พลังจิตหยั่งรู้อนาคต...สนธิ-ทักษิณ--การบาดเจ็บนองเลือด--ม๊อบการเมือง

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย WebSnow, 23 กุมภาพันธ์ 2006.

  1. จันทร์เจ้า

    จันทร์เจ้า เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    830
    ค่าพลัง:
    +1,948
    "ทักษิณ"ประกาศ ไม่ขอเป็นนายกฯแล้ว

    <CENTER>"ทักษิณ"ประกาศ ไม่ขอเป็นนายกฯแล้ว </CENTER>
    <!--detail--><!--images--><!--images--><CENTER>[​IMG]
    </CENTER>
    <!--images-->"ทักษิณ" แถลงเว้นวรรค ไม่ขอรับเป็นนายกรัฐมนตรีในการสรรหาของสภาที่จะเปิดขึ้น


    เมื่อเวลา 20.30 น. วันนี้(4 เม.ย.) พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคไทยรักไทยได้แถลงผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ ประกาศไม่รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยใช้เวลาแถลงประมาณ 10 นาที

    พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า ตนขอกราบขอบพระคุณพี่น้องประชาชน 16 ล้านคนที่ให้ความไว้วางใจตนและพรรคไทยรักไทยเข้ามาบริหารบ้านเมืองจากการลงคะแนนเลือกตั้งเมื่อวันที่ 2 เมษายนที่ผ่านมา แต่ตนต้องขอกราบขอโทษผู้ที่ลงคะแนนให้ทุกท่าน เนื่องจากมีเหตุการณ์ในบ้านเมืองที่ต้องมีการสร้างความสมานฉันท์

    "ถ้าเรามัวแต่จะเอาชนะกัน ประเทศชาติก็จะเป็นผู้แพ้ นี่คือพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อเดือนพฤษภาคม 2535" พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าว

    พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวอีกว่า ตนต้องขอขอบคุณกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่ได้ทำหนังสือถึงตนเมื่อช่วงบ่ายวันนี้ ตอบรับข้อเสนอที่จะเลิกชุมนุมหากตนลาออกจากนายกรัฐมนตรี

    "ผมคิดว่า จะไม่รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ในกระบวนการสรรหาในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรหลังจากที่สภาได้เปิดโดยมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(ส.ส.) ครบ 500 คนแล้ว" พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าว

    นายกรัฐมนตรีให้เหตุผลถึงการไม่รับตำแหน่งว่า เนื่องจากในปีนี้จะมีพระราชพิธีเฉลิมฉลองการขึ้นครองราชย์ครบ 60 ปีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

    "ขณะนี้เหลือเวลาอีก 60 กว่าวัน ซึ่งเราไม่มีเวลาทะเลาะกันอีกแล้ว คนไทยต้องรักสามัคคีกัน"

    นายกรัฐมนตรีกล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาทุกคนได้แสดงออกกันหมดแล้ว ประชาชนที่ชอบพรรคไทยรักไทย 16 ล้านคนได้แสดงออกด้วยการเลือกพรรคไทยรักไทยแล้ว ประชาชนที่ยังนิยมพรรคการเมืองฝ่ายค้านเดิมหรือไม่ชอบตนก็ได้แสดงออกด้วยการลงคะแนนไม่เลือกใครแล้ว กลุ่มพันธมิตรฯ ก็ได้แสดงออกแล้ว

    "ถึงวันนี้ ทุกคนต้องแสดงออกอีกประการหนึ่งคือ การร่วมใจกันแสดงความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว"นายกรัฐมนตรีกล่าว

    อย่างไรก็ดี พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวว่า ตนยังต้องทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีรักษาการอยู่ต่อไปจนกว่าจะมีนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลชุดใหม่ เนื่องจากรัฐธรรมนูญระบุไว้ว่า จะต้องอยู่รักษาการ

    ที่มา : ข่าวจาก http://www.mthai.com/ ครับ
     
  2. longhorn48

    longhorn48 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 เมษายน 2006
    โพสต์:
    368
    ค่าพลัง:
    +874
    ยังไงประเทสไทยก้ไม่เหมือนเดิมแล้ว

