กว่าจะเข้าถึงปรมัตถบารมี

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย Wannachai001, 4 พฤษภาคม 2024.

  1. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    119
    ค่าพลัง:
    +225,741
    82496501_1472138749629326_4322441278374543360_n.jpg

    กว่าจะเข้าถึงปรมัตถบารมี


    นี่เราต้องฉลาดมาเยอะ ชาตินี้ยอมโง่ชาติสุดท้าย มันเพิ่งโง่ชาตินี้ ทุกชาติฉลาดมาทุกชาติ รู้หมดนรกมีกี่ขุม ตายจากคนแล้วไปแสวงหาความสุขในนรกทุกขุม เราต้องเป็นคนฉลาด นายนิริยบาลนี่ไม่สามารถนอนหลับได้ กลัวเราหนี เราเก่งมาก แต่ขอเลิกเก่งละ ไม่เอาละ

    นี่กว่าจะเข้าถึงมุมนี่ได้ มันแสนยาก ถ้าจะถามว่าเคยพบพระพุทธเจ้ามากี่องค์ ก็ใช้ปุพเพนิวาสานุสสติญาณ ถ้าใช้ของเราเองอาจจะผิด ถ้าขึ้นไปถึงนิพพานได้ไปถามพระพุทธเจ้า กราบท่านด้วยความเคารพ ถามว่า ข้าพระพุทธเจ้าเกิดมาชาตินี้กว่าจะได้พบความดีได้ พบพระพุทธเจ้ามากี่องค์ ท่านจะบอก แล้วขอพบ เราจะพบได้ทันที อันนี้ก็ของไม่ยาก

    กว่าจะรู้ได้ใช้เวลามาก นรกมีกี่ขุมๆ รู้หมด มันร้อนขนาดไหน มันเจ็บขนาดไหนรู้หมด ฉลาดจริงๆมันต้องพิสูจน์ พระพุทธเจ้าบอกนรกมีทุกข์มันร้อน เราก็ไม่แน่ใจ มันต้องโดดไปดูก่อน โดดไปเดี๋ยวเดียว ไม่แน่ต้องอยู่นานๆ อาจจะไม่ร้อนก็ได้ ต้องอยู่จนจบเกณฑ์ของเขา มันต้องอย่างนั้น แต่ก็ยังโง่อยู่ 3 จุด ขุมที่ 7 ขุมที่ 8 กับโลกันต์ไม่ได้ไป แต่ไม่ขอฉลาดแล้วพอแล้ว คือว่าไม่ยอมฉลาด ไม่ขอศึกษาต่อไป

    เราก็ต้องภูมิใจในความดีของเรา พวกเรากว่าจะรู้สึกว่าการเกิดเป็นทุกข์ ความแก่เป็นทุกข์ ความป่วยไข้ไม่สบายเป็นทุกข์ ความปรารถนาไม่สมหวังเป็นทุกข์ ความพลัดพรากจากของรักของชอบใจเป็นทุกข์ กว่าจะรู้จริงๆใช้เวลาเท่าใด การสะสมความดี ความดีนี่มันไม่ได้ทิ้งจากตัวเรา คือเราทำบุญวันนี้ พรุ่งนี้เราไปทำบาป บุญไม่หาย บุญมันก็อยู่ส่วนบุญ บาปมันก็อยู่ส่วนบาป มันประจำอยู่ในอารมณ์ของใจ

    ทีนี้การทำทุกครั้งบุญก็สั่งสมตัวทุกๆครั้งที่เราทำ ก็สั่งสมมากขึ้น ที่พระพุทธเจ้าบอกว่าบำเพ็ญบารมี คือต้องบารมีเต็ม คือชาติเดียวนี่มันเต็มไม่ได้ ต้องสั่งสมกับมาบุญเก่าสนอง คือเป็นเครื่องรองรับกันเรื่อยๆ แต่ว่าบังเอิญชาติไหนก่อนจะตายจิตใจเศร้าหมองก็โดดไปนรกก่อนแล้วค่อยขึ้นสวรรค์ ถ้าชาติไหนจิตใจผ่องใสเวลาจะตายจิตเป็นกุศลก็ไปสวรรค์ก่อน ก็วิ่งกันไปวิ่งกันมาและจนกว่าจะเข้าถึงจุด จุดจริงๆก็คือปรมัตถบารมีเข้มข้น

    ถ้าถึงปรมัตถบารมีเข้มข้น มันต้องหลายชาตินะ ถ้าเริ่มเข้าถึงปรมัตถบารมีชาตินั้นละไปนิพพานไม่ได้หรอก บารมีมี 10 ทุกอย่างต้องเข้มหมด ถ้าเข้าถึงปรมัตถบารมีเข้มข้น ถ้าเต็มจริงก็ไปนิพพานชาตินั้น เข้มข้นยังไม่เต็มเปี่ยมสะอาดยังไม่หมด ตอนสะอาดยังไม่หมดก็ยังสร้างความชั่วคือการทำบาป แต่ในจุดนี้ไม่ยอมลงนรกกันแล้ว ความชั่วก็มี ความดีก็ปรากฏ บาปก็ทำ บุญก็ทำ แต่จิตก็ยังมีความมั่นคงในบุญกุศลที่เราทำ เวลาจะตายจิตใจจับกุศลก่อนไปสวรรค์ ไปพรหมก่อน

    แล้วก็มีบารมีถึงขั้นปลาย พวกเทวดาก็ดี พรหมก็ดีพวกนี้จะไม่อยู่ครบอายุ ถ้าครบอายุการเป็นเทวดาหรือพรหม ถ้าหมดบุญจริงๆ ต้องพุ่งหลาวลงนรก พวกนี้จะไม่ประมาท ไม่ยอมให้หมดอายุ โดดลงมาก่อน ดูว่าอีกกี่ปีจึงจะหมดอายุขัย ก็นั่งมองตระกูล จะลงตระกูลไหนดี ตระกูลที่จะลงไม่ใช่เลือกลงที่ร่ำรวย เพราะเทวดากับพรหมเขาต้องเลือกลงมาต่อบารมีของเขาให้เข้มข้น

    ถ้าเกิดในตระกูลที่ร่ำรวย เรามีอุปสรรคตลอดเราไม่ลง ถ้าไม่มีอุปสรรคเราลง ถ้าหากว่าตระกูลที่ยากจนแสนจน จะลำบากกี่ปีเขาจะรู้วิถีชีวิตมาเลย แล้วถึงปีที่เท่านั้นเท่าโน้นเราจะตาย พอถึงปีที่เท่านี้ก่อนตายกี่ปี จะได้มีโอกาสทำความดีตามต้องการ เขาจะลงจุดนั้น เห็นไหม...?

    เพราะฉะนั้นจะถือว่าคนที่มีบารมีเต็มจะต้องเกิดในฐานะร่ำรวยไม่ใช่ เขาจะต้องเพ่งดูก่อนว่า ไอ้จุดนั้นเราจะสั่งสมบารมีได้ไหม ครบถ้วนไหม


    (จากธัมมวิโมกข์ ปีที่ 5 ฉบับที่ 45 หน้า 129-130)
     

แชร์หน้านี้

Loading...