นั่งสมาธิแล้วปวดศีรษะ....สมเด็จโต พรหมรังสี

<table border="1" cellspacing="0" width="100%"> <tbody> <tr bgcolor="#4b9339"> <td hight="30">[SIZE=+2] <center>นั่งสมาธิแล้วปวดศีรษะ....สมเด็จโต พรหมรังสี</center>[/SIZE]</td></tr></tbody></table> <table width="100%"> <tbody> <tr width="100%"> <td colspan="2">
อ.ลัดดา ประเสริฐกุล-มีเพื่อนของลูกคนหนึ่งเจ้าค่ะ นั่งอยู่ในที่นี้ด้วย เขาเคยไปนั่งวิปัสสนาในป่าช้าเจ้าค่ะ

อ.ภาวาส บุนนาค-ผมก็ตามๆเขาไปอย่างนั้นแหละครับ

สมเด็จ-คือ ในการนั่งวิปัสสนากรรมฐานนั้น ไม่จำเป็นที่จะต้องไปนั่งในป่าช้า คือ หาที่สงบฝึกก่อน ในการที่เขาจะไปฝึกในป่าช้าอะไรนั่น เขาเรียกว่า ไปลองว่าจิตของตนนี้ นิ่งเพียงพอหรือไม่ต่างหากเล่า แล้วในการออกไปสู่ป่านั้น เขาไปทดสอบในความนิ่งของตนก่อน และถ้าท่านอยากจะเห็นผี ผีลุกขึ้นมา ท่านกลัวหรือไม่? ท่านต้องถามตัวเองก่อน.....




http://www.pantown.com/board.php?id=13834&name=board1&topic=104&action=view

</td></tr></tbody></table>

 

เกี่ยวอะไรกับหัวข้ออ่ะ

 

เห็น หัวข้อ ก็คิดว่า จะมีคำแนะนำ หรือวิธีแก้ไขอ่ะ..

 

การนั่งสมาธิแล้วปวดหัวเกิดจากหลายสาเหตุ
เช่น
เครียดเกินไป
สถานแห่งนั้นมีพลังที่ไม่ดีอยู่
หรือแม้แต่โดนวิญญานแกล้งก็มี

วิธีแก้ก็มีหลายวิธี เช่นสวดมนต์ก่อนนั่งสมาธิและไม่เคร่งเครียดจนเกินทางสายกลาง
เมื่อสวดมนต์เสร็จก็ควรอธิษฐานสิ่งศักธิ์สิทธิ์ให้คุ้มครองดูแล
ป้องกันวิญาญานไม่ดีมารบกวนเรา และควรหาพระที่ศักธิ์สิทธิ์คล้องคออยูตลอดเวลาด้วย นี่ป็นคำพูดของพระอาจารย์ที่ผมนับถือ

 

ขอบคุณความคิดเห็ฯข้างบนมากค่ะเพราะหนุก้เคยนั่งเเล้วปวดสองวันเเนะเลยพูดไรไม่รู้ขอพระพุธเจ้าอ่ะเลยหายปวดอ่ะ

 

การนั่งสมาธิแล้วเกิดการปวดหัวนั้นอย่าไปโทษอย่างอื่นเลย เกิดจากการที่เรานั่งแล้วไปเพ่งอยู่ที่เดียวคือคุณอยากให้สงบ แต่มันไม่สงบเพราะจิตมันคิดอยู่ตลอดเวลาคุณก็พยามบังคับมันเลยเกิดอาการต้านกันจึงทำให้ปวดหัว วิธีแก้ก็คืออย่าอยากให้สงบ ให้รู้อยู่ที่ปัจจุบันทำความรู้สึกตัวดูจิตมันคิด เหมือนดูหนังถ้าคุณยินดียินร้ายกับมันคุณก็หลงไปกับแต่ถ้าคุณมีสติรู้ว่าเป็นเพียงละคร คุณก็จะไม่เข้าไปหลงกับมัน เพียงแค่ดูอยู่เฉยๆอย่าไปปรุงแต่ตามมันแค่นี้คุณก็สบายแล้ว ลองทำดูนะครับแล้วคูณจะเห็นความเกิดความดับของอารมณ์ที่ไหลอย่ตลอดเวลา เหมือนแม่น้ำที่ไหลตลอด

 

