ครัยสวดมนต์เหมือนผมมั่งครับ

ผมจะตั้ง....นะโมสามจบและพุธธัง ธ้มมัง สังคัง นะมัสสามิ ต่อด้วย ชินบัญชรเพื่อเปิดทางเพื่อกันเหล่าภูตผีและเทวดาที่มีมิฉฉาทิจฐิที่จะมาขัดขวางการสวดมนต์ของเราแล้วตามด้วยขอขมาพระรัตนตรัยแล้วก้อชุมนุมเทวดาแล้วต่อด้วยอิติปิโส พาหุง มหากา ยอดพระกัณฑ์ไตรปิฎก และก้อ พระธรรมจักรฯ พระอาการะวัตตาสูตร พระคาถาธารณปริตร แต่ละบทผมจะตั้ง นะโมสามจบและพุธธัง ธ้มมัง สังคัง นะมัสสามิ ทุกครั้ง และก้อ อุทิศกุสล และนี้คือ คำที่พูด ข้าแต่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ลูกขอเบิกที่ลูกได้ทำมาตั้งอดีตชาติ และบุญกุศลทั้งหลายทั้งปวงที่ลูกได้กระทำมาแล้ว ตลอดจน อานิสง ที่ลุกสวดมนต์ทุกทุกมนต์พระคาถา
ลูกขอถวาย กับองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทุกทุกพระองค์ องค์พระปัจเจกพระพุทธเจ้าทุกทุกพระองค์ และพระอรหันตสาวกทุกทุกพระองค์ ตลอดจน องค์พ่อหลวงพี่และองค์เถระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ องค์อมิตพุทธเจ้า และองค์พระโพธิสัตว์เจ้าแม่กวนอิม และองค์พระโพธิสัตว์ทุกทุกพระองค์ และขอกุศลบุญทั้งหมดทั้งสิ้น จงสำเร็จ แก่แม่ ของลุกที่ได้ลวงลับไปแล้ว พ่อและพี่สาวของลูกที่ยังมีชีวิตอยุ่ และพ่อและแม่ของลูกที่ล่วงลับไปแล้วในอดีตชาติทุกทุกภพทุกทุกชาติและลุงป้าน้าอาญาติของลุกทั้งฝ้่ายพ่อและฝ่ายแม่ทั้งที่มีชีวิตอยุ่และล่วงลับไปแล้วก้อดี ขอกุศลบุญของลุุกจงสำเร็จแก่พระแม่เจ้าธรณีพระแม่คงคาพระแม่โพสพ และเทวดาที่ดูแลปกปักรักษาตัวลุกเองครูบาอาจารย์ผู้ที่มีพระคุณ คนที่รุ้จักและคนที่ไมรุ้จัก มิตรรักคนสนิทและศัตรู ขอบุญกุศลทั้งหมดนี้จงไปสำเร็จ องค์ท้าวสักกะเทวราช และท้าวมหาพรหม และท้าวจตุโลกบาลทั้งสี่ และเทพเทวาตลอดทั้งแปดหมื่นโลกธาตุและเทพบุตรเทพธิดาที่สถิตอยุ่ประทับอยุ่ ณ โคนต้นไม้ไหญ่และที่ดูแลปกปักรักษาตามวัดวาอารามสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ทุกที่ ตลอดจน คนธรรพ์ นาคา และองค์พ่อปู่ตา ปู่เจ้าที่ย่าเจ้าที่พระภูมิเจ้าที่ทุกสถานที่ และผีบ้านผีเรือนทั้งที่บ้านและที่ทำงาน ขอกุศลบุญทั้งหมดจงสำเร้จ เจ้ากรรมนายเวรของพ่อของแม่พี่สาว และตัวของลูกเอง และสัมภเวสีดวงวิญญานเรร่อน อสุรกายภูมิ เปรตภูมิ อมนุษย์ภูมิ ทุกๆภพทุกๆภุมิทุกๆท่านทุกๆตนทุกๆดวงวิญญาณ ตลอดจนองค์พ่อพญายมราช และนายนิรบาลและดวงวิญญาณทุกๆที่อยู่มหาขุมนรกทุกๆขุมทุกๆตนทุกๆดวงวิญญาณ และขอให้พระองค์ท่านและท่านทั้งหลายโปรดมีสวนในกุศลกรรมดีและบุญกุศลที่ลูกทำมาตั้งในอดีตชาติและปัจจุบันชาติและที่จะกระทำในอนาคตด้วยเทิด สาธุ และ เชิญเทวดากลับ

 

เมื่อก่อนก็สวดท่ีคุณกล่าวมา แต่เดี๋ยวนี้สวด กฎอีทับปจยตา และปฏิจจสมุปบาท
ป ฏิ จ จ ส มุ ป บ า ท

