รูปไม่เที่ยง สิ่งใดไม่เที่ยง สิ่งนั้นเป็นทุกข์ สิ่งใดเป็นทุกข์ สิ่งนั้นเป็นอนัตตา

ในห้อง 'พระไตรปิฎก' ตั้งกระทู้โดย อุรุเวลา, 26 มกราคม 2013.

  1. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    พระนครสาวัตถี. ณ ที่นั้นแล ฯลฯ
    ดูกรภิกษุทั้งหลาย รูปไม่เที่ยง สิ่งใดไม่เที่ยง สิ่งนั้นเป็นทุกข์ สิ่งใดเป็นทุกข์ สิ่งนั้นเป็นอนัตตา
    สิ่งใดเป็นอนัตตา สิ่งนั้นไม่ใช่ของเรา ไม่เป็นเรา ไม่ใช่ตัวตนของเรา
    ข้อนี้ อริยสาวก พึงเห็นด้วยปัญญาอันชอบ ตามความเป็นจริง อย่างนี้
    เวทนาไม่เที่ยง ฯลฯ
    สัญญาไม่เที่ยง ฯลฯ
    สังขารไม่เที่ยง ฯลฯ
    วิญญาณไม่เที่ยง
    สิ่งใดไม่เที่ยง สิ่งนั้นเป็นทุกข์ สิ่งใดเป็นทุกข์ สิ่งนั้นเป็นอนัตตา สิ่งใดเป็นอนัตตา สิ่งนั้นไม่ใช่ของ
    เรา ไม่เป็นเรา ไม่ใช่ตัวตนของเรา ข้อนี้อริยสาวก พึงเห็นด้วยปัญญาอันชอบ ตามความเป็น
    จริงอย่างนี้ อริยสาวกผู้ได้สดับแล้ว เห็นอยู่อย่างนี้ ฯลฯ ย่อมรู้ชัดว่า ชาติสิ้นแล้ว พรหมจรรย์
    อยู่จบแล้ว กิจที่ควรทำ ทำเสร็จแล้ว กิจอื่นเพื่อความเป็นอย่างนี้มิได้มี.

    พระไตรปิฎก ฉบับบาลีสยามรัฐ (ภาษาไทย) เล่มที่ ๑๗ หน้าที่ ๒๑/๓๑๐
     
  2. Mon Treal

    Mon Treal เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    182
    ค่าพลัง:
    +536
    สาธุค่ะ

    ภิกษุทั้งหลาย ! ภิกษุเห็นจักษุอันไม่เที่ยงนั่นแล ว่าไม่เที่ยง
    ความเห็นเช่นนั้น เป็นสัมมาทิฏฐิ ของเธอนั้น.

    ( สมฺมา ปสฺสํ นิพฺพินฺทติ )
    เมื่อเห็นอยู่โดยถูกต้อง ย่อมเบื่อหน่าย

    ( นนฺทิกฺขยา ราคกฺขโย )
    เพราะความสิ้นไปแห่งนันทิ จึงมีความสิ้นไปแห่งราคะ

    ( ราคกฺขยา นนฺทิกฺขโย )
    เพราะความสิ้นไปแห่งราคะ จึงมีความสิ้นไปแห่งนันทิ

    ( นนฺทิราคกฺขยา จิตฺตํ สุวิมุตฺตนฺติ วุจฺจตีติ )
    เพราะความสิ้นไปแห่งนันทิและราคะ กล่าวได้ว่า “จิตหลุดพ้นแล้วด้วยดี” ดังนี้
    ( ทรงตรัสอย่างเดียวกันทุกประการ
    ในกรณีแห่งอายตนะภายในที่เหลืออีก 5 คือ โสตะ ฆานะ ชิวหา กายะ มโน
    และในกรณีแห่งอายตนะ ภายนอก 6 คือ รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ ธรรมารมณ์ )


    -------------------------------

    สฬา.สํ. 18/179/245-6
     
  3. blackangel

    blackangel เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    1,750
    ค่าพลัง:
    +1,919
    พอดีวันก่อนอ่านเจอมา แต่เห็นดูสอดคล้องกันกับที่ จขกท โผสไว้เลยขอเอามาแปะไว้เพิ่ม
    ปล.อาจจะเยอะหน่อยนะ ถ้าผิดพลาดประการใดบอกด้วย

    ที่มา http://www.84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=18&A=3277&Z=3317&pagebreak=0
     