วิทยายุทธสูงล้ำ แต่ครอบงำเอาไว้ได้อย่างมิดชิด หรือ วิทยายุทธสูงสุดยอด พลันกลับคืนสู่สามัญ

 

จากประสบการณ์นะครับ แต่ผมไม่เคยนะการที่เรานั้งสามาธิแล้วปวด ศรีษะเป็นได้หลายสาเหตุ 1. ถ้าเอาทางโลก คือตัวเราไปกำหนดจิตเองและเกิดความกดดันที่จิตใจ จนส่งผลไปสู่ร่างกายเหมือนกับหลายท่านที่อธิบายมานะครับ (โดยรวมๆ)2. อันนี้ละสำคัญ (พระท่านเคยบอกว่า คนจะทำความดี มันมี มารมาขวาง เหมือนกันครับ บางคนไม่ปวดหัว แต่ตัวสั่นบ้าง ปวดเมื่อยบ้าง (นั้นละครับคือมารที่จะไม่ให้เราไปสู่นิพพาน) แล้วแต่คนที่จะเจอมากน้อยไม่เหมือนกัน )หรือ การกำหนดจิตบางครั้งมันเป็นการทดสอบครับว่าเราสอบผ่านที่จะผ่านไปไกล้นิพพานหรือยัง ถ้าตราบใดที่เรายังไม่อาจจะที่สอบผ่านตรงนี้ไปได้ นั้นก็หมายความว่า เรายังต้องฝึกอดทนต่อการสอบครั้งต่อไป นะครับ (อย่าไปยึดติด) ก่อนก็รู้ ขณะก็รู้ หลังก็รู้ ใจเย็นๆๆนะครับ แล้วจะสอบผ่านแน่นอน อนุโมทนา ต่อสิ่งดีๆครับ

 

ลองโทรไปที่สำนักปู่สวรรค์ บางแค 024210489 02421528 นะครับ
แต่ก่อนที่นี่รักษาโรค ปัจจุบันเลิกรักษาแล้ว
แต่ก็สามารถให้คำแนะนำดีๆได้ครับ

 

อ. สถิตธรรม เพ็ญสุข ที่ ประดิพัทธ์สิบ ตรงแยกสะพานควาย เลี้ยวเข้าประดิพัทธ์ ป้ายที่สอง ทางขวามือประมาณสิบเมตร ศูนย์พัฒนาพลังชีวิตครับ

 

เพิ่งเจอหนังสืออมตธรรมขออนุญาติท่าน rinnn เขียนต่อครับ

 

อาจารย์ภาวาส : ผมอธิษฐานว่า อย่าให้เห็นครับ

อาจารย์ลัดดา: ลูกเป็นห่วงว่าเล่นกับผี เดี๋ยวผีมันจะเข้าตัว ต้องมารดน้ำมนต์ไล่กันแย่

อาจารย์ภาวาส: ผมเข้าใจว่า ผีก็พยายามจะเข้าผมเหมือนกัน รู้สึกมึนวิงเวียนศีรษะ จะเป็นไปเอง หรืออย่างไรไม่ทราบ

สมเด็จ : ในเรื่องการวิงเวียนศีรษะนี้ อาตมาจะอธิบายให้ฟัง มีหลักหลายอย่าง
สภาพการณ์ถ้าท่านกำลังฝึกวิปัสสนากรรมฐานแล้ว เกิดวิงเวียนศีรษะ

 

เขาเรียกว่า ปรับธาตุ ธาตุทั้งสี่ในกายจะเสมอก็อาจจะวิงเวียนศีรษะ

ข้อที่สอง ท่านอาจเป็นโรคของศีรษะ โรคประสาท ก็อาจเกิดการวิงเวียนศีรษะระหว่างปรับธาตุ

ข้อที่สาม คือวิญญาณจะเข้าร่าง ถ้าวิญญาณพวกอมรมนุษย์ พวกกายหยาบแล้ว เขาจะบังคับประสาทส่วนบนของท่านก่อน
ไม่เหมือนอาตมา อาตมาบังคับจิตก่อน ไม่ให้จิตเคลื่อนไหว วิญญาณแทรกเข้ามา ถ้าพวกกายหยาบเขาจะบังคับประสาทของท่าน เพราะฉะนั้นต้องดูกาละในระหว่างนั้น ว่าอยู่ในข้อไหน

