ปลาจำนวนมากมาตายที่ชายหาดปีนัง

ปีนังอยู่ฝั่งอันดามัน
คราวที่เกิดซึนามิ คนที่ปีนังก็ตายไปกันเยอะ แต่ไม่มีข่าว

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=670 background=http://hisz.rsoe.hu/alertmap/mail/alertmail_E_01_01.jpg><TBODY><TR><TD align=right width=670 height=19>hisz.rsoe.hu</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=670><TBODY><TR><TD></TD><TD></TD><TD></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=670><TBODY><TR><TD width="100%"></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=10 width=670 border=0><TBODY><TR><TD width=670>2007-01-31 16:43:53 - Biological Hazard - Indonesia


<CODE>GLIDE CODE: BH-20070131-9646-IDN
Date & Time: 2007-01-31 16:43:53 [UTC]
Area: Indonesia, , Tabanan district, ( MAP)


<FIELDSET class=EC_watch>WATCH MESSAGE!</FIELDSET>

Description:

<CODE>Thousands of dead fishes of various kinds were recently found on some beaches of Tabanan district, a local fisheries official said Wednesday. "The beaches along 35 km of coastline has been covered with dead fishes for the past three days," Nyoman Wirna Ariwangsa, head of Tabanan district's fisheries and marine resources office said. "According to the locals, at first only a small number of dea fishes were found lying on the beaches but over the past three weeks their number has risen to thousands," he said. "The small and big dead fishes that were washed ashore were already in decayed condition," he said. Nyoman said his office had begun taking steps to organize an investigation to establish the cause of the fishes' death. On Wednesday, local people also found thousands of dead fish that were not in decayed condition. "We have warned the people not to eat the fishes and they have now begun to bury the dead fishes," he said. He said the Bali Research and Fishery Result Quality Test Agency would make the cause of the fishes' mass death known in the next three days.</CODE>

Damage level: Large
</CODE>
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ปลาหลายชนิดหลายพันตัวมาตายที่ หลายหาดของอินโดนีเซีย

เมื่อวันพุธที่ผ่านมา นักประมงท้องถิ่นรายงานว่า หาดต่างๆ ยาวทั้งหมด 35 กิโลเมตร ได้ถูกปกคลุมด้วยปลาที่ตายแล้วเมื่อสามวันที่ผ่านมา
เค้าได้กล่าวว่า "ตามที่ชาวบ้านแระแวกนั้นบอกว่า ทีแรกจำนวนปลาตายนิดหน่อย นอนอยู่บนชายหาด แต่หลังจากสามสัปดาห์ผ่านมา จำนวนมันได้เพิ่มขึ้นหลายพัน" เขากล่าวอีกว่า "ทั้งปลาเล็กปลาใหญ่ที่ตายแล้วที่ถูกพามาเกยตื้นที่ฝั่ง อยู่ในสภาพที่เน่าแล้ว"
ตอนนี้เจ้าหน้าที่ประมงได้เริ่มการวิเคราะห์แล้วตั้งสมมุติฐานว่าอะไรเป็นสาเหตุให้ปลาตาย ในวันพุธ, ชาวบ้านได้เจอปลาตายหลายพันตัวแต่ยังไม่เน่าเปื่อย พวกเจ้าหน้าที่ได้เตือนประชาชนแถบนั้นแล้วว่าอย่าเอาปลามากิน แล้วชาวบ้านก็ได้ช่วยกันฝังปลาตายเหล่านั้น the Bali Research and Fishery Result Quality Test Agency จะหาสาเหตุที่ปลาจำนวนมหาศาลได้มาตายที่นี่ในอีกสามวันข้างหน้า

 

<META content="Microsoft SafeHTML" name=Generator><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=670 background=http://hisz.rsoe.hu/alertmap/mail/alertmail_E_01_01.jpg><TBODY><TR><TD align=right width=670 height=19>hisz.rsoe.hu</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=670><TBODY><TR><TD></TD><TD></TD><TD></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=670><TBODY><TR><TD width="100%"></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=10 width=670 border=0><TBODY><TR><TD width=670><CENTER><BIG>RSOE HAVARIA Situation Update No. 1</BIG>
Indonesia - Biological Hazard on 2007-01-31 at 16:41:09</CENTER>

