การไม่สำเร็จความใคร่ การไม่เสพคนรักของผู้อื่น มีอานิสงส์ดังต่อไปนี้

การสำเร็จความใคร่ แม้ว่าเราจะศีลห้าไม่ขาด แต่ถือได้ว่า ได้ทำความเศร้าหมอง หม่นหมองให้กับตนเอง


เพราะผู้ที่ไม่สำเร็จความใคร่ ก็จะเป็นผู้ที่ดูภายนอกบริสุทธิ์สดใส น่ารัก


ดังนั้น คนบางคน แม้ว่าเขาจะรักษาศีลห้าแล้ว ก็ยังไม่พอ ยังปรารถนาที่จะบริสุทธิ์มากไปกว่านั้นอีก เขาจึงรักษาศีลแปด หรืออุโบสถศีล ผลของศีลชนิดนี้ ทำให้รูปกายสวยงาม สีหน้าเบิกบาน ดูสะอาด น่าเคารพ และได้รับอานิสงส์มากเพิ่มขึ้น



อรรถกถาท่านอธิบายอานิสงส์น่ารัก น่าใคร่ของศีลข้อนี้ต่อไปนี้


อพฺรหฺมจริยาเวรมณี มีผลมีอาทิอย่างนี้ คือ

วิคตปจฺจตฺถิกตา (ความเป็นผู้ปราศจากข้าศึก , ไม่มีใครรังเกียจ)

๑ สพฺพสตฺตานํ ปิยมนาปตา (ความเป็นที่รักเป็นที่พอใจของสรรพสัตว์) ๑

อนฺนปานวตฺถจฺฉาทนาทีนํ ลาภิตา (ความเป็นผู้มีปกติได้ของต่างๆ เช่น ข้าว น้ำ ผ้า และวัตถุเครื่องปกปิด ไม่ขัดสน)

๑ สุขสุปนตา (การนอนหลับสบาย) ๑

สุขปฏิพุชฺฌนตา (การตื่นขึ้นมาสบาย) ๑

อปายภยวิโมกฺโข (การพ้นจากภัยในอบาย) ๑

อตฺถีภาวนปุ ํสกภาวานํ อภพฺพตา (ความไม่ควรแก่การเกิดเป็นหญิง เป็นกะเทย) ๑

อกฺโกธนตา (ความเป็นผู้ไม่โกรธ) ๑

สจฺจการิตา (ความเป็นผู้มีปกติทำจริง) ๑

อมงฺกุภูตตา (ความเป็นผู้ไม่เก้อเขิน ประหม่า ) ๑ (ผู้สำเร็จความใคร่บ่อย ๆ มักจะเป็นผู้ประหม่า)

อาราธนสุขตา (ความเป็นผู้มีความสุขด้วยการรับเชิญ ใครก็อยากให้ไปไหนต่อไหนด้วย) ๑

ปริปุณฺณินฺทฺริยตา (ความเป็นผู้มีอินทรีย์บริบูรณ์) ๑

นิราสงฺกตา (ความเป็นผู้ปราศจากความระแวง) ๑

อปฺโปสฺสุกฺกตา (ความเป็นผู้มีความขวนขวายน้อย คือไม่ต้องพยายามมาก ไม่ต้องลำบากมาก) ๑

สุขวิหารตา (ความเป็นผู้อยู่อย่างเป็นสุข) ๑

อกุโตภยตา (ความเป็นผู้ไม่มีภัยจากที่ไหนๆ) ๑

ปิยวิปฺปโยคาภาโว (ความเป็นผู้ไม่มีการพลัดพรากจากของรัก) ๑.


แม้ผลของการงดเว้นจากมิจฉาจาร ก็รวมอยู่ในผลของการงดเว้นจากการไม่ประพฤติพรหมจรรย์ เพราะฉะนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสว่า อพฺรหฺมจริยา เวรมณี ดังนี้.




แม้ว่าเราจะรักษาศีลห้า ไม่ละเมิดเสพกามารมณ์กับผู้ที่มีเจ้าของ ก็จัดว่าเป็นผู้ที่ศีลบริสุทธิ์ ได้รับอานิสงส์เหล่านี้ แต่เราจะได้รับอานิสงส์ด้านบนนี้น้อยกว่าการรักษาศีลแปด หรือเข้าจำอุโบสถศีล เพราะการรักษาศีลชนิดนี้ ทำให้เราได้รับอานิสงส์ด้านบนนี้อย่างเต็มที่ เต็มเปี่ยม เพราเป็นศีลที่บริสุทธิ์กว่า และมีอานุภาพมาก การรักษาอุโบสถศีล ให้เราเว้นแม้แต่การสำเร็จความใคร่และการมีเพศสัมพันธ์กับแฟนแม้แต่ของตนเอง


อ้างอิงจาก

อรรถกถา ปุตตสูตร อ่านปุตตสูตรได้จาก

http://84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=25&A=5822&Z=5863&pagebreak=0

ศึกษาอรรถกถานี้ ได้ที่ :-
http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=25&i=252

http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y5255465/Y5255465.html<!--MsgFile=0-->

 

ไม่ง่ายเลยครับการที่จะไม่สำเร็จความใคร่ตัวเอง เพราะผมก็ปฎิบัติอยู่วิธีของผมนะ วันธรรมดาจะถือศีล ๕ พยายามไม่ให้ขาด ไม่ให้ทำลาย และวันพระถือศีล ๘ อุโบสถ ต้องไม่ขาด ต้องไม่ทำลาย และไม่หมกหมุ่นอยู่กับสื่อลามก ให้นึกอยู่เสมอว่า วันธรรมดาก็เหมือนวันพระ คือถือศีล ๕ แต่พยายามถือศีล ๘ ด้วย
สาธุ ที่เปิดกระทู้

 

อ่า ทำยากนะนี่
แค่ไม่ขาดศีลห้าก็พอใจแล้วครับ

สาธุที่เปิดประเด็น กำลังสงสัย หุหุ

 

ศีล 8 ยังขนาดนี้ แล้วถ้าเป็นศีลของพระภิกษุจะดีเลิศขนาดไหนหล่ะครับ คิดดู อนุโมทนาสาธุครับ

 

บารมีใด อันองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ทรงได้บำเพ็ญมาดีแล้ว
บารมีนั้น ข้าพระพุทธเจ้าขออนุโมทนา

 

ธมฺโม หเว รกฺขติธมฺมจารี<O</O​

พระธรรมนี่แหละย่อมรักษาผู้ประพฤติธรรม<O</O​

<O</O

บุญสำเร็จได้ด้วยการ อนุโมทนา สาธุ สาธุ สาธุ<O</O​

<O</O

ขอให้ทุกท่านมีความเจริญยิ่งขึ้นในพระพุทธศาสนา<O</O​