คนที่จะได้เป็นเบญจกัลยาณี ต้องทำบุญอย่างไรบ้าง ?

ในห้อง 'บุญ-อานิสงส์การทำบุญ' ตั้งกระทู้โดย paang, 9 มิถุนายน 2007.

  1. paang

    paang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2005
    โพสต์:
    9,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +34,328
    <TABLE class=ImageFrame_brand cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD class=IMG colSpan=3 rowSpan=3>
    [​IMG]
    </TD><TD class=RRT>
    </TD></TR><TR><TD class=LL style="HEIGHT: 570px">
    </TD><TD class=RR style="HEIGHT: 570px">
    </TD></TR><TR><TD class=LLB>
    </TD><TD class=RRB>
    </TD></TR><TR><TD class=BL>
    </TD><TD class=BBL>
    </TD><TD class=BB style="WIDTH: 357px">
    พระครู ธรรมธรเล็ก สุธัมมปัญโญ
    </TD><TD class=BBR>
    </TD><TD class=BR>
    </TD></TR></TBODY></TABLE>​



    ถาม: คนที่จะได้เป็นเบญจกัลยาณี ต้องทำบุญอย่างไรบ้างเจ้าคะ ?

    ตอบ: เบญจกัลยาณีนี้ จุดสำคัญที่สุดก็คือว่าซ่อมพระพุทธรูป เป็นพระพุทธรูปปรักหักพังอย่างไรก็ไปซ่อม แต่ว่าขณะเดียวกัน ถ้ามีเมตตาเป็นปกติ มีศีลเป็นปกติก็จะสวยอยู่แล้ว คราวนี้ความสวยนี้จะเสื่อมไปตามวัย เบญจกัลยาณีนี้ถ้ามีลูกเมื่อไรจะอยู่แค่นั้น ได้กำไรกว่าเขาอยู่อันหนึ่ง

    ถาม: ไม่ทราบว่า ภพชาติที่จะได้ผล จะยาวนานแค่ไหน ?

    ตอบ: ก็ต่อไป ๆ ในภายหน้า เขาเรียกว่า อปราปรเวทนียกรรม กรรมที่ให้ผลในชาติที่สองที่สามต่อไปเรื่อย ไม่ใช่ปัจจุบันนี้ ปัจจุบันนี้ที่เป็น ทิฏฐธรรมเวทนียกรรม มันมีอยู่ทั้งความดีความชั่ว ถ้าหากว่าฝ่ายชั่ว ก็คือ ฆ่าพ่อ ฆ่าแม่ ฆ่าพระอรหันต์ ทำร้ายพระพุทธเจ้าถึงห้อพระโลหิต ยุสงฆ์ให้แตกกันเป็นสังฆเภท อันนี้ลงอเวจีมหานรกอย่างเดียว ถ้าทำครบสี่อย่างก็ลงโลกันต์ไปเลย


    คราวนี้ในฝ่ายดี ก็คือสร้างฌานสร้างสมาบัติได้เป็นปกติ อยู่ระดับก็จะส่งผลให้เกิดเป็นพรหมในระดับนั้น ถ้าทรงอรูปฌานได้ก็จะเป็นพรหมในระดับนั้น แต่ว่ามีอยู่อีกอันหนึ่งว่า ถ้าได้ทำบุญกับพระที่ออกนิโรธสมาบัติจะรวยในชาตินั้นทันทีเลย เพราะฉะนั้นทิฏฐธรรมเวทนียกรรมนี้ทำยากหน่อย ให้ผลในปัจจุบัน แต่ว่าให้แล้วให้เลย เหมือนกับการเพาะถ่วงอกกินแล้วหมดเลย ให้ผลเร็วมาก ถั่วงอกนี้ ๓ ชั่วโมงได้กินแล้ว แต่ว่ากินแล้วหมดเลย ขณะเดียวกันกับกรรมอื่น ๆ ที่เป็น อุปัชชเวทนียกรรม อปราปรเวทนียกรรม ให้ผลในการข้างหน้าต่อเนื่องยาวนานไปเรื่อยเหมือนกับเราปลูกไม้ผล ๓ ปี ๕ ปี กว่าจะได้กิน แต่ถ้ามันโตขึ้นมามันได้อยู่เรื่อย



    ที่มา กระโถนข้างธรรมาสน์
    ฉบับที่ ๓๓ เดือนพฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๔๙
     

แชร์หน้านี้

Loading...