    หรือทุกท่านว่าไงครับ
     
  3. หนูมาลี

    หนูมาลี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 เมษายน 2005
    โพสต์:
    605
    ค่าพลัง:
    +1,148
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=516 align=center border=0><TBODY><TR><TD colSpan=3>กกต.สั่งเลือกตั้งรอบใหม่ 23 เม.ย.
    </TD></TR><TR><TD colSpan=3>[​IMG]</TD></TR><TR><TD colSpan=3>[​IMG]</TD></TR><TR><TD colSpan=3>[​IMG]</TD></TR><TR><TD width=50>[​IMG]</TD><TD class=text width=416>[​IMG]เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 4 เม.ย. ที่สำนักงานคณะกรรมการสิทธิ มนุษยชนแห่งชาติ พล.อ.สายหยุด เกิดผล รองประธานมูลนิธิองค์กรกลาง เพื่อประชาธิปไตย พร้อมคณะได้เข้ายื่น หนังสือร้องเรียน การกระทำผิดกฎหมายรัฐธรรมนูญ ต่อนายเสน่ห์ จามริก ประธานคณะกรรมการ สิทธิมนุษยชนแห่งชาติ โดยมูลนิธิองค์กรกลางฯขอให้ กรรมการสิทธิมนุษยชนฯ มีมติว่ารูปแบบการจัดคูหาเลือกตั้งขัดกับ หลักสิทธิมนุษยชนหลักการเลือกตั้ง ในระบอบประชาธิปไตยและขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 104 วรรค 3 หรือไม่อันมีผลให้การเลือกตั้งเมื่อวันที่ 2 เม.ย. ที่ผ่านมาต้องมีผลเป็นโมฆะและจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ตามความเหมาะสม โดย พล.อ.สายหยุดกล่าวว่า การเคลื่อนไหวขององค์กรกลางครั้งนี้ ไม่ใช่การกวนน้ำให้ขุ่นเพราะเป็นการรับผิดชอบ ในฐานะพลเมืองดีและเป็นองค์กรตรวจสอบ และติดตามการเลือกตั้ง ที่ผ่านมาย้ำตลอดว่าอยากให้ ประเทศไทยเป็นแบบอย่างของการเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ยุติธรรม
    “วาสนา” รอฟังความเห็นเปลี่ยนคูหา
    จากนั้น พล.อ.สายหยุดได้เดินทางไปที่สำนักงาน คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อขอให้ทบทวนการจัดรูปแบบคูหา พล.ต.อ.วาสนา ประธาน กกต.กล่าวว่า ดีใจที่ทางองค์กรกลางมาเสนอข้อมูลและข้อเสนอแนะต่างๆ ที่มีเจตนาดีไม่ได้มุ่งร้ายเหมือนบางคนบางกลุ่มที่ไม่เคยศึกษาข้อกฎหมายเลย ดีแต่วิจารณ์อย่างเดียว เรื่องการจัดคูหานั้นยืนยันว่า กกต.คิดถึงหลักการรักษาความลับของผู้ลงคะแนนเสมอ แต่ภาพในซีดีที่นำมาให้ดูก็บ่งชี้ว่าเป็นความพยายาม ที่จะซูมกล้องลอดใต้แขนผู้ใช้สิทธิไปคอยจ้องดู สอดรู้สอดเห็น แต่การเลือกตั้งครั้งนี้บังเอิญว่าผู้สมัครเพียงคนเดียว จึงทำให้มีการมองเป็นการชี้นำ อยากให้มองแบบกว้างๆ ตนไม่ใช่ สัปเหร่อ คือให้เกิดปัญหาแล้วมาคอยเก็บศพเอา แต่เราทำงานเหมือนหมอ คือรู้ว่าจะมีเหตุต่างๆเกิดขึ้น เราก็ป้องกัน อย่างไรก็ตาม เพื่อให้ได้ข้อยุติ ได้สั่งให้เลขาธิการและรองเลขาธิการฝ่ายบริหารการเลือกตั้งไปหารือ และรับฟังความคิดเห็นจาก กกต.จังหวัด และประชาชน แล้วให้เสนอเรื่องกลับมาภายใน 3 วันว่าการจัดคูหาแบบใหม่นี้ดีหรือไม่อย่างไร เพื่อจะให้มีการปรับปรุงในการเลือกตั้ง ส.ว.วันที่ 19 เม.ย.นี้
    ฉุนคำถามช่วยผู้สมัคร ทรท.
    จากนั้น พล.ต.อ.วาสนาให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องการเปิดรับสมัครใหม่ใน 39 เขต ว่า ยังไม่ค่อยจะลงล็อก แต่ถึงอย่างไรก็ต้องลงในวันนี้ เมื่อถามถึงสาเหตุที่ยังไม่ได้ข้อสรุป ประธาน กกต.กล่าวว่า เพราะยังมีความเห็นที่แตกต่างกันนิดหน่อย เมื่อถามต่อว่าการตัดสินใจให้เปิดรับสมัครใหม่ กกต.มุ่งความสำเร็จความเลือกตั้งเพียงอย่างเดียว พล.ต.อ.วาสนากล่าวว่า ก็ต้องมุ่งถึงผลเลือกตั้งให้เสร็จ กฎหมายเขียนไว้อย่างนั้น ถ้าไม่มุ่งจะไปจัดหาพระแสงทำไม เมื่อถามอีกว่า การเปิดรับสมัครใหม่ กกต.อาจถูกมองว่าต้องการ ช่วยให้คนที่เคยสมัครที่ได้ไม่ถึงร้อยละ 20 ได้รับเลือกตั้ง ประธาน กกต.กล่าวว่า นั่นมันความคิดของคุณ คนอื่นเขาอาจไม่คิดอย่างนั้น แล้วคุณรู้ได้อย่างไรว่าถ้าเปิดแล้วจะมีคนมาสมัคร 2-3 คน เพราะถ้ามันมีมันก็มีตั้งแต่ครั้งแรกแล้ว
    กกต.สั่งเลือกตั้งรอบใหม่ 23 เม.ย.