Ref: BH-20070131-9646-IDN

RSOE HAVARIA Situation Update No. 1
On 2007-02-01 at 14:50:35 [UTC]

Event: Biological Hazard
Location: Indonesia Tabanan district

Situation

<CODE>Toxic plankton has killed thousands of fish in waters off the Indonesian resort island of Bali. The "red tide," or algal bloom, has contaminated the sea in the Tabanan district, the head of the Bali Fisheries Office Ida Bagus Putu Wisnawa Manuaba said Thursday. "The fish's mass death is a natural phenomenon caused by the El Nino-induced storm which moved from the Pacific Ocean to the Indonesian waters. "The El Nino-induced storm triggered the growth of toxic planktons called red tide," Manuaba was quoted by the official Antara news agency as saying. He said the toxic plankton had turned the sea red and yellow. People living near the two beaches were warned not to eat the dead fish or swim in the waters, he said. The main tourists beaches at Kuta and Legian further south were not reported to have been affected. Researchers collected samples of the dead fish, sea water and plankton to investigate the deaths, Antara said. It is not clear what causes red tides. Water pollution has been blamed but the El Nino weather phenomenon, which brings about an increase in sea water temperatures, has been linked to red tides in the Pacific Ocean.
</CODE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

แพลงตอนพิษได้ฆ่าปลาจำนวนหลายพัน(หรือหลายหมื่นตัว) แถวรีสอร์ทที่บาหลี อินโดนีเซีย สาหร่ายสีแดงได้เพิ่มจำนวนมากแล้วทำให้น้ำทะเลเน่าเสีย
ปรากฏการณ์ปลาจำนวนมากตายบนหาดนี้ เพราะว่า ปรากฏการณ์ เอล นิโน (น้ำทะเลอุณหภูมิสูงขึ้น)
ตอนนี้เจ้าแพลงตอนพิษ ทำให้ทะเลเป็นสีแดงและเหลือง และน้ำทะเลเน่าเสียและเป็นพิษ

 

วันนี้เผอิญต้องออกไปธุระข้างนอก เลยไม่ได้ติดตามกระทู้ แล้วพอกลับเข้ามา เห็นเพื่อนส่งอีเมลล์ให้ บอกว่า หลังจากน้ำท่วมที่โจโฮบาร์รู แล้วมีปลาตัวนี้ออกมานอนตายที่พื้น

 

Hey friends,
>
> Have you heard about the story regarding the flood in Johor, about the
> mythical sea-dragon creature? After being told by my mom, I went
online
> to
> read more about it, and hopefully to find some pictures of the
mythical
> fish. And below is what I have found.
>
> "Someone told me that about 2 months ago a fisherman from Johor caught
a
> very unusual sea-creature that resembles a little sea-dragon. A rich
> Datuk
> offered the fisherman RM5000 to buy over this sea-creature to be place
> in
> KLCC Aquaria but was turned down by the fisherman. Subsequently this
> sea-creature did not survive in captivity of the fisherman about 2
weeks
> ago. Then, came the big flood. This fisherman's house together with
> thousands of others suffered loss as a result of the flood. Then just
> last
> week the fisherman and a few other Chinese people went to a Chinese
> Temple
> in Johor with the hope that the medium for guidance about their
> situation.
> And do you know what the medium said to these people.
>
> He said the flood was as a result of the death of that sea-creature
> happens
> to be the offspring of "Hoi Loong Wong" (King Neptune's offspring).
The
> fisherman should have freed the sea-creature instead of keeping it. It
> has
> brought upon bad karma to the entire Johor region. I believe the
> discovery
> of the sea-creature 2 months ago was covered by the Chinese daily
> papers.
> Mythical curse or Act of God?"
>
> Heard that there is going to be a 3rd flooding during CNY, and it is
> supposed to be the worst. I'm wondering how true it is.
>


อันนี้เป็นอีเมลล์ที่ส่งมาแล้วมีรูปปลาด้วย

 

ปลากะพงสีทอง โผล่ทะเล"ตรัง"

