับ 6 ได้ เป็นที่ 2 ของรุ่น นอกจากนี้ ยังเคย ดำรงตำแหน่งเลขานุการของอธิบดี กรมพิธีการทูตอีกด้วย

    เคยเป็นเจ้าหน้าที่บริหารของธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) อยู่ในทีมงาน Reengineering และทีมงาน Bank Marketing โดยได้เสนอแผนการตลาด แผนคุณภาพบริการและการสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า ซึ่งได้กลายเป็นแนวทางในการปฏิบัติงานของสาขาธนาคาร เคยเป็นวิทยากรหลักของธนาคารไปบรรยายให้กับเจ้าหน้าที่บริหารและผู้จัดการสาขาทั่วประเทศเรื่อง Bank Marketing, Customer Satisfaction และ Leadership Skills นอกจากนี้ เคยดำรงตำแหน่งผู้จัดการธนาคารกรุงเทพ สาขาสุรวงศ์ ซึ่งเป็นสาขาธุรกิจขนาดใหญ่ มีบุคลากรเกือบร้อยคน และได้รับเลือกเป็นประธานรุ่นของผู้จัดการใหม่ของธนาคารกรุงเทพฯ ถึงสองรุ่น (รุ่นที่ 37 และ 38)

    ปัจจุบันเป็นกรรมการผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาภาษา Fast English ซึ่งมี 3 สาขา คือ สนญ. สีลม ตึกลิเบอร์ตี้สแควร์, สาขาเซ็นทรัลลาดพร้าว และสาขาเซ็นทรัลเวิลด์ และยังเป็นผู้จัดรายการวิทยุ CEO Vision ซึ่งเป็นรายการพัฒนาคุณภาพชีวิตเพื่อก้าวสู่สหัสวรรษ 2000 ทาง FM 96.5 ทุกวันอาทิตย์ เวลา 9.00-10.00 น. นอกจากนี้ ยังได้รับเชิญเป็นวิทยากรบรรยายในหัวข้อต่างๆ ให้กับหน่วยงานของรัฐและบริษัทต่างๆ จำนวนมาก
     
  2. pongio

    pongio เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2013
    โพสต์:
    843
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +6,852
    พลานุภาพของการสวดพระคาถาชินบัญชร

    อานิสงส์ของการสวดมนต์
    การสวดมนตร์เป็นการเพิ่มพลังจิตให้เข้มแข็งหยุดความว้าวุ่นใจในชั่วขณะ จิตจะมีความเป็นกลาง ได้พัก ได้สงัดจากความว้าวุ่น และที่สำคัญคือได้พักสมองในเวลาเดียวกัน เพราะเวลาบริกรรมคำสวดมนต์ต้องใช้พลังสมาธิไม่คิดเรื่องอื่น และพลังสติในการเลือกคำสวดยิ่งสวดนานสวดหลายเที่ยว จิตก็มีสมาธิและสติเข้มแข็งขึ้น สมาธิและสติจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อสมองมีความแข็งแรง การตั้งใจสวดโดยไม่วอกแวกเป็นการทำงานของสมองด้านซ้าย ส่วนการเลือกคำสวด การรู้ว่าสวดถูกสวดผิด และการรู้เท่าทันอารมณ์ต่างๆ ระหว่างสวดเป็นการทำงานของสมองข้างขวา ส่วนการรู้ว่าอยู่ในอิริยาบถใดขณะ หรืออาการรู้ว่าปวดกล้ามเนื้อหรือกล้ามเนื้ออยู่ในสภาพปกติสบายดี เป็นการทำงานของสมองส่วนกลาง
    โดยสรุป การสวดมนตร์เป็นการกระตุ้นการทำงาน 3 ส่วนของสมอง (ซ้าย-ขวาและกลาง) โดยรวมกาย (สมอง) และจิต (เพ่งและรู้) ให้เป็นเนื้อเดียวกัน สามารถช่วยเพิ่ม IQ และ EQ ได้ หยุดความเครียดต่างๆ นานา รู้สึกร่างกายและจิตใจแข็งแรงขึ้น ฝึกกล้ามเนื้อสมองให้แข็งแรง และจิตจะน้อมไปสู่ความสงบและเงียบภายในจิต ซึ่งเขาเรียกว่า “ จิตเห็นจิต ” เมื่อนั้นพลังผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบานก็จะเริ่มปรากฏชัดขึ้น จิตที่มีพลังคิดอะไรก็สมปรารถนา ไอเดียดีๆ ใหม่ๆ ก็จะผุดขึ้น รู้จักตนเอง รู้จักชีวิตมากขึ้น และที่สำคัญรู้ว่าอะไรคือเป้าหมายของชีวิต อะไรคือสิ่งที่ควรทำ และจะทำอย่างไรจึงสัมฤทธิ์ผล จะเกิดแต่ความสุขและความเจริญ

    วิธีการสวด
    1. ท่องจำให้ได้ทุกอักขระโดยไม่ต้องเปิดอ่าน
    2. เวลาสวด ไม่เพ่งตัวอักษรในใจ แต่บริกรรมออกมาดังๆ ชัดๆ (ฝึก speaking ไปในตัว) ฟังเสี่ยงที่เปล่งออกมาด้วยว่าชัดถ้อยชัดคำหรือไม่ เพราะหรือไม่ (ฝึก control เสียงเวลาพูด) ให้สมองบังคับปากพูดทีละคำ ไม่ใช่ให้ปากพูดไปอย่างเคยชิน
    3. เมื่อสวดคล่องแบบมืออาชีพแล้ว ให้ฝึกสวดในใจดังๆ ให้ได้ยินเสียงตัวเองเหมือนกับร้องเพลงชาติในใจ เป็นการฝึก inner voice เมื่อ inner voice ชัด แสดงว่าส่วนสมองแข็งแรงขึ้นมากพร้อมจะทำการใหญ่ๆ
    4. เวลาสวดต้องไม่คิดว้าวุ่นเรื่องอื่น บอกใจตัวเองก่อนว่ากำลังจะสวดมนตร์ ให้ลืมเรื่องอื่นก่อน ตั้งใจตั้งแต่เริ่มสวดจนสวดจบว่าจะไม่คิดเรื่องอื่น และอย่าลืมว่าเวลาสวดให้เอาสมองบังคับปากพูดอย่าบริกรรมด้วยความคล่องหรือความเคยชิน แต่ให้สวดอย่างสบายใจ ไม่แข็งทื่อหรืออึดอัด สวดด้วยความโล่งโปร่งสบาย
    5. ถ้าสวดแล้ว เงียบ สงบ รับรู้ ไม่หวั่นไหว ไม่เหนื่อย ไม่เป็นภาระ ไม่อึดอัด นั่นแสดงว่าการสวดมีประสิทธิภาพสูงสุดและไม่นาน Miracles ก็จะเกิดขึ้นกับชีวิตของท่าน

    บทความ
    ดร.บุญชัย โกศลธนากุล

    ฟังเสียงบรรยายเรื่องอานิสงส์ของการสวดพระคาถาชินบัญชร ฉบับเต็ม ความยาวกว่า 40 นาที
    https://soundcloud.com/yinky-win/w6x0vxt3sago
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 สิงหาคม 2014

แชร์หน้านี้

Loading...