    เมื่อเวลา 16.30 น. นายปริญญา นาคฉัตรีย์ กกต. ได้แถลงว่า ที่ประชุม กกต.ได้หารือและมีมติว่า กำหนดให้มีการเลือกตั้งใหม่ในวันที่ 23 เม.ย. โดยไม่ต้องออกพระราชกฤษฎีกาใหม่ และจะเปิดรับสมัครใหม่วันที่ 8-9 เม.ย.นี้ ทั้งนี้ เพราะต้องการเปิดโอกาสให้ทุกพรรคการเมืองส่งผู้สมัครลงแข่งขัน ส่วนเขตที่มีผู้สมัครเพียงคนเดียวทางพรรคต้นสังกัดจะส่งผู้สมัครคนเดิม หรือถ้าส่งผู้สมัครคนใหม่ได้ก็จะดี สาเหตุที่ต้องเลื่อนไปเป็น 23 เม.ย. เพราะต้องการเปิดโอกาสให้ทุกคนมีเวลาหาเสียง หรือถ้าผู้สมัครใหม่โดนตัดสิทธิจะได้มีเวลาอุทธรณ์ต่อศาลฎีกาได้ และไม่ให้ใกล้กับวันเลือกตั้ง ส.ว.ป้องกันความสับสนของประชาชน สำหรับกำหนดเดิมทางสำนักงานเลขาธิการ กกต.ได้เสนอวันที่ 9, 16 และ 23 เม.ย. ซึ่ง กกต.ก็เห็นด้วย โดยได้กำหนดให้เปิดรับสมัครวันที่ 5-6 เม.ย. ในเขต 3 จ.นนทบุรี แต่ด้วยเหตุผลข้างต้นจึงต้องเลื่อนวันออกไป
    ยันยึดความถูกต้องไม่ได้ช่วย ทรท.
    ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีเขตที่มีผู้สมัครคนเดียวได้คะแนนไม่ถึง 20% กกต.น่าจะพิจารณาตัดสิทธิ เพราะถือว่าประชาชนไม่เลือกแล้ว นายปริญญาตอบว่า รู้ได้อย่างไรว่าประชาชนจะไม่เลือกอีก เราต้องเปิดโอกาสแก่ทุกคน แต่ส่วนตัวเคยเห็นว่าน่าจะให้เลือกใหม่ไป 1 ครั้งก่อนหากยังได้ไม่ถึง 20% จึงให้เปิดรับสมัครใหม่ และเจตนารมณ์ เดิมของรัฐธรรมนูญวางไว้ว่า ผู้สมัครคนเดียวต้องได้ 30% และไม่ให้คนที่คะแนนไม่ถึงมาสมัครใหม่ ซึ่งเจตนาคือต้องการคนใหม่ ซึ่งก็มีการถกเถียงกันพอสมควรจนมีการกำหนดออกมาแบบนี้ เมื่อถามว่า ทำแบบนี้เหมือนเป็นการช่วยผู้สมัครพรรคไทยรักไทยที่คะแนนไม่ถึง 20% นายปริญญาตอบว่า เป็นการทำงานตามแนวทางกฎหมาย เมื่อคนไม่ต้องการคนเดิมก็ต้องเปิดโอกาสให้พรรคอื่นมีโอกาสด้วย และไม่แน่ว่าพรรคที่ไม่ส่งผู้สมัครก่อนหน้านี้อาจเปลี่ยนใจกลับมาส่งก็ได้ ตอนนี้ กกต.ต้องยึดกฎหมายเป็นหลัก
    ส่งซิก 23 เม.ย. ปัญหาคลี่คลาย
    เมื่อถามว่า หาก 30 วันแล้วยังได้ ส.ส.ไม่ครบ 500 คน นายปริญญาตอบว่า คงไม่ถึงทางตัน หลังวันที่ 23 เม.ย. จึงจะบอกว่าต้องทำอย่างไร หากได้ ส.ส.ไม่ครบจริง กกต.ต้องประชุมและจะแถลงให้ทราบต่อไป หน้าที่ของ กกต.คือการจัดเลือกตั้งและรับรองผลให้เสร็จภายในวันที่ 1 พ.ค.นี้ ส่วนกรณีของ น.พ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ ที่ลาบวช ขณะนี้พรรคไทยรักไทยยังไม่ได้ส่งใบลาออก มายัง กกต. แต่ท้ายที่สุดแล้ว กกต.ก็ต้องพิจารณาอยู่แล้วและอาจไม่ประกาศชื่อเป็น ส.ส.ก็ได้ ซึ่งก็ต้องรอดูความเห็นของอนุกรรมการที่สอบสวนเรื่องนี้ด้วย
    ผัดฟ้องฝากขัง “ไชยยันต์”
    ที่ศาลแขวงพระโขนง ร.ต.ต.เดชารัตน์ บุตรลา พนักงานสอบสวน สน.ประเวศ ได้ยื่นคำร้องขอผัดฟ้องฝากขังนายไชยยันต์ ไชยพร หัวหน้าภาควิชาปกครอง คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผู้ต้องหาในคดีฉีกบัตรเลือกตั้ง โดยระบุในคำร้องสรุปว่า เมื่อวันที่ 2 เม.ย. 49 ผู้ต้องหาได้เดินทางไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ส.ส. ที่หน่วยเลือกตั้ง ร.ร.เตรียมอุดมพัฒนาการ หลังจากรับบัตรลงคะแนนแล้วผู้ต้องหาได้เข้าคูหากาช่องไม่ลงคะแนน จากนั้นได้ฉีกบัตรลงคะแนน อันเป็นการกระทำผิดตาม ม.8 พ.ร.บ.ประกอบการเลือกตั้ง อย่างไรก็ตาม พนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานมาโดยตลอด แต่ยังไม่แล้วเสร็จ ต้องสอบปากคำพยานอีก 5 ปาก และอื่นๆ ด้วยความจำเป็นดังกล่าวจึงขอผัดฟ้องฝากขังผู้ ต้องหารายนี้ ซึ่งได้รับการประกันตัวระหว่างสอบสอนไปอีก 6 วัน จนถึงวันที่ 9 เม.ย.นี้ด้วย ศาลพิจารณาคำร้องแล้วอนุญาตให้ผัดฟ้องฝากขังได้
    คณาจารย์รัฐศาสตร์นัดถกด่วน
    นางอมรา พงศาพิชญ์ คณบดีคณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ เปิดเผยว่า ทางคณะจะไม่ทอดทิ้งนายไชยยันต์แน่นอน ซึ่งขณะนี้ศูนย์นิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) และคลินิกนิติศาสตร์ จุฬาฯ ก็เป็นที่ปรึกษาให้นายไชยยันต์ อยู่แล้ว และจะมีการประชุมคณาจารย์คณะรัฐศาสตร์ในวันที่ 5 เมษายนนี้ เพื่อหารือเรื่องนายไชยยันต์ และเรื่องสถานการณ์การเมืองหลังการเลือกตั้ง
    นายสุริชัย หวันแก้ว อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ กล่าวว่า กรณี พ.ต.ท.ทักษิณยื่นเงื่อนไขหลายอย่างแลกกับการลาออกจากตำแหน่งนั้น สิ่งที่นายกฯพูดไม่มีอะไรแน่นอน ฉะนั้นคงเป็นแค่การโยนหินถามทาง แต่ปัญหาที่ต้องยึดให้มั่นเวลานี้คือ การตรวจสอบภาษีกรณีขายหุ้นชินคอร์ป ซึ่งการเลือกตั้งไม่อาจทำให้สิ่งที่ผิดกฎหมาย ถูกกฎหมายมาได้
    <HR>ข่าวที่เกี่ยวข้อง : • 4 เมษายน 2549 : 9 เมย.กาใหม่ 38 เขต-15จว. ได้ไม่ถึงร้อยละ20
    [​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  4. หนูมาลี

