ความเข้าใจเรื่องศีล 8

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย Wannachai001, 15 พฤษภาคม 2024.

  1. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    119
    ค่าพลัง:
    +225,741
    217379257_1949001605276369_2333395826089159210_n.jpg


    ความเข้าใจเรื่องศีล 8

    ลูกศิษย์ : อย่างคนถือศีล 8 จะไปเต้นรำได้ไหมคะ

    หลวงพ่อ : เออ ไม่เป็นไร ถือให้แน่นนะ ไม่หลุดหรอก เต้นรำ ไปรำ รำข้าวใช่ไหม เต้นรำ ถ้าฟ้อนรำฉันจะไม่ให้เลย เสือกเต้นจนศีลหายหมด มันอย่างไร เต้นรำทำอย่างไร เต้นด้วยรำด้วย เต้นรำให้ดูสิ กลัวว่าศีลมันจะไม่อยู่นะซิ ต้องดูจังหวะการเต้นเขานะ อย่างนี้ถึงจะพยากรณ์ได้ เอ้ามีอะไรคุยบ้าง เดี๋ยววันที่ 3 ไม่คุยกลับนะ

    ลูกศิษย์ : หลวงพ่อคะ เวลาจะสมาทานศีล 8 ทุกคืนอย่างที่ทำมานะคะ วันพระก็ตั้งแต่ 4 ทุ่มถึงเวลาเที่ยง สองเวลานี้ยังไม่ได้ทานอะไรเลย แล้วทานอาหารกลางวันถึงบ่าย 2 ทานอิ่ม 2 ทุ่ม 3 ทุ่ม เป็นการผิดศีลที่สมาทานหรือเปล่าคะ

    หลวงพ่อ : กินกี่เวลาล่ะ

    ลูกศิษย์ : สองเวลาค่ะ

    หลวงพ่อ : สองเวลาก็ดีเหมือนกันนะ เอาอย่างนี้ดีกว่านะ กินเช้าเวลา เย็นเวลาหนึ่ง ดีไหม

    ลูกศิษย์ : บางทีวันหนึ่งทานครั้งเดียว ก็เลยไม่ทราบจะทำอย่างไร

    หลวงพ่อ : ถ้ามันมีงานอยู่ เราก็ตั้งไว้ซิ เวลาจะกินเวลาไหนให้แน่นอนนะ เครื่องบินเห็นไหม ถึงเวลาต้องทาน ถ้าไปจากที่นี่ 9 โมงเช้าไปตามทาง ไอ้นั่นเขา 6 โมงเย็นก็ช่างเขา ถือเวลาเดิมๆนาฬิกาเดิมนะ ถ้าไม่เกินเที่ยงของเวลาเดิมนะ จะฉันได้ ใช่ไหม

    ศีล 8 ก็เหมือนกัน หิวเวลาไหนก็ฉะเวลานั้น ก็หมดเรื่องเลย แต่ความจริงเขาตั้งเวลาไว้หมดแล้ว แต่งานมันบังคับเรา ใช่ไหม เขาตั้งใจไว้เฉพาะสองเวลาก็ไม่เป็นไร

    คือว่าศีลข้อนี้ ถ้าหากว่าเราพลาดมันก็ไม่เสียหาย คือไม่มีโทษลงนรก มันเป็นธรรมะ

    ก็สมมุติว่าเรากินข้าว ไอ้กินข้าวไปแล้วมันเหลือตัว เวลาสมาทานนี่ 9 ตัว สมาทานศีล 8 ใช่ไหม กินได้ นัจจคีฯ กับ มาลาฯ ถ้าบวชพระกับบวชเณรนี่ เขาแค่ นัจจคีฯ ตัว มาลาฯ ตัว

