ก็รู้สึก อนุโมทนากับผู้ให้ธรรมเป็นทานค่ะ เป็นอีกคนหนึ่งที่รุ้สึกอะไรเรื่อยๆอยู่ มักมีนิมิตบ่อยครั้ง ตั้งแต่เด็ก หลังๆ มา มีมาแม้กระทั่งเตือนไม่ให้ไปรับขันธ์มนุษย์เดินดิน เด็ดขาด บางครั้งก็เป็นปู่ทวดนุ่งขาว ห่มขาว มาคอยชี้แนะ เมื่อเราประสบวิบาก ยากลำบาก ให้เราพ้นทุกข์ บางครั้ง ก็มีมาสอนทำบายศรี กระทง ส่งท่าน ท่านจะกลับเข้าป่า ไปถือศีล จะเจออย่างนี้ประจำ แต่ ไปพบอริยเจ้า เราก็ถามท่านว่า มีอะไรอยู่กับหนู ท่านก็ได้แต่บอกว่า หลวงตาบอกไม่ได้ เอาเป็นว่า ถ้าเราไม่สบายตัว หรือคิดว่าทำอะไรผิด ให้หาดอกไม้ขาว ธูปเทียน ขึ้นขอขมา บูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่กับเรา เดี๋ยวก็ดีขึ้นเอง นี่ละค่ะ ผู้ดูแล ก็ไม่ได้อยากให้เรารู้ว่า ท่านคือใคร ไม่่อยากให้เรามีความหลง ไม่อยากให้เรามีอัตตา เราเป็นมนุษย์เดินดิน มีศีล มีธรรม มีทาน ให้ทำไปตามสมควร ปฏิบัติ ดี ชอบ ใครไม่รู้ เรารู้ สิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริงค่ะ
การบูชาเทพไม่ใช่การหลงผิดครับ เทพแปลว่า ผู้ประเสริฐคือผู้ที่มีคุณธรรมมี ทาน ศีล ภาวนา คือผู้ที่กระทำคุณความดีเอาไว้บนโลกนี้ก่อนตาย ส่วน การปฏิบัติผมก็ยึดมรรค8 คือทาน ศีล สมาธิ ตามแบบองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าคือบรมครู ครับ
ขอบคุณที่นำเรื่องมีข้อคิด ปริศนา มาให้ความรู้กัน โดยส่วนตัวไม่มีองค์ใดเลยที่อยู่กับตัว มีแต่ ความคิด(จิต)ของตัวเองทั้งนั้นเลย......
ข้าพเจ้าขอน้อมกราบขอบพระคุณ พระมหากรุณาธิคุณอันไม่มีประมาณของพระพุทธเจ้า พระธรรมเจ้า พระสงฆ์เจ้า ครูบาอาจารย์ องค์เทพเทวาทุกๆพระองค์ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทำให้ข้าพเจ้าได้เกิดเป็นมนุษย์ได้เจอพระพุทธศาสนาในชาตินี้ ข้าพเจ้าขอมอบกายถวายชีวิตแด่พระรัตนตรัย ขอความผาสุก ความเจริญในธรรมจงบังเกิดแก่สรรพสัตว์ทั้งหลาย ขอดวงตาเห็นธรรมพึงบังเกิดแก่ข้าพเจ้าตามสมควรแก่เวลาเถิด...
ยินดีด้วยค่ะ ที่คุณเป็นผู้หนึ่งที่ดำเนินตามรอยพระบาทแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และไม่หลงอัตตา มีวิชชา ใช้สิ่งที่มีอยู่ไปในหนทางของสัมมาทิฏฐินะคะ ขออนุโมทนา เมื่อถึงเวลาคุณจะรู้จักท่านเองค่ะ ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบไปเรื่อยๆ นะคะ
ใช่ค่ะ สมัยนี้มีคนอวดอ้างว่าตัวเองมีองค์เทพ สามารถทำนู๊นทำนี่ได้มีเยอะเเยะ เเต่ดิฉันขอค้านเรื่องเทวดาประจำตัวที่บอกว่าไม่ได้มีง่าย ๆ ที่จริงคนทุกคนก็มีเทวดาประจำตัวกันทุกคน เเต่เเต่ละองค์ที่อยู่กับเรานั้น จะมีฤทธิ์เดชมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับการสั่งสมบุญบารมีของตัวท่านเองเเละเทพที่รักษา อย่างหลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน เคยตีพิมพ์หนังสือเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า การที่เด็กตัวเล็กวิ่งเเล้วหกล้มเเต่ร่างกายไม่เป็นอะไรเลย หรือเด็กบางคนที่จมน้ำ ทำไมกับรอดชีวิตจากตรงนั้นมาได้ทั้งๆที่ว่ายน้ำไม่เป็น เป็นเพราะมีเทพปกปักษ์รักษา ซึ่งไม่ใช่ใครที่ไหน ทั้งนี้อาจจะเป็นบรรพบุรุษของเราเองหรือที่เรียกกันว่า เทพประจำตัวค่ะ ^^
เรื่องอย่างนี้น่าคิดนะคะคิดได้หลายมุม ทั้งการสร้างบุญบารมีเเละสำหรับคนที่จะมาช่วยให้ถึงซึ่งความหลุดพ้น สาธุคะ
ทรพีควายตัวมีกำลังก็ยังมีเทวดาคุ้มครอง หากแต่คุณธรรมนั้นเสื่อมสูญจากตนเมื่อใด ตราบนั้นเทวดาก็บ๊ายบายนะครับ
ส่วนตัวผม และในความคิด ความรู้สึก ผมมีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า รวมทั้งพระธรรมคำสอน และองค์ดำ อีก ทั้งพระบารมีและพระมหากรุณาธิคุณ ใว้ประจำใจ และสร้างบารมีเพื่อเทิดทูนในพระคุณนั้น สืบต่อไป แค่นำเอาคำสอน การกระทำ และความเมตตา มาเป็นที่ตั้ง เราก็สามารถช่วยเหลือผู้คนและช่วยเหลือตัวเราเอง ให้ได้มีความสุขไปตราบเท่าที่สังขารจะยังคง ในภพนี้.......ก็เพียงพอแล้ว (สำหรับส่วนตัวผมนะครับ) และนับถือบูชาคุณขององค์ที่ใครก็ตามนำท่านลงมา ทุกๆพระองค์เพื่อสร้างบารมี เทิดทูน...สาธุ อนุโมทนากํบทุกๆท่านครับผม
คนที่อยู่เว็บนี้มานาน ก็อาจพอจะทราบว่าคนเขียนบทความนี้เป็นใคร (เจ้าของบล็อกผู้เขียนที่เอารูปท่านเสถียรโพธินันทะมาใช้..) ว่าเขามีอวตารอะไรบ้าง ที่ห้องวิทยาศาสตร์ทางจิต
จริงครับ ยึดพระรัตรตรัยเป็นที่พึ่งดีที่สุด.....แต่เทวดา เหล่านี้มาช่วยเตือน มาช่วยเบนชีวิตไห้รู้ถึง คำสอนขององค์พระพุทธเจ้า ไห้เราไม่ถลำ ไห้เราปฎิบัตตนอยู่ในศิลในธรรม ผมว่าดีนะครับ