    หนูมาลี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 เมษายน 2005
    โพสต์:
    605
    ค่าพลัง:
    +1,148
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=516 align=center border=0><TBODY><TR><TD colSpan=3>กกต.สั่งเลือกตั้งรอบใหม่ 23 เม.ย.
    </TD></TR><TR><TD colSpan=3>[​IMG]</TD></TR><TR><TD colSpan=3>[​IMG]</TD></TR><TR><TD colSpan=3>[​IMG]</TD></TR><TR><TD width=50>[​IMG]</TD><TD class=text width=416>[​IMG]เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 4 เม.ย. ที่สำนักงานคณะกรรมการสิทธิ มนุษยชนแห่งชาติ พล.อ.สายหยุด เกิดผล รองประธานมูลนิธิองค์กรกลาง เพื่อประชาธิปไตย พร้อมคณะได้เข้ายื่น หนังสือร้องเรียน การกระทำผิดกฎหมายรัฐธรรมนูญ ต่อนายเสน่ห์ จามริก ประธานคณะกรรมการ สิทธิมนุษยชนแห่งชาติ โดยมูลนิธิองค์กรกลางฯขอให้ กรรมการสิทธิมนุษยชนฯ มีมติว่ารูปแบบการจัดคูหาเลือกตั้งขัดกับ หลักสิทธิมนุษยชนหลักการเลือกตั้ง ในระบอบประชาธิปไตยและขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 104 วรรค 3 หรือไม่อันมีผลให้การเลือกตั้งเมื่อวันที่ 2 เม.ย. ที่ผ่านมาต้องมีผลเป็นโมฆะและจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ตามความเหมาะสม โดย พล.อ.สายหยุดกล่าวว่า การเคลื่อนไหวขององค์กรกลางครั้งนี้ ไม่ใช่การกวนน้ำให้ขุ่นเพราะเป็นการรับผิดชอบ ในฐานะพลเมืองดีและเป็นองค์กรตรวจสอบ และติดตามการเลือกตั้ง ที่ผ่านมาย้ำตลอดว่าอยากให้ ประเทศไทยเป็นแบบอย่างของการเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ยุติธรรม
    “วาสนา” รอฟังความเห็นเปลี่ยนคูหา
    จากนั้น พล.อ.สายหยุดได้เดินทางไปที่สำนักงาน คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อขอให้ทบทวนการจัดรูปแบบคูหา พล.ต.อ.วาสนา ประธาน กกต.กล่าวว่า ดีใจที่ทางองค์กรกลางมาเสนอข้อมูลและข้อเสนอแนะต่างๆ ที่มีเจตนาดีไม่ได้มุ่งร้ายเหมือนบางคนบางกลุ่มที่ไม่เคยศึกษาข้อกฎหมายเลย ดีแต่วิจารณ์อย่างเดียว เรื่องการจัดคูหานั้นยืนยันว่า กกต.คิดถึงหลักการรักษาความลับของผู้ลงคะแนนเสมอ แต่ภาพในซีดีที่นำมาให้ดูก็บ่งชี้ว่าเป็นความพยายาม ที่จะซูมกล้องลอดใต้แขนผู้ใช้สิทธิไปคอยจ้องดู สอดรู้สอดเห็น แต่การเลือกตั้งครั้งนี้บังเอิญว่าผู้สมัครเพียงคนเดียว จึงทำให้มีการมองเป็นการชี้นำ อยากให้มองแบบกว้างๆ ตนไม่ใช่ สัปเหร่อ คือให้เกิดปัญหาแล้วมาคอยเก็บศพเอา แต่เราทำงานเหมือนหมอ คือรู้ว่าจะมีเหตุต่างๆเกิดขึ้น เราก็ป้องกัน อย่างไรก็ตาม เพื่อให้ได้ข้อยุติ ได้สั่งให้เลขาธิการและรองเลขาธิการฝ่ายบริหารการเลือกตั้งไปหารือ และรับฟังความคิดเห็นจาก กกต.จังหวัด และประชาชน แล้วให้เสนอเรื่องกลับมาภายใน 3 วันว่าการจัดคูหาแบบใหม่นี้ดีหรือไม่อย่างไร เพื่อจะให้มีการปรับปรุงในการเลือกตั้ง ส.ว.วันที่ 19 เม.ย.นี้
    ฉุนคำถามช่วยผู้สมัคร ทรท.
    จากนั้น พล.ต.อ.วาสนาให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องการเปิดรับสมัครใหม่ใน 39 เขต ว่า ยังไม่ค่อยจะลงล็อก แต่ถึงอย่างไรก็ต้องลงในวันนี้ เมื่อถามถึงสาเหตุที่ยังไม่ได้ข้อสรุป ประธาน กกต.กล่าวว่า เพราะยังมีความเห็นที่แตกต่างกันนิดหน่อย เมื่อถามต่อว่าการตัดสินใจให้เปิดรับสมัครใหม่ กกต.มุ่งความสำเร็จความเลือกตั้งเพียงอย่างเดียว พล.ต.อ.วาสนากล่าวว่า ก็ต้องมุ่งถึงผลเลือกตั้งให้เสร็จ กฎหมายเขียนไว้อย่างนั้น ถ้าไม่มุ่งจะไปจัดหาพระแสงทำไม เมื่อถามอีกว่า การเปิดรับสมัครใหม่ กกต.อาจถูกมองว่าต้องการ ช่วยให้คนที่เคยสมัครที่ได้ไม่ถึงร้อยละ 20 ได้รับเลือกตั้ง ประธาน กกต.กล่าวว่า นั่นมันความคิดของคุณ คนอื่นเขาอาจไม่คิดอย่างนั้น แล้วคุณรู้ได้อย่างไรว่าถ้าเปิดแล้วจะมีคนมาสมัคร 2-3 คน เพราะถ้ามันมีมันก็มีตั้งแต่ครั้งแรกแล้ว
    กกต.สั่งเลือกตั้งรอบใหม่ 23 เม.ย.
    เมื่อเวลา 16.30 น. นายปริญญา นาคฉัตรีย์ กกต. ได้แถลงว่า ที่ประชุม กกต.ได้หารือและมีมติว่า กำหนดให้มีการเลือกตั้งใหม่ในวันที่ 23 เม.ย. โดยไม่ต้องออกพระราชกฤษฎีกาใหม่ และจะเปิดรับสมัครใหม่วันที่ 8-9 เม.ย.นี้ ทั้งนี้ เพราะต้องการเปิดโอกาสให้ทุกพรรคการเมืองส่งผู้สมัครลงแข่งขัน ส่วนเขตที่มีผู้สมัครเพียงคนเดียวทางพรรคต้นสังกัดจะส่งผู้สมัครคนเดิม หรือถ้าส่งผู้สมัครคนใหม่ได้ก็จะดี สาเหตุที่ต้องเลื่อนไปเป็น 23 เม.ย. เพราะต้องการเปิดโอกาสให้ทุกคนมีเวลาหาเสียง หรือถ้าผู้สมัครใหม่โดนตัดสิทธิจะได้มีเวลาอุทธรณ์ต่อศาลฎีกาได้ และไม่ให้ใกล้กับวันเลือกตั้ง ส.ว.ป้องกันความสับสนของประชาชน สำหรับกำหนดเดิมทางสำนักงานเลขาธิการ กกต.ได้เสนอวันที่ 9, 16 และ 23 เม.ย. ซึ่ง กกต.ก็เห็นด้วย โดยได้กำหนดให้เปิดรับสมัครวันที่ 5-6 เม.ย. ในเขต 3 จ.นนทบุรี แต่ด้วยเหตุผลข้างต้นจึงต้องเลื่อนวันออกไป
