การนัดหมายของพวกเรา ในวันอาทิตย์ที่ 18 มีนาคม 2550

จุดนัดพบ จะมีศาลา 6 เหลี่ยม เป็นจุดสังเกต ภายในเกาะลอย นะครับ
หากศาลา 6 เหลี่ยม ไม่ว่าง ก็จะใช้บริเวณรอบๆ ศาลา

สำหรับผมอาทิตย์นี้ติดธุระ เลยไม่สามารถไปร่วมได้ น่าเสียดาย
ว่าจะเอารูปพ่อจตุคามรามเทพ ไปแจกสักหน่อย
หากคุณคณานันท์ ว่างผ่านมาใกล้บ้านผม
จะรบกวนฝากรูป ไปแจก สัก 50 ใบ ตามตัวอย่างนี้ครับ

 

รูปตัวอย่างที่จะฝากไปแจกครับ

 

ช่วงเย็นจะลองแว่บไปหาครับผม
และจะขอปรึกษาเรื่องการทำแผ่นคาถาเงินล้านไว้วางในวิหารพระปัจเจกพุทธเจ้าด้วยเลยครับผม

 

สวัสดีคุณนากามูระด้วยครับ วันนี้พวกพี่ๆพูดถึงพี่นากามูระด้วยครับ อิอิ
วันนี้ไปพูดถึงเรื่ืองเกี่ยวกับการสื่อสารครับ แล้วก็วางแผนเตรียมของไปที่ซุ้มบอลครับ แต่ผมไม่รู้จักอ่ะ ไว้วันหลังให้พี่ๆพาผมติดรถไปดีกว่าครับ ผมไม่มีเงินค่ารถแถมกลับไม่ถูกด้วยครับ
วันนี้ได้เรียนวิชาใหม่ตอน6โมงเย็นครับ ส่วนผมได้2วิชาเลย อิอิ เนื่องจากได้ไปครั้งแรกครับ อยากเรียนวิชาดูพระอ่ะครับ เสียดายพึ่งได้ไปครั้งแรก เดี๋ยวพรุ่งนี้พี่คณานันท์จะมาเปิดกระทู้ใหม่เกี่ยวกับการสั่งของครับ

 

มานั่งรอฟังเนื้อหาการประชุมด้วยอีกคนครับ

 

ผมอดไปเลยอ่าติดงานบวชพี่

 

ปูเสื่อนั่งรออ่านอีกคน ^^

 

ผู้คนเฝ้ารอ อ่านข่าวคราวการประชุมกันอย่างใจจดจ่อ
เห็นแล้วชื่นใจครับ...
ผมก็มารอเหมือนกัน.

 

จดจ่อรอฟังด้วยอีกคน ขอโมทนากับทุกท่านที่ไปร่วมชุมนุมครับ ...
(*อ้อ..ของเราไม่ใช่ม๊อบ..) เบื้องบนรับรู้ในความตั้งใจดึของทุกคนแน่นอนครับ*-*

 

การประชุม(ไม่ใช่ ชุมนุม)ของพวกเรา เริ่มต้นกันในเวลา สิบโมงเศษ ภายใต้บรรยากาศที่ค่อนข้างตึงเครียดเนื่องจากบนเกาะลอยมี รปภ.มาดเข้มในชุดทหาร ถึง สามสี่คน แถมด้วยรปภ.หญิงติดยศทหารอีกท่านที่เดินมาสอดส่องการประชุมของพวกเราเป็นระยะๆ


หลังจากที่มีพวกเรามากันได้ 3-4 ท่าน ก็ปรากฏ มีพี่ฝุ่น(อักษรสัญจร) มาร่วมการประชุมกับพวกเราในวันนี้ด้วย นับว่าพี่ฝุ่นท่านเป็น จอมยุทธ์ผู้เร้นกายอีกท่านที่ปรากฏกายเปิดเผยตัวออกมา เพราะพี่ท่านตอนมาไม่ธรรมดา ทรงอารมณ์ใจสูงสุดพร้อมอาราธนาบารมีพระท่านมาเต็มอัตรา มาถึงพี่ก็ได้นำชีทคำเตือนชื่อ "สานส์จากลุงพุฒ" มาแจก

จากนั้น ก็นำน้ำมนต์"หลวงปู่เทพโลกอุดร"ที่ได้นำมาด้วย มาทำพิธีการอาราธนา ต่อน้ำมนต์ ในน้ำดื่มทุกขวดให้กับพวกเราทุกๆคน ที่น่าอัศจรรย์ใจก็คือพอสำเร็จเป็นน้ำมนต์แล้ว น้ำในขวดนั้นจะมีกลิ่นหอม พี่ฝุ่นกำชับว่า ให้ใช้ในยามฉุกเฉินเท่านั้น เพื่อใช้แก้ คุณไสยและพลังจากด้านมืด

ต่อจากนั้นเป็นข่าวสารข้อมูลจากทางสายปฏิบัติที่ท่านได้ฝึกอภิญญาใหญ่อย่างเข้มข้นกันอยู่ ข่าวสารที่ฝากมามีดังนี้

-มิติต่างๆได้เปิดออก จะมีการตายหมู่มากขึ้น นับจากสงกรานต์นี้เป็นต้นไปจน ถึงกลางปีหน้า พลังฝ่ายบุญที่ทางพระข้างบนท่านดึงไว้ จะจำเป็นต้องปล่อยตามอำนาจของกฏแห่งกรรม ก็จะเป็นช่วงที่รุนแรงของไทย