คอลัมน์ เป็นไปได้





ถ้าพูดถึงชื่อของปลากะพงขาวโดยทั่วไปแล้ว ถือว่าเป็นปลาชนิดหนึ่งที่รู้จักกันดี โดยเฉพาะวงการนักชิม เนื่องจากมีรสชาติอร่อย ไม่ว่าจะนำมาปรุงเป็นอาหารชนิดใด และโดยปกติทั่วไปของปลากะพงขาวนั้น จะมีเกล็ดและเนื้อสีขาวสมกับชื่อ ซึ่งคงมีโอกาสน้อยมากที่จะเจอเรื่องราวแปลกประหลาดเช่นนี้

นายประชา แสงรุ่ง หรือบังดำ อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 203 หมู่ที่ 4 บ้านเกาะเคี่ยม ต.กันตังใต้ อ.กันตัง มีอาชีพจำหน่ายปลาและอาหารทะเล ในตลาดสดเทศบาลนครตรัง และเป็นเจ้าของแพปลาขนาดเล็ก เล่าว่า ได้มีชาวประมงพื้นบ้านคนหนึ่งในพื้นที่อำเภอกันตัง นำปลาและสัตว์ทะเลมาจำหน่าย

แต่ที่น่าสนใจก็คือ หนึ่งในปลาที่นำมาส่งนั้น กลับเป็นปลากะพงสีทอง ซึ่งถือว่าเป็นปลาประหลาด โดยเป็นเพศผู้ มีน้ำหนัก 6.8 กิโลกรัม และมีความยาวประมาณ 2.5 ฟุต จึงทำให้ชาวบ้านที่ทราบข่าวตื่นตาตื่นใจ และแห่มาขอดูที่บ้านเป็นจำนวนมาก

ทั้งนี้ ชาวประมงพื้นบ้านที่พบปลาตัวนี้ บอกว่า ในขณะที่เขากำลังออกไปหาปลา ในบริเวณน่านน้ำตรัง ทะเลอันดามัน ก็พบปลากะพงสีทองกำลังติดเบ็ดอยู่ โดยมีเกล็ดและเนื้อเป็นสีทอง ผิดปกติไปจากปลากะพงชนิดเดียวกัน ปกติจะมีเกล็ดและเนื้อเป็นสีขาวเท่านั้น

บังดำ เล่าอีกว่า ชาวบ้านที่ทราบข่าวและมาชมปลาตัวนี้ ล้วนกล่าวกันเป็นเสียงเดียวกันว่า ไม่เคยพบเห็นปลากะพงสีทอง แม้กระทั่งรุ่นคุณย่า คุณยาย ที่มีอายุกว่า 70-80 ปี ต่างก็ยืนยันว่าไม่เคยพบเห็นมาก่อนเช่นกัน พร้อมทั้งเชื่อว่าเป็นเรื่องที่ดี และจะมีการนำโชคลาภมาให้

ในขณะที่นายสุภาพ ไพรพนาพงศ์ หัวหน้าสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งจังหวัดตรัง ระบุว่า ถือได้ว่าปลาตัวนี้เป็นปลาประหลาด เพราะหากเป็นปลากะพงทั่วไป จะมีเกล็ดและเนื้อเป็นสีขาว นอกจากว่าจะมีอายุมากจริงๆ ก็อาจทำให้เกล็ดหรือเนื้อปลา มีสีเหลือง หรือสีทองได้ แต่จะเป็นเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น ไม่มากเหมือนกับปลากะพงตัวที่พบล่าสุด

อย่างไรก็ตาม ทางสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำฯ คงจะต้องไปทำการตรวจสอบเพื่อหาความชัดเจนอีกครั้ง และอาจจะเป็นปลากะพงสีทองสายพันธุ์หนึ่ง ที่เคยมีผู้พบเห็นในท้องทะเลน้ำลึก แต่คงเป็นเรื่องที่ยากมากในยุคปัจจุบัน โดยปลาตัวนี้น่าจะมีอายุประมาณ 7-8 ปี ซึ่งจริงๆ แล้วยังสามารถโตขึ้นไปได้อีก