    ยันยึดความถูกต้องไม่ได้ช่วย ทรท.
    ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีเขตที่มีผู้สมัครคนเดียวได้คะแนนไม่ถึง 20% กกต.น่าจะพิจารณาตัดสิทธิ เพราะถือว่าประชาชนไม่เลือกแล้ว นายปริญญาตอบว่า รู้ได้อย่างไรว่าประชาชนจะไม่เลือกอีก เราต้องเปิดโอกาสแก่ทุกคน แต่ส่วนตัวเคยเห็นว่าน่าจะให้เลือกใหม่ไป 1 ครั้งก่อนหากยังได้ไม่ถึง 20% จึงให้เปิดรับสมัครใหม่ และเจตนารมณ์ เดิมของรัฐธรรมนูญวางไว้ว่า ผู้สมัครคนเดียวต้องได้ 30% และไม่ให้คนที่คะแนนไม่ถึงมาสมัครใหม่ ซึ่งเจตนาคือต้องการคนใหม่ ซึ่งก็มีการถกเถียงกันพอสมควรจนมีการกำหนดออกมาแบบนี้ เมื่อถามว่า ทำแบบนี้เหมือนเป็นการช่วยผู้สมัครพรรคไทยรักไทยที่คะแนนไม่ถึง 20% นายปริญญาตอบว่า เป็นการทำงานตามแนวทางกฎหมาย เมื่อคนไม่ต้องการคนเดิมก็ต้องเปิดโอกาสให้พรรคอื่นมีโอกาสด้วย และไม่แน่ว่าพรรคที่ไม่ส่งผู้สมัครก่อนหน้านี้อาจเปลี่ยนใจกลับมาส่งก็ได้ ตอนนี้ กกต.ต้องยึดกฎหมายเป็นหลัก
    ส่งซิก 23 เม.ย. ปัญหาคลี่คลาย
    เมื่อถามว่า หาก 30 วันแล้วยังได้ ส.ส.ไม่ครบ 500 คน นายปริญญาตอบว่า คงไม่ถึงทางตัน หลังวันที่ 23 เม.ย. จึงจะบอกว่าต้องทำอย่างไร หากได้ ส.ส.ไม่ครบจริง กกต.ต้องประชุมและจะแถลงให้ทราบต่อไป หน้าที่ของ กกต.คือการจัดเลือกตั้งและรับรองผลให้เสร็จภายในวันที่ 1 พ.ค.นี้ ส่วนกรณีของ น.พ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ ที่ลาบวช ขณะนี้พรรคไทยรักไทยยังไม่ได้ส่งใบลาออก มายัง กกต. แต่ท้ายที่สุดแล้ว กกต.ก็ต้องพิจารณาอยู่แล้วและอาจไม่ประกาศชื่อเป็น ส.ส.ก็ได้ ซึ่งก็ต้องรอดูความเห็นของอนุกรรมการที่สอบสวนเรื่องนี้ด้วย
    ผัดฟ้องฝากขัง “ไชยยันต์”
    ที่ศาลแขวงพระโขนง ร.ต.ต.เดชารัตน์ บุตรลา พนักงานสอบสวน สน.ประเวศ ได้ยื่นคำร้องขอผัดฟ้องฝากขังนายไชยยันต์ ไชยพร หัวหน้าภาควิชาปกครอง คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผู้ต้องหาในคดีฉีกบัตรเลือกตั้ง โดยระบุในคำร้องสรุปว่า เมื่อวันที่ 2 เม.ย. 49 ผู้ต้องหาได้เดินทางไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ส.ส. ที่หน่วยเลือกตั้ง ร.ร.เตรียมอุดมพัฒนาการ หลังจากรับบัตรลงคะแนนแล้วผู้ต้องหาได้เข้าคูหากาช่องไม่ลงคะแนน จากนั้นได้ฉีกบัตรลงคะแนน อันเป็นการกระทำผิดตาม ม.8 พ.ร.บ.ประกอบการเลือกตั้ง อย่างไรก็ตาม พนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานมาโดยตลอด แต่ยังไม่แล้วเสร็จ ต้องสอบปากคำพยานอีก 5 ปาก และอื่นๆ ด้วยความจำเป็นดังกล่าวจึงขอผัดฟ้องฝากขังผู้ ต้องหารายนี้ ซึ่งได้รับการประกันตัวระหว่างสอบสอนไปอีก 6 วัน จนถึงวันที่ 9 เม.ย.นี้ด้วย ศาลพิจารณาคำร้องแล้วอนุญาตให้ผัดฟ้องฝากขังได้
    คณาจารย์รัฐศาสตร์นัดถกด่วน
    นางอมรา พงศาพิชญ์ คณบดีคณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ เปิดเผยว่า ทางคณะจะไม่ทอดทิ้งนายไชยยันต์แน่นอน ซึ่งขณะนี้ศูนย์นิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) และคลินิกนิติศาสตร์ จุฬาฯ ก็เป็นที่ปรึกษาให้นายไชยยันต์ อยู่แล้ว และจะมีการประชุมคณาจารย์คณะรัฐศาสตร์ในวันที่ 5 เมษายนนี้ เพื่อหารือเรื่องนายไชยยันต์ และเรื่องสถานการณ์การเมืองหลังการเลือกตั้ง
    นายสุริชัย หวันแก้ว อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ กล่าวว่า กรณี พ.ต.ท.ทักษิณยื่นเงื่อนไขหลายอย่างแลกกับการลาออกจากตำแหน่งนั้น สิ่งที่นายกฯพูดไม่มีอะไรแน่นอน ฉะนั้นคงเป็นแค่การโยนหินถามทาง แต่ปัญหาที่ต้องยึดให้มั่นเวลานี้คือ การตรวจสอบภาษีกรณีขายหุ้นชินคอร์ป ซึ่งการเลือกตั้งไม่อาจทำให้สิ่งที่ผิดกฎหมาย ถูกกฎหมายมาได้
    <HR>ข่าวที่เกี่ยวข้อง : • 4 เมษายน 2549 : 9 เมย.กาใหม่ 38 เขต-15จว. ได้ไม่ถึงร้อยละ20
    [​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  5. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    พระราชดำรัสในหลวง
    เมื่อวันที่ 25 เม.ย. 49 >>>เมื่อเวลา 17.42 น.