-ทางรอดก็คือ "รักษาศีลให้มั่นคง หากรักษาศีลไม่ได้ครบห้าข้อให้อธิฐาน ศีลปรมัถต์ ข้อใดข้อหนึ่ง ยิ่งชีวิต ข้อที่ง่ายที่สุดและทุกท่านแนะนำคือ ศีลข้อห้า ไม่ดื่มสุรา ไวน์ เหล้า เบียร์ หากไม่มีศีล ไม่รอดแน่นอน "

-พี่ฝุ่นแนะนำให้สวดคาถา มหาสมัยสูตร จะช่วยบรรเทา ความรุนแรงของเหตุการณ์ได้

-พี่ฝุ่นได้เมตตาสอน เกร็ดฝอยในการใช้คาถา "สัมปะจิตฉามิ" และคาถา "สัมปะติจฉามิ " อย่างพิศดารจากการใช้จริง

 

อ่านแล้วน่าเสียดายมาก ที่ไม่ได้ร่วมประชุมในรอบนี้

พี่คณานันท์ ช่วยลง "เกร็ดฝอยในการใช้คาถา "สัมปะจิตฉามิ" และคาถา "สัมปะติจฉามิ " อย่างพิศดารจากการใช้จริง"
ให้ด้วยสิครับ
น้องๆ อยากรู้มากครับ (เผื่อสามารถนำไปใช้ได้บ้างครับ)

ปล. สัปดาห์หน้าผมจะเดินทางไปภาคอีสาน เช่น อุดร ร้อยเอ็ด บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีษะเกศ สระแก้ว เป็นเวลา 8 วัน
เดี๋ยวจะหาของฝากมาให้นะครับ (ถ้าเจอแบบดีๆนะครับ) และพี่ๆท่านใดมีคำแนะนำให้ไปแวะที่จุดใดบ้าง ช่วยแนะนำด้วยนะครับ

 

โมทนากับพี่ฝุ่น (อักษรสัญจร) ครับ
สถานการณ์แบบนี้ทำให้ รปภ.มาเฝ้าจับตาดูพวกเรา วิทยุสื่อสารก็ห้ามใช้..

 

รอบเช้าเลยเป็นวาระที่ให้พี่ฝุ่นอักษรสญจร เป็นผู้บรรยาย
ข่าวสารอื่นๆที่น่าสนใจก็คือ

-พวกเรามีเวลาอีกเพียง ปีครึ่งก่อนจะเกิดเหตุภัยพิบัติในระดับรุนแรง ที่โลกจะมืดไปหลายวัน พวกเราได้เตรียมข้าวของกันหรือยัง

-สัญญานในการอพยพไปยังจุดปลอดภัย จุดหนึ่งที่สังเกตุได้คือ การที่อิสราเอลถูกโจมตีด้วยนิวเคลียร์ แต่พี่ได้บอกว่า จุดสังเกตุนี้อาจช้าเกินไปในการอพยพแล้ว ให้คอยฟังข่าวสารจากพระปฏิบัติครูบาอาจารย์น่าจะแน่นอนกว่า

-มีผู้ฝึกอภิญญาใหญ่หลายท่าน ไปรวมกันที่ดอยสะเก็ด

-ส่วนเรื่องที่ฝากบอกก็คือ ให้ตั้งใจปฏิบัติไป เมื่อวาระมาถึง ......จะขึ้น จะปรากฏสามารถใช้ได้เอง แต่มีข้อแม้ว่าผู้ได้ต้องเป็นสัมมาทิษฐิ ต้องใช้เพื่อประโยชน์ของส่วนรวม

-จากนั้นพี่ฝุ่นได้แนะนำ การปฏิบัติเฉพาะตนให้กับพวกเราหลายๆท่านครับ นับเป็นประโยชน์มากๆ ขอกราบโมทนาบุญด้วยครับ

พอช่วงบ่ายก็เริ่มเข้าสู่การประชุมกันอย่างเป็นทางการ มีการสรุปงานด้านการสื่อสารจากคุณ ZZ เรื่องการวางระบบการสื่อสาร การรวมกันจัดซื้อเครื่องวิทยุสื่อสารคลื่นประชาชน ซึ่งต้องรวมกันให้ได้ สิบเครื่องขึ้นไปและแยกบิลขออนุญาตแต่ละบุคคล ต่อจากนั้น เป็นเรื่องการจะจัดทำเสาอากาศใช้เองเพื่อความประหยัดและเป็นความรู้ ส่วนเหล่านี้ต้องขออนุญาตคุณZZ มาช่วยสรุปด้วย

ต่อไปเป็นการสาธิต การทำเครื่องอุปกรณ์วัดรังสี โดยคุณZZ อีกเช่นกันครับ นับว่าคุณZZ ตั้งใจทำการบ้านมาดีและทุ่มเทเพื่อการทำงานเพื่อส่วนรวมมากๆครับ โดยครั้งหน้าพวกเราจะลองทำเครื่องวัดรังสีให้ได้คนละชุดและ นำส่งมอบไปไว้ตามกลุ่มและตามจุดที่ปลอดภัยต่างๆครับ

จากนั้นเป็นการสรุปรวมเรื่องงานที่ได้ทำลงไปในช่วงเวลาที่ผ่านมา

-พวกเราขอให้ช่วยกันเร่งการส่งข้อมูลลงในระบบวิกี้พีเดียให้แล้วเสร็จกันภายในเดือนนี้ครับ