อวิชชาปัจจะยา สังขารา ( เพราะอวิชชาเป็นปัจจัย สังขารจึงมี )
สังขาระปัจจะยา วิญญานัง ( เพราะสังขารเป็นปัจจัย วิญญาณจึงมี )
วิญญาณะปัจจะยา นามะรูปัง ( เพราะวิญญาณเป็นปัจจัย นามรูปจึงมี )
นามะรูปะปัจจะยา สะฬายะตะนัง ( เพราะนามรูปเป็นปัจจัย สฬายตนะจึงมี )
สะฬายะตะนะปัจจะยา ผัสโส ( เพราะสฬายตนเป็นปัจจัย ผัสสะจึงมี )
ผัสสะปัจจะยา เวทนา ( เพราะผัสสะเป็นปัจจัย เวทนาจึงมี )
เวทะนายะปัจจะยา ตัณหา ( เพราะเวทนาเป็นปัจจัย ตัณหาจึงมี )
ตัณหาปัจจะยา อุปาทานัง ( เพราะตัณหาเป็นปัจจัย อุปาทานจึงมี )
อุปาทานะปัจจะยา ภะโว ( เพราะอุปาทานเป็นปัจจัย ภพจึงมี )
ภะวะปัจจะยา ชาติ ( เพราะภพเป็นปัจจัย ชาติจึงมี )
ชาติปัจจะยา ชะรามะระณัง ( เพราะชาติเป็นปัจจัย ชรามรณะจึงมี )
โสกะปะริเทวะทุกขะโทมะนัสสุปายาสา สัมภะวันติ
( ความโศก ความคร่ำครวญ ทุกข์ โทมนัส และความคับแค้นใจ ก็มีพร้อม )
เอวะเม ตัสสะ เกวะลัสสะ ทุกขักขันธัสสะ สะมุทะโย โหติ
( การเกิดขึ้นแห่งกองทุกข์ทั้งปวงนี้ จึงมีด้วยประการฉะนี้ ฯ )


อวิชชา ยะ เตววะ อะเสสะวิราคะนิโรธา สังขาระนิโรโธ
( เพราะอวิชชาสำรอกดับไปไม่เหลือ สังขารจึงดับ )
สังขาระนิโรธา วิญาณะนิโรโธ ( เพราะสังขารดับ วิญญาณจึงดับ )
วิญญาณะนิโรธา นามรูปะนิโรโธ ( เพราะวิญญาณดับ นามรูปจึงดับ )
นามะรูปะนิโรธา สะฬายะตะนะนิโรโธ ( เพราะนามรูปดับ สฬายตนะจึงดับ )
สะฬายะตะนะนิโรธา ผัสสะนิโรโธ ( เพราะสฬายตนะดับ ผัสสะจึงดับ )
ผัสสะนิโรธา เวทนานิโรโธ ( เพราะผัสสะดับ เวทนาจึงดับ )
เวทนานิโรธา ตัณหานิโรโธ ( เพราะเวทนาดับ ตัณหาจึงดับ )
ตัณหานิโรธา อุปาทานะนิโรโธ ( เพราะตัณหาดับ อุปาทานจึงดับ )
อุปาทานะนิโรธา ภะวะนิโรโธ ( เพราะอุปาทานดับ ภพจึงดับ )
ภะ วะนิโรธา ชาตินิโรโธ ( เพราะภพดับ ชาติจึงดับ )
ชาตินิโรธา ชะรามะระณัง ( เพราะชาติดับ ชรามรณะจึงดับ )
โสกะปะริเทวะทุกขะโทมะนัสสุปายาสา นิรุชฌันติ
( ความโศก ความคร่ำครวญ ทุกข์ โทมนัส และความคับแค้นใจจึงดับ )
เอวะเมตัสสะ เกวะลัสสะ ทุกขักขันธัสสะ นิโรโธ โหติ
( การดับแห่งกองทุกข์ทั้งปวงนี้ จึงมีด้วยประการฉะนี้ ฯ )

 

ผู้ใดเห็นปฏิจจสมุปบาท
ผู้นั้นชื่อว่า เห็นธรรม

ผู้ใดเห็นธรรม
ผู้นั้นชื่อว่า เห็นปฏิจจสมุปบาท

มหาหัตถิปโทปมสูตร มู.ม.๑๒/๓๕๙, ๓๖๐/๓๔๖

และพระศาสดาก็ตรัสยืนยันการเห็นธรรม คือ ปฏิจจสมุปบาท แก่วักกลิไว้ทำนองเดียวกัน

อย่าเลย วักกลิ !
ประโยชน์อะไร ด้วยการเห็นกายเน่านี้

ดูก่อนวักกลิ !
ผู้ใดเห็นธรรม
ผู้นั้นเห็นเรา

ผู้ใดเห็นเรา
ผู้นั้นเห็นธรรม

ดูก่อนวักกลิ !
เพราะว่า
เมื่อเห็นธรรมอยู่ ก็คือเห็นเรา
เมื่อเห็นเราอยู่ ก็คือเห็นธรรม

วักกลิสูตร เถรวรรค มัชฌิมปัณณาสก์ ขนฺธ. สํ.๑๗/๑๔๖-๗/๒๑๖