    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออก ณ พระตำหนักเปี่ยมสุขวังไกลกังวล อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นายอักขราทร จุฬารัตน ประธานศาลปกครองสูงสุด นำตุลาการศาลปกครองสูงสุดเข้าเฝ้า ทูลละอองธุลีพระบาทเพื่อถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับตำแหน่งหน้าที่ ><O:p></O:p>

    <O:p
    ในโอกาสนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระดำรัสต่อคณะตุลาการศาลปกครองสูงสุด ความตอนหนึ่งว่า <O:p></O:p>
    <O:p
    <O:p></O:p>
    "ในเวลานี้ ถ้าจะให้พูด ศาลเองมีสิทธิที่จะพูดเกี่ยวกับการเลือกตั้ง โดยเฉพาะการเลือกตั้งของผู้ที่ได้คะแนน ได้แต้มไม่ถึง 20 เปอร์เซ็นต์ แล้วก็เขาเลือกตั้งคนเดียว ซึ่งมีความสำคัญ คือว่าถ้าไม่ถึง 20 เปอร์เซ็นต์ แล้วก็มีคนเดียว ในที่สุดการเลือกตั้งไม่ครบ <O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    ไม่ทราบว่าเกี่ยวข้องกับท่านหรือเปล่า แต่ความจริงน่าจะเกี่ยวข้องเหมือนกัน เพราะว่าถ้าไม่มีจำนวนผู้ที่ได้รับเลือกตั้งพอ ก็กลายเป็นทำให้การปกครองแบบประชาธิปไตย ดำเนินการไม่ได้ แล้วถ้าดำเนินการไม่ได้ ที่ท่านได้ปฏิญาณไว้เมื่อกี้นี้ ก็เป็นหมัน ที่บอกว่าจะต้องทำทุกอย่างเพื่อให้การปกครองแบบประชาธิปไตยต้องดำเนินการไปได้ ท่านก็เลยทำงานไม่ได้ ถ้าท่านทำงานไม่ได้ ท่านก็อาจจะต้องลาออก แต่ไม่ได้มีการแก้ไขปัญหา ฉะนั้นต้องหาทางแก้ไขให้ได้ <O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    เขาก็จะบอกว่าต้องไปถามศาลรัฐธรรมนูญ ศาลรัฐธรรมนูญก็บอกว่าไม่ใช่เรื่อง ศาลรัฐธรรมนูญก็บอกว่าเป็นการร่างรัฐธรรมนูญ ร่างเสร็จแล้วก็ไม่เกี่ยวข้อง ก็เลยขอร้องท่านอย่าไปทอดทิ้งการปกครองแบบประชาธิปไตย การปกครองแบบที่จะทำให้บ้านเมืองดำเนินการไปได้<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    แล้วก็อีกข้อหนึ่งคือการที่บอกว่าจะมีการยุบสภา และต้องเลือกตั้งภายใน 30 วัน ถูกต้องหรือไม่...ไม่พูดถึง ไม่พูดเลย ถ้าไม่ถูกก็จะต้องแก้ไข แล้วก็อาจจะให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะหรือไม่ ซึ่งท่านจะมีสิทธิ์ที่จะบอกว่า อะไรที่ควรหรือไม่ควร ไม่ได้บอกว่ารัฐบาลไม่ดี แต่ว่าเท่าที่ฟังดูมันเป็นไปไม่ได้ในการเลือกตั้งแบบประชาธิปไตย เลือกตั้งขึ้นพรรคเดียวคนเดียว ไม่ใช่ทั่วไป มีคนที่สมัครเลือกตั้งคนเดียว มันเป็นไปไม่ได้ มันไม่ใช่เรื่องประชาธิปไตย <O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    เมื่อไม่เป็นประชาธิปไตย ท่านก็ควรคิดว่า ต้องดูว่าเกี่ยวข้องกับศาลปกครองหรือไม่ ขอฝากอย่างดีที่สุดถ้าท่านจะทำได้ ท่านลาออก ท่านเอง ไม่ใช่รัฐบาลลาออก ท่านเองต้องลาออก ทำไม่ได้ รับหน้าที่ไม่ได้ ตะกี้ที่ปฏิญาณ ไปดูดีๆ จะเป็นการไม่ได้ทำตามที่ปฏิญาณ <O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    ตั้งแต่ฟังวิทยุเมื่อเช้านี้ กรณีเกิดที่.อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช อันนั้นไม่ใช่แห่งเดียว ที่อื่นมีหลายแห่งที่จะทำให้บ้านเมืองล่มจม บ้านเมืองไม่สามารถที่จะรอดพ้นจากสถานการณ์ที่ไม่ถูกหลัก<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    ฉะนั้นก็ขอให้ท่านไปศึกษาว่าเกี่ยวข้องหรือไม่ ท่านเกี่ยวข้องหรือไม่ แต่ถ้าท่านไม่เกี่ยวข้อง ท่านลาออกดีกว่า ท่านเป็นผู้ที่ได้รับหน้าที่ ท่านเป็นผู้ที่มีความรู้ เป็นผู้ที่ต้องทำให้บ้านเมืองดำเนินได้ หรือมิฉะนั้นต้องไปปรึกษากันกับผู้พิพากษาที่จะเข้ามา คือผู้พิพากษาศาลฎีกา ท่านก็เกี่ยวข้องเหมือนกัน ก็ปรึกษากัน ก็เป็นจำนวนหลายคนที่มีความรู้ ที่มีความซื่อสัตย์สุจริต ที่มีหน้าที่ที่จะทำให้บ้านเมืองมีขื่อมีแป <O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    ฉะนั้นขอฝาก ไม่อย่างนั้นยุ่ง เพราะถ้าไม่มีสภาผู้แทนราษฎร ก็ไม่มีทางจะปกครองแบบประชาธิปไตย ของเรามีศาลหลายชนิดมากมาย แล้วมีสภาหลายแบบ และทุกแบบจะต้องเข้ากัน ปรองดองกัน และคิดทางที่จะแก้ไขได้<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    ที่พูดอย่างนี้ค่อนข้างจะประหลาดหน่อย ที่ขอร้องอย่างนี้ ก็เพราะไม่อย่างนั้นเดี๋ยวเขาก็บอกว่าต้องมาตรา 7 มาตรา 7 ของรัฐธรรมนูญ ซึ่งขอยืนยันว่า มาตรา 7 ไม่ได้หมายถึงให้มอบให้พระมหากษัตริย์มีอำนาจที่จะทำอะไรตามชอบใจ ไม่ใช่ มาตรา 7 นั้น พูดถึงการปกครองแบบมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ไม่ได้บอกว่าให้พระมหากษัตริย์ตัดสินได้ ทำได้ทุกอย่าง ถ้าทำเขาก็จะว่าพระมหากษัตริย์ทำเกินหน้าที่ ซึ่งจริงๆ ไม่เคยทำเกินหน้าที่ ถ้าทำเกินหน้าที่ก็ไม่ใช่ประชาธิปไตย ก็อ้างถึงก่อนนี้ เมื่อรัฐบาลของ อาจารย์สัญญา ธรรมศักดิ์ ตอนนั้นไม่มีการทำเกินอำนาจของพระมหากษัตริย์ ตอนนั้นมีสภา มีประธานสภา รองประธานสภามีอยู่ ทำหน้าที่ แล้วมีนายกฯที่สนองพระบรมราชโองการได้ตามรัฐธรรมนูญ <O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    นายกฯพระราชทานหมายความว่าตั้งนายกฯโดยไม่มีกฎเกณฑ์อะไรเลย ตอนนั้นมีกฎเกณฑ์ อาจารย์สัญญาได้รับตั้งเป็นนายกฯ เป็นนายกฯที่มีคนรับสนองพระบรมราชโองการ คือรองประธานสภานิติบัญญัติ ดังนั้นไปทบทวนประวัติศาสตร์มาใหม่ ท่านก็เป็นผู้ใหญ่ ท่านก็ทราบว่ามีกฎเกณฑ์ที่รองรับ <O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    แล้วก็งานอื่นๆ ก็มี แม้จะที่เรียกว่าที่สภาสนามม้า เขาหัวเราะกัน สภาสนามม้า แต่ไม่ได้ผิดกฎหมาย เพราะว่านายกรัฐมนตรีเป็นผู้รับสนอง นายกรัฐมนตรี นายสัญญา ธรรมศักดิ์ ได้รับสนองพระบรมราชโองการ ก็สบายใจว่าทำอะไรแบบถูกต้องตามครรลองของรัฐธรรมนูญ<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    แต่ครั้งนี้จะให้ทำอะไรผิด ใครเป็นคนบอกก็ไม่ทราบนะ แต่ว่าเขาจะให้ทำ ฉะนั้นขอให้ช่วยปฏิบัติอะไร คิดอะไร ไม่ให้ผิดกฎเกณฑ์ของรัฐธรรมนูญ จะทำให้บ้านเมืองผ่านพ้นสิ่งที่เป็นอุปสรรคและมีความเจริญรุ่งเรืองได้" <O:p></O:p>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 เมษายน 2006
  6. BOONCHAUY