-ทางคุณกิ๊กและคุณKomodo กำลังเรียบเรียงข้อมูลในการจัดเผยแพร่สู่สาธารณะ และกำลังจะแล้วเสร็จเช่นกัน

-อีกไม่นาน เมื่อมีเหตุการณ์ในบ้านเมือง ระบบการสื่อสารผ่านอินเตอร์เนต เวบไซท์และมือถือ อาจถูกบล็อค ได้ จำเป็นที่พวกเราจะต้องมีระบบการสื่อสาร สำรองเอาไว้เพื่อการทำงานและประสานงานกัน
รวมทั้งการรีบดึงข้อมูลที่มีอยู่ในเวบไซท์พลังจิตนี้ลงสู่คอมพิวเตอร์ของแต่ละคน รวมทั้งการสำรองข้อมูลทั้งหมดในรูปเอกสารด้วย

-พวกเราหลายๆท่านเริ่มตื่นตัว(ไม่ใช่ตื่นตูม) ด้วยความรู้สึกลึกๆที่เป็นสัญชาติญาณและได้จัดของเก็บของเครื่องใช้ที่จำเป็นกันแล้ว

ดังนั้นขอให้ทุกท่าน เริ่ม
..ทำเช็คลิสต์ข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็น
..สำรวจข้าวของในบ้านที่สามารถจะนำไปใช้ประโยชน์ได้
..ดูแล ซ่อมแซมอุปกรณ์ เครื่องใช้ให้อยู่ในสภาพใช้งานได้ดี เช่นซักตาก เต้นท์ ถุงนอน รวมทั้งจัดรวมไว้ให้เป็นหมวดหมู่
..จัดซื้อจัดหาข้าวของที่ยังขาดให้พร้อมไว้ ทะยอยซื้อก็ยังดี ตอนนี้ยังพอมีเวลาหาซื้อได้ อีกหน่อยหาไม่ได้จะเสียใจที่ประมาท
..หน้ากาก 3M รุ่น N95 ใช้ได้ทั้งกันควันฝ่นละอองจากไฟไหม้ป่า เชื้อโรค ไข้หวัดนก ซาร์ โรคระบาดทางอากาศอื่นๆ สารเคมีที่ผ่านมาทางอากาศ รวมไปถึงละอองจากฝุ่นกัมมันตรังสี หาซื้อกันไว้ ได้แล้ว ต่อไปจะหาซื้อไม่ได้และจะมีราคาแพงมาก

จากนั้นพวกเราที่ร่วมประชุมมีมติให้ขึ้นกระทู้ ฝากซื้อของ และแนะนำแหล่งซื้อ มารวมไว้ในกระทู้เดียวเพื่อ ความสะดวกเนื่องจากการรวมกันซื้อจะทำให้ได้ราคาส่งและประหยัดเงินของพวกเรา

พอเป็นช่วงเวลาที่เป็นการพูดคุยเรื่องทั่วๆไป พวกเราหลายคนได้เปิดใจกันในเรื่องการทำงานเพื่อส่วนรวมกันดังนี้ (ขออนุญาตนำลงครับ)

-คุณเปิ้ล ถาวร ได้บอกว่า

" ถ้าเราจะต้องตาย ยังไงก็ขอช่วยชีวิตคนอื่นให้ได้ซักคนหนึ่ง ก็ถือว่า ชีวิตของเรากำไรแล้วในการเกิดมาชาติหนึ่ง"

-คุณZZ ได้บอกว่า

"พอผมนำครอบครัวไปยังที่ปลอดภัยได้เรียบร้อยหมดแล้ว ผมจะขับรถ ย้อนกลับไปที่ในจุดอันตรายและรับคนอื่น เพื่อพาไปยังที่ปลอดภัยให้มากที่สุด"

ทั้งสองท่านได้เผลอบอกความในใจออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ แต่ผมบังเอิญจับใจความและความรู้สึกของทั้งสองท่านได้ ก็ต้องขอกราบโมทนาในกำลังใจของท่านทั้งสองที่มีกำลังใจเข้มข้นในการทำงานเป็นปรมัถต์อย่างแท้จริง

อันที่จริงการที่เราเอง จะเตรียมพร้อมเพื่อตนเอง ก็เป็นเรื่องหนักอยู่แล้ว การเตรียมตัวเผื่อครอบครัวของตนเองยิ่งหนักกว่า นี่ยิ่งทรงกำลังใจหวังที่จะช่วยคนอื่นที่เราไม่รู้จักอีก ก็ยิ่งนับว่าเป็นการทรงพรหมวิหารสี่อย่างเต็มอัตรา และคณะทำงานของพวกเราก็ล้วนแต่มีกำลังใจเช่นนี้

พอบ่ายแก่ๆ คุณกิ๊กก็ได้แนะนำวิชาลูกบอลพลังให้น้องกอล์ฟ และท่านอื่นๆได้ฝึกกัน

จากนั้นเราได้คุยกันเรื่องการจัดสร้างแผ่นคาถาเงินล้าน ที่จะจัดถวายไว้ในวิหารพระปัจเจกพุทธเจ้ากัน โดยคุณเปิ้ลอาสาจะช่วยทำในหลายๆส่วน พี่แจงจัดการถวายทองคำเปลวแท้ๆไว้ปิดตัวอักษร คาถา คาดว่าอีกไม่กี่วันน่าที่จะเป็นรูปเป็นร่าง

