'จักรธิป'กับปาฏิหาริย์พระกริ่งชินบัญชรหลวงปู่ผ่าน

อุบัติเหตุรถเก๋งชนรถบรรทุกพ่วง ๑๘ บนถนนมอเตอร์เวย์ ก่อนถึงสี่แยกพัฒนการ ประมาณตี ๔ ของคืนวันที่ ๓ ธันวาคม ๒๕๕๔ หลายคนที่เห็นสภาพรถเก๋งโดยเฉพาะเจ้าหน้าที่กู้ภัย ต่างลงความเห็นว่า "คนขับต้องตายคาพวงมาลัยอย่างแน่นอน" ถ้ารอด "ก็สาหัสปางตายอย่างแน่นอน" แต่ในความเป็นจริงแล้ว "คนขับได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้น" และผู้ที่ผ่านประสบการณ์เฉียดตายยิ่งกว่าเส้นยาแดงผ่าแปดในครั้งนี้ คือ "นายจักรธิป ทองทิพย์" หรือ "บิว" ดาวร้ายแห่งค่ายจอแก้ว

“ผมเป็นพระเอกฝ่ายโจร คือ รับบทตัวร้ายชนิดที่เลวสุดๆ รับบทตัวร้ายตั้งแต่ฉากแรกถึงฉากสุดท้าย ผมเล่นไปตามบทที่ได้ และก็ตีบทแตก ส่วนในชีวิตจริงนั้นเป็นคนละเรื่อง ถ้าในละครใครขับรถปาดหน้าต้องมีเรื่องแน่นอน แต่ในชีวิตจริงคิดเพียงว่าเพราะเขารีบ หรือ เขามีธุระจึงต้องทำ ส่วนตัวเราไม่ได้รีบร้อนอะไรปล่อยให้ไปก่อนก็ได้ ถึงช้าดีกว่าไปไม่ถึง" นี่ไม่ใช่คำแก้ต่างแต่เป็นตัวตนและชีวิตจริงจากคำบอกเล่าของนายจักรธิป

ทั้งนี้นายจักรธิปยอมรับว่าปกติแล้ไม่ได้เข้าวัดเท่าไร เป็นชาวพุทธธรรมดาคนหนึ่ง ที่ไม่ได้เน้นเรื่องการปฏิบัติธรรม หรือแสวงหาความสงบใดๆ จากวัด จนกระทั่งมีพี่คนหนึ่ง คุณเริงศักดิ์ มหคุณวรรณ ได้มาชวนให้ไปไหว้พระรูปหนึ่งที่ อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร ซึ่งในใจตั้งอคติคิดไว้ล่วงหน้าแล้วว่า “จะอะไรกันนักกันหนา แค่ไหว้พระเพียงองค์เดียวต้องถ่อไปถึงสกลนครเลยหรือนี่” ด้วยความคุ้นเคย สนิทสนม และความเกรงใจจึงตอบตกลงว่า “ไปก็ไป” มารู้ทีหลังว่า คือ หลวงปู่ผ่าน ปัญญาปทีโป" อดีตเจ้าอาวาสวัดป่าประทีปปุญญาราม

โดยในวันแรกที่พบท่านนั้น ตามปกติของคนมีกิเลส ซึ่งอาจจะเรียกว่า “กิเลสหนาก็ได้” ได้ขอพรหลวงปู่หลายเรื่อง คือ “ขอให้สุขภาพร่างแข็งแรง บริวารให้แข็งแรงมีความสุขทุกคน ที่สำคัญขอให้มีงานแสดงเข้ามาอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งของให้มีกะตังค์เยอะๆ” เมื่อกลับมาถึงกรุงเทพหลังจากนั้นอีก ๓-๔ วัน ผู้จัดละครก็โทรติดต่อให้ไปรับ บทตัวร้าย ๓-๔ เรื่อง ซึ่งปกติแล้วโอกาสที่จะรับงานละครพร้อมๆ กัน และถ่ายซ้อนกันไม่ค่อยมี อย่างเก่งก็รับละครเพียง ๒ เรื่อง