  4. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    ว่าด้วยความเศร้าหมองและผ่องแผ้วของจิต
    ดูกรภิกษุทั้งหลาย สัตว์ทั้งหลาย ย่อมเศร้าหมองเพราะจิตเศร้าหมอง
    สัตว์ทั้งหลายย่อมบริสุทธิ์ เพราะจิตผ่องแผ้ว.
    ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภาพนิทรรศการนั้น เธอทั้งหลาย
    เห็นแล้วหรือ? ภิกษุทั้งหลายกราบทูลว่า เห็นแล้วพระเจ้าข้า.
    พ. ภาพนิทรรศการแม้นั้นแล ช่างเขียนคิดแล้วด้วยจิตนั่นแหละ.
    จิตนั้นแหละ วิจิตรกว่าภาพนิทรรศการแม้นั้น.
    เพราะเหตุนั้น เธอทั้งหลาย พึงพิจารณาจิตของตนเนืองๆ ว่า
    จิตนี้เศร้าหมองด้วย ราคะ โทสะ โมหะ สิ้นกาลนาน.
    สัตว์ทั้งหลายย่อมเศร้าหมอง เพราะจิตเศร้าหมอง
    สัตว์ทั้งหลายย่อมบริสุทธิ์ เพราะจิตผ่องแผ้ว.
    ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราย่อมไม่พิจารณาเห็นหมู่สัตว์อื่นแม้เพียงหมู่หนึ่ง
    ซึ่งวิจิตรเหมือนอย่างสัตว์ดิรัจฉานทั้งหลายนี้เลย.
    ดูกรภิกษุทั้งหลาย สัตว์ดิรัจฉานแม้เหล่านี้แล คนคิดด้วยจิตนั่นแหละ.
    จิตนั่นแหละวิจิตรกว่าสัตว์ดิรัจฉานแม้เหล่านั้น.
    เพราะเหตุนั้น เธอทั้งหลายพึงพิจารณาจิตของตนเนืองๆ ว่า
    จิตนี้เศร้าหมองแล้วด้วยราคะ โทสะ โมหะ สิ้นกาลนาน.
    สัตว์ทั้งหลายย่อมเศร้าหมอง เพราะจิตเศร้าหมอง สัตว์ทั้งหลายย่อมบริสุทธิ์ เพราะจิตผ่องแผ้ว.
    ดูกรภิกษุทั้งหลาย ช่างย้อมหรือช่างเขียน เมื่อมีเครื่องย้อมก็ดี ครั่งก็ดี ขมิ้นก็ดี สีเขียวก็ดี สีแดงก็ดี
    พึงเขียนรูปสตรีหรือรูปบุรุษ มีอวัยวะใหญ่น้อยครบทุกส่วนลงที่แผ่นกระดานเกลี้ยงเกลา
    หรือที่ฝา หรือที่แผ่นผ้า แม้ฉันใด.
    ดูกรภิกษุทั้งหลาย ปุถุชนผู้ไม่ได้สดับ ฉันนั้นเหมือนกัน
    เมื่อจะให้เกิด ย่อมยังรูปนั่นแหละให้เกิด
    เมื่อจะให้เกิด ย่อมยังเวทนานั่นแหละให้เกิด
    เมื่อจะให้เกิด ย่อมยังสัญญานั่นแหละให้เกิด
    เมื่อจะให้เกิด ย่อมยังสังขารนั่นแหละให้เกิด
    เมื่อจะให้เกิด ย่อมยังวิญญาณนั่นแหละให้เกิด.

    ดูกรภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายจะสำคัญความข้อนั้นอย่างไร
    รูปเที่ยงหรือไม่เที่ยง?
    ภิกษุทั้งหลายกราบทูลว่า ไม่เที่ยงพระเจ้าข้า.
    พ. เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ เที่ยงหรือไม่เที่ยง?
    ภิ. ไม่เที่ยง พระเจ้าข้า.
    พ. เพราะเหตุนั้นแล ฯลฯ อริยสาวกผู้ได้สดับ เห็นอยู่อย่างนี้ ฯลฯ รู้ชัดว่า ฯลฯ
    กิจอื่นเพื่อความเป็นอย่างนี้มิได้มี.

    จบ สูตรที่ ๘.
    พระไตรปิฎก ฉบับบาลีสยามรัฐ (ภาษาไทย) เล่มที่ ๑๗ หน้าที่ ๑๔๒/๓๑๐
     

แชร์หน้านี้

Loading...