มีวีรกรรมของคุณกิ๊ก ในวันนั้นที่ทำให้ทุกคนทึ่งก็คือ รปภ.แสนดุ ที่มาด้อมๆมองๆพวกเราอยู่นั้น พอคุณกิ๊กทราบเรื่อง ก็จัดการเดินเข้าหาทันที พร้อมกับบอกว่า"เป็นคนของเราเอง" จากนั้นก็เดินเข้าไปคุย ชิงเป็นฝ่ายรุกก่อน พวกเราก็ประชุมกันไป แอบสังเกตุการณ์กันไป หลังจากนั้นไม่เกินสิบนาที รปภ.(หญิง)แสนดุ ก็ยิ้มแย้ม แถมจับไม้จับมือกับคุณกิ๊กอย่างน่าอัศจรรย์ใจ แถมจูงมือกันไปนั่งคุยอีกต่างหาก พี่บางท่านบอกว่า ถ้าซักครึ่งชั่วโมง คงให้รปภ.เลี้ยงข้าวด้วย ชัวร์
จากวีรกรรมของคุณกิ๊กครั้งนี้ทำให้การประชุมของพวกเราดำเนินไปได้อย่างราบรื่น เนื่องจากหาก รปภ.มาดูเรากำลังเล่นวิทยุสื่อสารอยู่ หรือเห็นเรากำลังเจาะกระป๋องนมแล้วคิดว่ากำลังทำระเบิดล่ะดูไม่จืดแน่นอน
ต้องขอกราบขอบคุณ ความเป็นหญิงเหล็กของคุณกิ๊กเป็นอย่างสูงด้วยครับ

พอประมาณใกล้หกโมงเย็นพวกเราก็ ฝึกสมาธิกันอีกครั้งหนึ่ง ก่อนแยกย้ายกันกลับบ้าน

ต้องขอกราบขอบพระคุณ

-พี่ฝุ่น อักษรสัญจร ที่เมตตาเปิดตัว มาร่วมประชุมกับพวกเรา รวมทั้งนำ"สารส์จากลุงพุฒ" คำแนะนำในการปฏิบัติ ข่าวสารต่างๆ และน้ำมนต์หลวงปู่เทพโลกอุดรมาให้กับพวกเรากันถ้วนหน้า

-พี่เกษม ที่ขยันเดินทางไกลมาจากอยุธยาเพื่อมาร่วมประชุมกับพวกเราทุกทริบการประชุมไม่เคยขาด รวมทั้งครั้งนี้ได้นำหนังสือที่เป็นประโยชน์ในการทำงานและการเตรียมการณ์มาให้ไว้มากมายหลายเล่ม

-พี่ZZ พี่จินดา และน้องนุ้ค ครอบครัวน่ารักที่ไม่ขาดประชุมเสมอ ขยันทำการบ้านมาฟรีเซนต์ แบบอย่างความทุ่มเท และความเสียสละเป็นที่ประทับใจของทุกคน

-คุณกิ๊ก หญิงเหล็ก ผู้สุดขีดในทุกๆด้าน ยามปฏิบัติธรรมก็เอาจริงยิ่งชีวิต บทงานเป็นงานก็ ลุยแหลก บทจะขำก็เรียกเสียงหัวเราะและรอยยิ้มให้พวกเราทุกคนได้เสมอ

-พี่แจงผู้อ่อนโยนแต่เข้มแข็ง เห็นพี่แจงแล้วก็เหมือนพี่จ๊ะได้มาด้วย แม้จะติดภาระกิจทางธรรมอยู่ที่ภูเก็ตก็ตาม

-คุณเปิ้ล ผู้จริงใจกับทุกๆคนเสมอ ตั้งใจปฏิบัติอย่างเอาจริงเอาจัง และก้าวหน้าอย่างน่าชื่นชมโมทนา

-คุณหนู BNBK ผู้ขยันทำงานเผยแพร่ธรรมทาน และชอบเดินทางไปช่วยเหลือผู้อื่นตามสไตล์พี่คลิก

-คุณ TEWY ผู้มีขนมมาฝากพวกเราเสมอ และ มาทุกการประชุมไม่เคยขาด

-น้องกอล์ฟ น้องใหม่ไฟแรง ที่อยากจะมาช่วยงานพี่ๆเป็นอย่างมาก

พบกันในการประชุมและทริปการเดินทางครั้งหน้าครับผม

 

สาส์นจาก

 

Kearny Fallout Meter

<!-- start content -->


แบบแปลนและวิธีทำ

PDF version of the plans

 

สรุปครับผม

การสร้างเครื่องวัดรังสีด้วยตนเอง

เครื่องวัดรังสีอาศัยหลักการคายประจุของไฟฟ้าสถิตย์ กล่าวคือ กัมตภาพรังสีจะทำให้ประจุไฟฟ้าสถิตย์ลดลง ตามปริมาณของกัมตภาพรังสี เมื่อเราเอาแผ่นอลูมิเนียม 2 แผ่นมาประกบกัน

แล้วชาร์ทประจุไฟฟ้าสถิตย์เข้าไป แผ่นอลูมิเนียมจะผลักกันด้วยอำนาจของไฟฟ้าสถิตย์ เมื่อแผ่นอลูมิเนียมอยู่ในบริเวณที่มีกัมตภาพรังสี จะทำให้ไฟฟ้าสถิตย์ที่แผ่นอลูมิเนียมลดลง และผลักกันน้อยลง ตามปริมาณกัมตภาพรังสีที่ได้รับ นำค่าที่วัดได้ นำมาเปิดตารางเพื่อหาค่า R/Hr ต่อไป