แต่เสียดายที่ต้องมาตายไปเสียก่อน

http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=69811

 

<!-- / icon and title --><!-- message -->ฮือฮา"ปลาหมึกยักษ์"โผล่ทะเลตรัง


เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 5 ก.พ. นายนฤดม สักหลัก อายุ 25 ปี อาชีพขับเรือหางยาวนำเที่ยว ที่บริเวณท่าเทียบเรือปากเมง ต.ไม้ฝาด อ.สิเกา จ.ตรัง แจ้งว่าพบปลาหมึกยักษ์ที่บริเวณท่าเทียบเรือปากเมง ตรวจสอบพบว่ามีนักท่องเที่ยวกว่า 100 คนมุงดูกันด้วยความแตกตื่น

นายนฤดมกล่าวว่า ขณะที่ตนจะนำลูกทัวร์ลงเรือท่องเที่ยวทะเลตรัง พบปลาหมึกตัวดังกล่าวลอยตัวอยู่บนผิวน้ำ ซึ่งกำลังไล่ล่าเหยื่อ ตนจึงใช้ตะขอเกี่ยว แต่ไม่สำเร็จ จึงตัดสินใจกระโดดน้ำลงไปจับเอง เมื่อนำมาวัดขนาด พบว่ามีตัวยาวตั้งแต่หัวจรดหาง 60 ซ.ม. และมีน้ำหนักกว่า 5 ก.ก.

นายนฤดมกล่าวต่อว่า ตนไม่เคยเห็นปลาหมึกยักษ์มาก่อนเลย ไม่ทราบว่าตัวที่พบนี้เป็นชนิดใด แต่มีลักษณะคล้ายกับปลาหมึกกล้วย จากนั้นประสานไปยังมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตตรัง ให้มาตรวจสอบและนำกลับไปศึกษาเพื่อที่จะเก็บไว้ให้เด็ก เยาวชน และประชาชนทั่วไปมาดูมาชมกันต่อไป ที่พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย

ด้านจ.ส.ต.เชาวรัตน์ เรืองอินทร์ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดกู้ภัยทางทะเล ประจำท่าเทียบเรือปากเมง กล่าวว่า ตนไม่เคยพบเห็นปลาหมึกที่มีขนาดใหญ่เช่นนี้มาก่อน จากการพูดคุยกับชาวบ้านที่ประกอบอาชีพชาวประมงมายาวนานตั้งแต่รุ่นคุณปู่ คุณย่า ซึ่งมีอายุกว่า 70 ปีแล้วก็ไม่มีใครเคยเห็นปลาหมึกยักษ์มาก่อนเช่นกัน

นายโกสินทร์ พัฒนมณี ผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตตรัง กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่าเป็นปลาหมึกกล้วย โดยธรรมชาติจะมีขนาดใหญ่ อย่างตัวที่พบล่าสุดคือจะมีขนาดตัวยาวประมาณ 60-70 ซ.ม. น้ำหนักประมาณ 5-6 ก.ก. สาเหตุที่ปลาหมึกตามตลาดสดหรือตามแพปลามีขนาดเล็กนั้น เนื่องจากปลาหมึกเหล่านั้นไม่สามารถครองตัวให้หลุดรอดจากเครื่องมือจับสัตว์น้ำของชาวประมงได้

นายโกสินทร์กล่าวต่อว่า ตนนำปลาหมึกยักษ์ตัวนี้มาอนุบาลไว้ที่พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ แต่เนื่องจากตามปกติปลาหมึกจะเป็นสัตว์น้ำที่มีความเปราะบาง จึงอาจจะไม่สามารถนำมาเลี้ยงให้มีชีวิตอยู่รอดได้ อย่างไรก็ตามหากปลาหมึกยักษ์ตัวนี้ตายตนจะนำไปทำการดองแอลกอฮอล์ เพื่อเก็บไว้ให้ประชาชนและผู้สนใจได้มาดูกันที่พิพิธภัณฑ์ของทางมหาวิทยาลัย
http://www.matichon.co.th/khaosod/kh...sectionid=0301



http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=70334