ทีนี้ ถ้านิ่งแล้วมีจิตแห่งความกลัว หรือผวากอยู่ เกิดความวิงเวียนศีรษะนี้ เขาเรียกว่า ธาตุมันเต้นผิดปกติ ก็จะวิงเวียนศีรษะ

ข้าหลวงสุทิน :ทีนี้พวกฝึกกันใหม่ๆ ไม่สามารถบังคับจิตให้นิ่งได้ดังปรารถนา เพราะจิตนี้แกว่งไปแกว่งมาเหมือนลิง ไม่อยู่สุข ดังนั้นเป็นการยากที่จะทำให้จิตนิ่ง นั่นประการหนึ่ง
และประการที่สอง การฝึกจิต มักจะเกิดอาการง่วงเหงาหาวนอน สองประการนี้ ขอความกรุณาหลวงพ่อได้โปรดอธิบายด้วยครับ

สมเด็จ : ที่มันง่วงก็เพราะว่า เวลาหลับตาแล้ว ตาในก็หลับด้วย มันก็เลยหลับไปเลย คือนการนั่งวิปัสสนา ตาข้างในจะต้องไม่หลับแต่เปลือกตาปิดไว้เท่านั้น นั้นแหละ มันจึงไม่มีความง่วง เพราะว่ามันเป็นการบังคับจิตของมันอยู่ในตัว ที่ทุกวันนี้มันง่วง เพราะมันหลับกันที้งสอง ทั้งตานอกตาใน หลับแล้วก็นึกเอา นั่งนึกกันใหญ่

ข้อสำคัญเวลาจะนั่งวิปัสสนา อย่ามีการนัดแนะ เช่นหนุ่มสาวจะไปดูหนังดูละคร 10 โมง หรือ 12 โมง ก็ว่ากันไป แล้วเหลือเวลาก่อนนัดสัก 2-3 ชั่วโมง มานั่งวิปัสสนา มันก็จะกลายเป็นวิปัสสนากไป นึกว่าเดี๋วยเราจะไปเที่ยวหนา นัดจะไปเที่ยวหนา แล้วมันจะนั่งได้อย่างไร

การนั่งวิปัสสนานั้น มันจะต้องวางหมดทุกๆจิต จิตจะต้องว่างจากสรรพสิ่งแล้วค่อยนั่ง เมื่อนั้นแหละ ท่านจะรู้จักดวงใน รู้จักฌาณ ญาณ ซึ่งอาตมาบอกแล้วว่า จุดแห่งความถึง จุดแห่งความนิ่งเป็นเอกะ จิตนั้นนิ่งประภัสสรแล้วไซร้ ต่อไปท่านย่อมที่จะรู้อะไรๆ

และในการที่จะอธิบายให้เข้าใจด้วยภาษามนุษย์ ในเรื่องของการถึงจุดแห่งความประภัสสรของวิมุตติจิตนั้น ถ้าอธิบายเป็นภาษามนุษย์ง่ายแล้วไซร้ องค์สมณโคดมคงจะไม่ประกาศธรรมไว้ว่า

ผู้ใดถึงธรรม ผู้นั้นถึงตถาคต ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นตถาคต

เจริญพร
เทศน์ ณ สำนักปู่วรรค์
จากหนังสือ โต พรหมรังษี ชุด จอมปราชญ์แห่งกรุงสยาม
เกหลง พานิช รวบรวม จัดพิมพ์โดย โครงการธรรมไมตรี

 

อนุโมทนาค่ะ

___________________________________

สุขใดเหมือนแม้นการไม่เกิดไม่มี

 

ผมก็เคยเป็น นั่งอยู่เฉยๆใจท่องชินบัญชร ปวดตรงจุดเดียวคือหัวทางด้านซ้ายทุกครั้ง ก็ปล่อยไปเรื่อยๆเพราะไม่รู้ว่าจะทำให้หายได้อย่างไร หลายๆครั้งเข้าเหมือนมันระเบิดนิดๆตรงจุดที่ปวด มันโล่งๆเย็นๆ ผมก็ปล่อยไป เดี๋ยวนี้จะมีอาการแน่นๆตรงที่เดิม ภาวนาไปเรื่อยๆจะเหมือนเปิดขวดน้ำอัดลมแล้วมีฟองล้นออกมา แบบนั้นโล่งมาก