ขั้นตอนการสร้าง


1. พิมพ์วิธีทำและแบบแปลนออกมา

จากลิงค์ข้างบน หรือจาก... http://www.cddc.vt.edu/host/atomic/pdf/kfm_inst.pdf


2. เตรียมอุปกรณ์

2.1 กระป๋องนมข้นหวาน หรือกระป๋องนมสด(คาร์เนชั่น) หรือกระป๋องโลหะขนาด 8 ออนซ์

ใช้ที่เปิดกระป๋องเปิดฝาออก 1 ข้าง และเหลือฝาไว้ 1 ข้าง หากเปิดฝาแล้วมีคม ให้ใช้ค้อนทุบเพื่อลบคม ล้างและลอกกระดาษที่ติดข้างกระป๋องออกไป ตากแดดให้แห้งสนิท

2.2 ไหมขัดฟัน หรือใช้เชือกไนล่อนเส้นเล็กๆ

2.3 ฟลอย์อลูมิเนียมแผ่นเรียบ (ที่เขาใช้สำหรับย่างปลา) ตัดให้ได้ขนาดความกว้าง 4 นิ้ว ความยาว 8 นิ้ว จำนวน 2 ชิ้น

หากไม่มีให้ใช้กระป๋องน้ำอัดลม ตัดหัวตัดท้ายออก (ด้วยกรรไกร) เอามาเฉพาะแผ่นอลูมิเนียมด้านข้าง แล้วตัดรอยต่อออก รีดเบาๆให้เรียบ

ตัดให้ได้ขนาดความกว้าง 3.5 นิ้ว ความยาว 8 นิ้ว จำนวน 2 ชิ้น (ใช้ 2 กระป่อง)

2.4 เทปกาว เช่น สก็อตเทปใส หรือ เทปกาวหนังช้าง

2.5 ซิลิกาดูดความชื้น สามารถหาได้จาก ถุงขนมทั่วไป บรรจุอยู่ในซองเล็กๆ จำนวน 15-20 ซอง

หรือใช้ยิบซั่ม จากยิบซั่มบอร์ด โดยแกะกระดาษที่ติดยิบซั่มบอร์ดออก เอาเฉพาะยิบซั่ม (ใช้คัทเตอร์ปาดกระดาษออกก็ได้) ตัดยิบซั่มเป็นก้อน กว้าง 1.5 นิ้ว ยาว1.5 นิ้ว

จากนั้นห่อด้วยฟลอย์อลูมิเนียม นำไปย่างไฟไล่ความชื้นประมาณ 1 ชั่วโมง แล้วเก็บในวัสดุป้องกันความชื้น รอการนำไปใช้ ใช้ครั้งละ 12 ก้อน

2.6 ถุงใส่แกง (ใส) + ยางรัดของ

2.7 สายไฟขนาด 1 - 1.5 SQ. mm (สายแข็งๆ) เช่น สายไฟที่เดินตามบ้าน ตัดให้ยาวประมาณ 7.2 ซม.

2.8 เครื่องมือช่าง เช่น ค้อนเล็กๆ , ตะปู , กรรไกร , ปากกาเมจิก

3. การสร้าง

3.1 พับฟลอย์อลูมิเนียม 3 ครั้งเพื่อให้ฟลอย์มีความหนา 8 ชั้น รีดฟลอย์ให้เรียบ

3.2 ตัดฟลอย์ให้เหลือขนาด กว้าง 4 ซม. ยาว 4.3 ซม. หรือตัดกระดาษแบบแพทเทริ์นหน้า 11 รูปซ้ายล่างมาแปะที่แผ่นฟลอย์อลูมิเนียมก็ได้ จากนั้นจึงตัดตามแบบ (ทำทั้ง 2 แผ่น)



แบบแพทเทริ์นอยู่หน้า 11 รูปซ้ายล่าง



เอาแบบแพทเทริ์นแปะที่แผ่นอลูมิเนียม แล้วใช้กรรไกรตัดให้พอดีแบบ (Thread Line ไม่ต้องตัดนะ...)


3.3 ใช้เทปกาวติดด้านขอบของฟลอย์อลูมิเนียม เพื่อไม่ให้ฟลอย์อลูมิเนียมคลายตัว



3.4 ตัดไหมขัดฟันให้ยาว 8 นิ้ว จากนั้นนำมาติดกับแผ่นฟลอย์อลูมิเนียม ด้วยเทปกาว ดังรูป



3.5 พับแผ่นฟลอย์อลูมิเนียมตามแนวพับ (ให้ทับไหมขัดฟัน) จากนั้นรีดให้เรียบ ให้แน่ใจว่าไหมขัดฟัน ไม่สามารถรูดออกมาได้ (ติดด้วยกาวตราช้าง)
ทำการวัดระยะไหมขัดฟันจากขอบแผ่นอลูมิเนียมออกมา 1 นิ้ว ทั้งสองด้าน แล้วใช้ปากกาเมจิกมาร์คตำแหน่งไหมขัดฟัน (ทำทั้ง 2 แผ่น) ..... พักเอาไว้รอขั้นตอนต่อไป