    เวลารับศีล 8 รับ นัจจะคีฯ กับ มาลาฯ รวม ใช่ไหม เราก็แยกเสียก็เหลือ 8 พอดี

    แต่ความจริงไม่เป็นไรนะ ไอ้พลาดข้อนี้ข้อเดียวไม่มีโทษ ข้ออื่นที่มีความสำคัญกว่าเรารักษาได้ใช่ไหม แต่เขาก็ถือเกี่ยวกับเวลา คือเวลาที่มันไม่เหมาะสมนี่ อย่างปรกติเรากินข้าวไม่เลยเที่ยงได้ ใช่ไหม ทีนี้ทำงานมันบังคับ จะต้องกินหลังเที่ยง เราไปกินเย็น อันนี้ก็ได้ไม่เป็นไร ต้องตัดกังวลเท่านั้นเอง

    ต้องตัดกังวลเรื่องอาหารเสียหน่อยจะได้สะดวก ไม่อย่างนั้นความวุ่นวายมันมี อย่างรักษาศีล 8 ก็ต้องหุงข้าวเย็นกิน ไอ้ศีล 8 มันศีลพรหมจรรย์ จะไม่มีเวลาเจริญกรรมฐานทำสมาธิ คือว่าถ้าหากว่าเราไม่กินข้าวเย็น จิตใจเราจะดีละเอียดอารมณ์สบายๆ

    ตั้งตี 4 ถ้าไม่กินข้าวเย็น อารมณ์จะสบาย ประมาณ 24 น. อาหารย่อยหมด ใช่ไหม มันเป็นอย่างนั้นมันก็ไม่เป็นไร

    ลูกศิษย์ : หลวงพ่อคะ เวลาเราสมาทานศีล 8 แล้วนี่ เราก็นั่งสมาธิเรียบร้อยแล้วพอออกแล้วไปทานข้าวจะผิดไหมคะ

    หลวงพ่อ : ก็ไม่ผิด ชนศีลพังไปข้อหนึ่งก็ไม่เป็นไร สมาทานศีล 8 เพราะว่าศีล 8 นี่เป็นศีลพรหมจรรย์ เวลาเราเจริญกรรมฐาน สมาทานศีล 8 เลิกแล้วก็ทรงศีล 5 ไว้ใช่ไหม พอเลิกแล้วตั้งใจรักษาศีล 5 ไว้แค่นี้พอ ก็ได้ไม่เดือดร้อน ก็ศีล 8 มันคุมอารมณ์ มันเกี่ยวกับกามฉันทะ ก็เท่านั้นไม่มีอะไรมาก

    ลูกศิษย์ : หลวงพ่อคะ อย่างหนูอยากรักษาศีล 8 นี่ แต่หนูถือ 1 อาทิตย์ต่อ 1 วันนี่ ได้ไหมคะ

    หลวงพ่อ : ได้ ดีกว่าอาทิตย์ละ 1 ชั่วโมง ถ้าเรายังไม่ได้ก็ได้ ตามปรกติพระพุทธเจ้าท่านบอกฆราวาสท่านให้รักษาวันพระนะ ก็ศีล 8 นี่ฆราวาสมันไม่ค่อยถนัด ใช่ไหม ก็มีงาน ท่านกำหนดให้ว่าวันพระถือเป็นวันรักษาอุโบสถ แล้วการรักษาอุโบสถก็มี 3 อย่าง ศีล 8 กับอุโบสถก็เหมือนกัน สิกขาบทเท่ากันนะ แต่เวลาอุโบสถนี่จำกัดเวลา ศีล 8 จะไม่จำกัดเวลา

    ถ้า "ปกติอุโบสถ" รักษาเฉพาะวันพระคืนหนึ่งกับวันหนึ่ง

    ถ้า "ถ้าปฏิชาครอุโบสถ" ก็รักษา 7 วัน ก่อนวันพระ 3 วัน หลังวันพระ 3 วัน วันพระอีก 1 วัน

    ถ้าเกินกว่า 7 วันเรียก "ปาฏิหาริกปักขอุโบสถ"

    เขาให้เลือกรักษาเองตามความเหมาะสม


    (จากหนังสือรวมคำสอนธรรมปฏิบัติ เล่ม 10 หน้า 420-422)
     

แชร์หน้านี้

Loading...