จากความเมตตาของหลวงปู่ผ่าน ทุกวันนี้มีพระหลวงปู่ผ่านติดตัวไว้ตลอด ไม่ว่าจะแขวนไว้กับตัว หรือติดไว้ที่หน้ารถ ซึ่งครั้งหนึ่งหลวงปู่ผ่านเคยแสดงปาฏิหาริย์ให้รอดจากรถชนชนิดที่เรียกว่า “ใครๆ เห็นสภาพรถที่ชน ต้องคิดว่าคนขับตายคาที่” โดยอุบัติเหตุครั้งร้ายแรงเกิดเมื่อวันที่ ๓ ธันวาคม ๒๕๕๔ ได้ขับรถกลับจากชลบุรีมาบนถนนมอเตอร์เวย์

นายจักรธิป เล่าต่อว่า ช่วงผ่านสนามบินสุวรรณภูมิเห็นถนนโล่งๆ เลยลองทดสอบสมรรถนะของรถยนต์ ด้วยความเร็วที่เกิน ๑๖๐ กม./ชม. ทันทีที่ลงจากคอสะพานรถสิบล้อเกิดอุบัติเหตุชนกันข้างหน้าขวางถนน ใจหนึ่งก็คิดมุดใต้ท้องรถบรรทุก ๑๐ ล้อ ให้ตัดหลังคา เหมือนกับในละคร ส่วนอีกใจหนึ่งก็คิดว่านี่เป็นชีวิตจริงไม่ใช่ละคร จึงใช้มือตบไปที่หน้าอก โดยอธิษฐานขอให้หลวงปู่ช่วยด้วย จึงหักรถเข้าไปอัดที่ช่วงล้อ รถที่ขับมาด้วยความเร็ว ๑๖๐ กม./ชม.หยุดนิ่งทันที

ประมาณ ๑๐ นาที รถกู้ภัยก็มาถึง มีเจ้าหน้าที่คนหนึ่งตรงดิ่งไปยังที่ประตูรถเพื่องัดคนเจ็บออก โดยหารู้ไม่ว่าตนเองนี่แหละเป็นคนขับ พร้อมกับย้อนถามว่ามีดีอะไร รวมทั้งเพื่อนในวงการก็ตามในทำนองเดียวกันว่า “พี่บิวมีอะไรดี รถพังยับเยินไม่มีชิ้นดี ทำไมถึงไม่ตาย พอจะมีเหลือให้ใช้บ้างไหม” โดยในวันที่เกิดเหตุนั้นมีพระกริ่งชินบัญชร หลวงปู่ผ่าน เพียงองค์เดียวเท่านั้น

ส่วนปาฏิหาริย์อย่างหนึ่งที่ถือว่าหลวงปู่ให้โชค คือ คืนก่อนวันออกรอบตีกอล์ฟได้ฝันเห็นหลวงปู่ผ่าน ซึ่งในวันรุ่งขึ้นก็ได้ไปตีกอล์ฟ โดยมีรางวัลสำหรับผู้ตีโฮลอินวันได้ในใจก็อธิษฐานว่า “วันนี้หากตีโฮลอินวันได้จะห่มหลวงปู่ด้วยจีวรทองคำแท้” และแล้วปาฏิหาริย์ก็มีจริง “ผมตีโฮลอินวันในหลุมพาร์ ๓” วันนั้นได้ทองคำมา ๕ บาท จึงนำพระหลวงปู่ไปเลี่ยมทองตามที่ตั้งจิตอธิฐานไว้ และนิมนต์ท่านขึ้นคอมาจนถึงทุกวันนี้<META content=ศาสนา-พระเครื่อง itemprop="articleSection"><META content=,ศาสนา, พระเครื่อง,ศาสนา-พระเครื่อง,ข่าวศาสนา-พระเครื่อง,ข่าวทั่วไป itemprop="keywords"><META content="วันเสาร์ที่ 26 พฤษภาคม 2555" itemprop="datePublished">