3.6 นำแบบแพทเทริ์นหน้า 9 มาตัดแล้วติดข้างกระป๋องนม เพื่อเจาะรูกระป๋อง จำนวน 4 รู ความยาวของแบบแพทเทริ์นจะสั้นกว่ากระป๋องนมเล็กน้อย ดังนั้น
ให้ตัดแบบแพทเทริ์นออกเป็น 2 ชิ้น ให้เว้นช่องว่างระหว่างแบบให้เท่าๆกัน แล้วแปะกับด้านข้างกระป๋อง



3.7 ใช้ตะปูเจาะรูกระป๋อง จำนวน 4 รู ตามตำแหน่งในแบบ ขนาดรูไม่ใหญ่นักประมาณ 1 มม. เพื่อสอดไหมขัดฟันเข้าไปได้ก็พอ

3.8 ควรใชไม้สอดเข้าไปในกระป๋อง เพื่อรับน้ำหนักการตอกตะปูขณะเจาะรู แล้วเพื่อ้องกันกระป๋องบุบ จากนั้นลบคมรูเจาะด้วยการทุบด้วยค้อน



3.9 ร้อยไหมขัดฟัน แล้วมัดให้แน่น หรือใช้เทปกาวติดไหมขัดฟันอย่าให้ขยับ และอย่าให้อากาศสามารถเล็ดลอดเข้าไปในกระป๋องทางรูตะปูได้

ไหมขัดฟันนี้จะขนานกันอยู่ในแนวนอนอยู่บริเวณกลางๆกระป๋อง ใช้เพื่อกันแผ่นฟลอย์อลูมิเนียมไม่ให้แตะกับกระป๋อง

(กรณีแผ่นอลูมิเนียมแก่วงไปมา หรือกรณีที่เราชาร์ทไฟฟ้าสถิตย์เข้าไป)

3.10 นำแผ่นฟลอย์อลูมิเนียมจากข้อ 3.5 มาวางพาดที่ปากกระป๋อง ให้จุดมาร์ค (1นิ้ว) อยู่ที่ขอบกระป๋องพอดี ติดเทปกาวทั้งสองด้าน ทำทั้ง 2 แผ่นโดยให้ด้านเรียบของแผ่นฟลอย์อลูมิเนียม แตะกัน ดังรูป ..... พักเอาไว้รอขั้นตอนต่อไป



3.11 นำสายไฟมาปอกฉนวนออก ทั้งด้านหัว และด้านท้าย ออกประมาณ 6 มม. ดังรูป หน้า 16



3.12 วัดระยะจากปลายสายไฟ 3.5 ซม. ใช้เทปติดที่สายไฟ วนเทปหลายๆรอบ ให้เทปหนาเป็นชั้นๆสัก 5 - 10 ชั้น (แล้วแต่ความหนาของเทป) ดังรูป หน้า 16

3.13 ที่ปลายอีกด้านหนึ่งของสายไฟ ติดไหมขัดฟันเข้ากับสายไฟด้วยเทปให้แน่นหนา ตัดปลายไหมขัดฟันให้ยาว 2-3 นิ้ว เพื่อใช้เป็น...."เชือกปรับระดับสายไฟ"

3.14 นำซิลิกาดูดความชื้น หรือก้อนยิบซั่ม ที่ได้เตรียมไว้ ใส่ลงในกระป๋อง จำนวน 12 ก้อน เพื่อให้ภายในกระป๋องไม่มีความชื้น (ยิ่งแห้งยิ่งดี)

3.15 นำถุงแกงใส ครอบที่ปากกระป๋อง แล้วรัดด้วยยางรัดของ ให้แน่ใจว่าอากาศไม่สามารถถ่ายเทเข้าไปได้ เพื่อให้ภายในกระป๋องมีความชื้นน้อยมากๆ

3.16 ตัด...."สเกลวัด" ที่หน้า 11 ออกมา แล้วแปะเข้ากับถุงแกง ให้จุดศูนย์ของสเกลอยู่ที่แนวกึ่งกลางระหว่างแผ่นฟลอย์อลูมิเนียม



สเกลรูปล่างขวา

3.17 เจาะรูเล็กๆที่ถุงแกง บริเวณใกล้ๆขอบกระป๋อง ห่างจากขอบประมาณ 1 ซม. พอให้สายไฟสอดเข้าไปได้ (เจาะให้รูฟิตพอดีกับสายไฟ)

อย่าเจาะรูให้ใหญ่เกินไป อากาศชื้นจะเข้าไปในกระป๋องได้

4. การชาร์ทไฟฟ้าสถิตย์เข้าเครื่องวัด

4.1 ปรับให้สายไฟเข้าใกล้แผ่นอลูมิเนียมประมาณ 2-3 มม. แล้วดึง "เชือกปรับระดับสายไฟ" ให้ดึงอย่าให้สายไฟเคลื่อนลงไปแตะกับแผ่นอลูมเนียม เอาเทปติด "เชือกปรับระดับสายไฟ" ไว้ชั่วคราว เพื่อรอการชาร์ทประจุไฟฟ้าสถิตย์

4.2 นำกระดาษแผ่นเรียบพับให้หนา แล้วนำมาถูกับไม้บรรทัดพลาสติกหลายครั้ง จากนั้นนำไม้บรรทัดไปไว้ใกล้ๆสายไฟที่ปอกแล้ว (ที่ปากกระป๋อง) โดยให้ห่างสายไฟประมาณ 2-3 มม.



หรือใช้การดึงเทปกาวออกจากม้วนอย่างรวดเร็ว จะเกิดไฟฟ้าสถิตย์ที่บริเวณผิวเทปกาว จากนั้นนำเทปกาวไปไว้ใกล้ๆสายไฟที่ปอกแล้ว



4.3 ไฟฟ้าสถิตย์จะกระโดดจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง ดังนั้นไม่ควรแตะไม้บรรทัดเข้ากับสายไปโดยตรง

4.4 การชาร์ทไฟฟ้าสถิตย์จะทำให้แผ่นอลูมิเนียมห่างกันมากขึ้นเรื่อยๆ ชาร์ทไฟฟ้าสถิตย์จนปลายด้านล่างของแผ่นอลูมเนียมห่างกัน 15 มม. โดยมองจากด้านบน ห่างจากปากกระป๋องประมาณ 1 ฟุต

4.5 เก็บสายชาร์ทไฟฟ้าสถิตย์ โดยกระดกสายไฟให้ขึ้นมาแนบกับถุงแกง แต่ห้ามดึงสายไฟออกมาจากกระป๋อง เพราะอากาศชื้นจะเข้าไปได้ จากนั้นเอาเทปรั้ง "เชือกปรับระดับสายไฟ" เอาไว้ ป้องกันไม่ให้สายไฟเคลื่อนลงไปแตะกับแผ่นฟลอย์อลูมิเนียม

5. การวัดปริมาณรังสี

5.1 นำเครื่องมือวัดรังสี ที่ได้รับการชาร์ทไฟฟ้าสถิตย์แล้ว มายังบริเวณที่ต้องการวัด เดินถือเครื่องวัดอย่างระมัดระวัง ประมาณ 15 วินาที สังเกตุว่า แผ่นอะลูมิเนียมจะเคลื่อนเข้าหากัน อย่างน้อย 2 มม.

หากไม่มีการเคลื่อนเข้ามาใกล้กันให้เพิ่มเวลาในการวัดเป็น 1 นาที หรือ 4 นาที หรือ 16 นาที หรือ 1 ชั่วโมง แล้วแต่ว่าแผ่นอลูมิเนียมเคลื่อนเข้าหากันเร็วหรือช้า

หากแผ่นอลูมิเนียมเคลื่อนเข้าหากันเร็ว....ก็ใช้เวลาเพียง 1 นาที หรือ มากกว่านั้นแต่ไม่เกิน 4 นาที

หากแผ่นอลูมิเนียมเคลื่อนเข้าหากันช้า....ก็ใช้เวลา 4 นาที แต่ไม่เกิน 1 ชั่วโมง

5.2 นำค่าทีวัดได้มาเปิดตาราง คำนวณปริมาณรังสี

 

[QUOTEจากนั้นเราได้คุยกันเรื่องการจัดสร้างแผ่นคาถาเงินล้าน ที่จะจัดถวายไว้ในวิหารพระปัจเจกพุทธเจ้ากัน โดยคุณเปิ้ลอาสาจะช่วยทำในหลายๆส่วน พี่แจงจัดการถวายทองคำเปลวแท้ๆไว้ปิดตัวอักษร คาถา คาดว่าอีกไม่กี่วันน่าที่จะเป็นรูปเป็นร่าง
][/QUOTE]
ในส่วนของแผ่นคาถาเงินล้าน ที่จะจัดถวายไว้ในวิหารพระปัจเจกพุทธเจ้านั้น
ผมยินดีรับอาสานำมาเคลือบเรซิ่น(เคลือบวิทยาศาสตร์) แล้วติดขาตั้งหรือหูแขวน...หากเรียบร้อยเมื่อไหร่ รบกวนคุณคณานันท์ ฝากมาให้ผมดำเนินการได้ทันทีนะครับ..ยินดีช่วยเหลือเต็มที่..ครับ
(f)

 

การสร้างรีพีตเตอร์

ได้สรุปแบบการสร้างรีพีตเตอร์ และตำแหน่งเบื้องต้นเรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้รีพีตเตอร์ของเราจะสามารถขยายระบบต่อไปเรื่อยๆได้ตามความจำเป็น และติดตั้งในบริเวณที่หลบภัยแต่ละแห่ง

จะได้ทำการสร้างต้นแบบรีพีตเตอร์เครื่องแรกต่อไป จะได้ทดสอบประสิทธิภาของระบบครับ

แนวทางปฏิบัติและบริหารจัดการการอพยพ

1. สมาชิกใช้วิทยุสื่อสารติดต่อกัน กรณีมีการตัดสัญญาณมือถือ (จากภัยพิบัติ) และกรณีไม่สามารถใช้โทรศพท์บ้านติดต่อกันได้

2. หากมีสัญญาณอพยพ เช่น อิสราเอลถูกโจมตีด้วยนิวเคลียร์ ให้เริ่มอพยพได้ทันที (ยังถือว่าช้าไป เพราะจะหาซื้อของได้ยากแล้ว) ทั้งนี้ให้ใช้ช่องสื่อสารที่กำหนดไว้ล่วงหน้า (ยังไม่ได้กำหนด เพราะสมาชิกยังไม่มี ว. กัน)

3. แน่นอนต้องถอนเงินออกมาเพื่อซื้อของให้มากที่สุด เพราะหลังจากนั้นเงินจะไม่มีค่าแล้ว

4. การมีของมากๆก็เสี่ยงโดนปล้นได้ ดังนั้นควรนำไปไว้ในที่หลบภัยก่อนล่วงหน้า หรือนำไปพักไว้ที่ใดที่หนึ่งก่อนล่วงหน้า

5. เมื่อถึงเวลาอพยพจะเป็นการอพยพแบบตัวเปล่า...หรือมีของเล็กๆน้อยเช่น เสื้อผ้าและของใช้ส่วนตัว พาหนะจะว่างพอที่จะขนคนไปด้วยได้ (ไม่เกะกะข้าวของเครื่องใช้)

6. เลือกจุดนัดพบกันและกัน เช่น เรามีเพื่อนสนิท (buddy) ก็ส่งข่าวสารอพยพต่อกัน นัดเวลาและสถานที่อพยพให้เรียบร้อย เช่น ที่รังสิต แคราย หรือ ปื่นเกล้า เพื่อสามารถออกนอกเมืองได้ง่ายและโดนทันที

7. ใช้เส้นทางที่ไม่พลุกพล่าน หรือเส้นทางที่เดินทางได้เร็ว หลีกเลี่ยงเส้นทางหลัก ลองนึกถึงหน้าเทศกาลที่มีรถติดมากๆ จงอย่าไปทางนั้น

แนะนำเส้นทาง...

7.1 ทางด่วนเมืองทอง-บางปะอิน (กรณีไม่มีแผ่นดินไหวในเขต กทม รุนแรงเพราะทางด่วนอาจถล่มลงมา และเกิดทางขาด) วิ่งเส้นบางปะหัน (มีป้ายเขียนไว้ชัดเจน) วิ่งไปตามทาง 4 เลน จนไปชนถนนสายเอเซีย ก่อนถึงอ่างทองเล็กน้อย
7.2 ใช้เส้นทางสุพรรณบุรี ชัยนาท
7.3 หากท่านใดไปที่อีสาน ให้หลีกเลี่ยงเส้นทางปากช่อง แต่ให้วิ่งไปทางสระบุรี-เพชรบูรณ์ หรือนครสวรรค์-เพชรบูรณ์ แล้วไปทาง ชัยบาดาล-ชัยภูมิ

ควรศึกษาเส้นทางอพยพล่วงหน้า ถึงเวลานั้นอาจไม่มีป้ายบอกทางให้ดูแล้ว

8. วิทยุติดต่อเพื่อนร่วมทางเป็นระยะๆ และตั้งช่องรีพีตเตอร์เมื่อถึงระยะรัศมีทำการของรีพีตเตอร์ เช่น อยู่อ่างทองใช้รีพีตเตอร์ชัยนาทหรือสระบุรีได้ หรือ สิงห์บุรีใช้รีพีตเตอร์อุทัยธานีได้

9. รายงานจำนวนผู้อพยพ และสถานการณ์ ทั่วไปแก่ ผู้ควบคุมเครือข่าย (ศูนย์ประสานงานการอพยพ , Net Control )

10. โดยปกติศูนย์ประสานงานจะมีอาสาสมัคร...ซึ่งก็คือผู้ที่ไปถึงสถานีออกอากาศก่อน ผลัดกันเข้าเวร คอยรับแจ้งเหตุและแนะนำเส้นทางให้

ผลัดกลางคืนทำงาน 4 ชั่วโมง จำนวน 2 ท่าน ผลัดกลางวัน จำนวน 2-4 ท่าน แล้วแต่สถานะการณ์

11. ผู้ที่เป็น Net Control จะต้องมีอัธยาศัยดี มีไหวพริบดี และมีทีมเคลื่อนที่คอยให้การช่วยเหลือเพื่อนๆกรณีฉุกเฉิน

ทั้งหมดควรซักซ้อมการทำภาระกิจและแก้ไขจุดบกพร่องก่อนทำงานจริง

12. Net Control คนที่สอง (ความถี่ที่สอง) คอยประสานงาน การแจ้งเหตุ แนะนำเส้นทาง กับเครือข่ายอาสาสมัครเครือข่ายอื่นๆ รวมถึงวิทยุชุมชนในบริเวณใกล้เคียง เช่น อ่างทอง สระบุรี ลพบุรี สิงห์บุรี ชัยนาท อุทัยธานี นครสวรรค์ ชัยภูมิ พิษณุโลก เป็นต้น

13. ควรอพยพเป็นกลุ่มๆ กลุ่มละประมาณ 30-50 คน (รถ 3-5 คัน) เพื่อจะได้ช่วยเหลือกันระหว่างทางได้

14. ......รอความเห็นจากท่านอื่นๆ

วิทยุสื่อสาร

รุ่นที่แนะนำในขณะนี้คือ SPENDER TC-245 HA ราคาตัวละ 3500 บาท พร้อมแท่นชาร์ท และไมค์ต่อภายนอก หากซื้อตั้งแต่ 10 ตัวเหลือตัวละ 3000 บาท นับว่าคุ้มค่ามากและน่าจะรีบซื้อโดยเร็ว เพราะต่อไปอาจซื้อได้ยาก....

มีบริการขอใบอนุญาตมี-ใช้ให้ด้วย ซึ่ง ค่าใบอนุญาตมี-ใช้ 540 บาท ใช้สำเนาบัตรประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้าน อย่างละ 1 ฉบับ (ไม่มีโดนปรับ 1 แสนบาท)

จะได้ทำ work-shop เพื่อให้เพื่อนๆได้ลองสร้างสายอากาศแบบง่ายๆด้วยตนเอง เอาไว้ใช้ประโยชน์ และใช้ยามจำเป็นครับ


ขอบคุณครับ
.