    BOONCHAUY เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2005
    โพสต์:
    69
    ค่าพลัง:
    +344

    น้องอ้นครับ ทำตามท่านบอกดีกว่าครับ ตอนนี้ตัวโทสะจริต กำลังเล่นงานน้องอยู่น่ะครับ ตอนนี้ วาระนี้ เกินความสามารถของเราที่จะเข้าไปแก้ไข ดังนั้นปฏิบัติของเราไป ทำอย่างที่ทำมา สักวันหนึ่งถ้าวาระมาถึง... อยากให้ทุกๆคนรักชาติให้เป็น และก็รักตัวเราเองด้วยครับ

    --------------------------------------------
    มาเริ่มสะสมทรัพย์ทางธรรมกันเถอะครับ
     
  7. longhorn48

    longhorn48 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 เมษายน 2006
    โพสต์:
    368
    ค่าพลัง:
    +874
    จงดำรงตนด้วยความไม่ประมาท
     
  8. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    ผบ.ทบ.ขอเข้าเฝ้าฯในหลวง ให้ทรงคลายทุกข์วิกฤติชาติ


    ผู้บัญชาการทหารบก เผย ขอเข้าเฝ้าฯในหลวง เพื่อให้พระองค์ทรงคลายทุกข์จากปัญหาชาติ ย้ำจุดยืนทหารไม่ยุ่งการเมือง และไม่ยอมให้รัฐบาลใช้ทหารเป็นเครื่องมือ ระบุ ไม่ยอมให้มีรัฐประหาร เผย เตือนรุ่น 10 ตั้งแต่ผู้ช่วย ผบ.ทบ.ถึง ผบ.พล 1 อย่าเคลื่อนไหวพลการ


    พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้ทำหนังสือผ่านตามขั้นตอนเพื่อขอพระบรมราชานุญาตเข้าเฝ้าฯพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพราะมีความรู้สึกว่าพระองค์ท่านทรงเป็นทุกข์มาก เนื่องจากมีปัญหาบ้านเมืองหลายอย่าง ซึ่งการขอเข้าเฝ้าฯเพื่อให้พระองค์ท่านมีความสบายพระทัย ว่า งานในหน้าที่กองทัพทั้งเรื่องการแก้ไขปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และการพัฒนากองทัพนั้น จะทำอย่างเต็มที่และสมบูรณ์ที่สุดในส่วนที่กองทัพรับผิดชอบ เพื่อไม่ให้พระองค์ท่านเป็นห่วงเรื่องนี้


    “ผมทราบว่า ในช่วงที่เกิดปัญหาการเมืองท่านจะยืนมองทอดสายตาไปที่ทะเล ผมคิดว่าพระองค์ท่านทรงเป็นทุกข์อย่างที่ผมเคยบอกแล้วว่าพระองค์ท่านทรงเป็นทุกข์ ทหารก็ไม่สบายใจ” ผบ.ทบ.ระบุ


    ผบ.ทบ.กล่าวว่า บ้านเมืองขณะนี้มีปัญหา ซึ่งเรื่องทางการเมืองก็ต้องแก้ด้วยการเมือง สำหรับตนขอยืนยันว่า จะไม่ใช้วิธีทางทหารเข้าไปแก้ไข ทหารอาชีพก็คือจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมืองและการเมืองก็อย่าเข้ามายุ่งกับทหาร แต่ทหารเราต้องทำตามนโยบายของรัฐ ถึงจะเรียกว่าทหารอาชีพ และรัฐต้องดูแลทหารด้วย และอย่าเอาทหารเข้าไปเกี่ยวข้องกับการเมือง


    ผบ.ทบ.ยอมรับด้วยว่า มีคนส่งจดหมายเข้ามาอยากให้ทหารเข้าไปแก้ไขปัญหาการเมือง ในจำนวนทั้งหมดมีกว่า 50% ต้องการให้ทหารแก้ไขปัญหา แต่อีกส่วนหนึ่งเห็นว่าเราวางน้ำหนัก และวางตัวถูกต้องในสถานการณ์การเมืองเช่นนี้ และไม่ต้องการให้ทหารออกมาทำอะไรเช่นในอดีต ในส่วนของตนยังคงย้ำหนักแน่น ว่า จะไม่มีการปฏิวัติแน่นอน เพราะเท่ากับเป็นการทำลายระบอบประชาธิปไตย สิ่งที่กองทัพต้องทำในขณะนี้ คือ การให้ความรู้ และต้องทำให้คนส่วนใหญ่เข้าใจประชาธิปไตยที่แท้จริง ไม่ใช่ประชาธิปไตยที่ถูกชี้นำ


    “การปฏิวัติทหารทำไม่ได้อยู่แล้ว เพราะได้เคยบอกกับน้องๆ โดยเฉพาะเตรียมทหารรุ่น 10 (ตท.10 ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมรุ่นกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร) ถ้าใครคิดทำอะไรนายกรัฐมนตรีคงแย่ และคิดว่า นายกรัฐมนตรีคงไม่สั่งอะไร เพราะรู้ว่าแต่ละคนมีศักยภาพแค่ไหน ซึ่งผมบอกกับเตรียมทหารรุ่น 10 เสมอว่า หากมีใครทำอะไรนายกรัฐมนตรีจะลำบาก อาทิ พล.ต.พฤณฑ์ สุวรรณทัต ผบ.พล 1 รอ.ก็มีความสนิทกันดี และน้องๆ รุ่น 10 ที่คุมกำลังทหารก็ฟังผม รวมถึง พล.อ.พรชัย กรานเลิศ ผู้ช่วย ผบ.ทบ.ก็ฟังผมดี ไม่มีปัญหา ผมขอยืนยันว่า เรื่องการปฏิวัติทหารเราทำไม่ได้อยู่แล้ว ผมได้เคยบอกท่านนายกรัฐมนตรี เสมอว่า จะใช้กำลังทหารทำปฏิวัติไม่ได้ เพราะคนที่แย่ คือ นายกรัฐมนตรี ซึ่งน้องๆ ทหารในกองทัพก็ฟังผมทุกคน” ผบ.ทบ.กล่าว


    ก่อนหน้านี้ มีรายงานข่าวเชิงลึกมานานหลายสัปดาห์แล้ว ว่า มีความพยายามเคลื่อนไหวอย่างผิดสังเกตจากฝ่ายนายทหารจำนวนหนึ่ง จนนำไปสู่การคาดหมายว่าอาจมีการก่อการรัฐประหารเกิดขึ้น


    อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ ตนได้เข้าเฝ้าฯพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งรับตำแหน่ง ผบ.ทบ.พระองค์ท่านทรงตรัสถึงเรื่องการแก้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเฉพาะเรื่องระบบการสื่อสารของทหาร ตำรวจ พลเรือน สามารถทำงานร่วมกันได้หรือไม่ รวมถึงการประสานงานร่วมกัน เพราะที่ผ่านมาไม่มีการประสานงานร่วมกัน และงานด้านการข่าวของทหารไทยไม่ค่อยดี ซึ่งจะต้องเน้นเรื่องการข่าวเป็นหลัก


    ผู้สื่อข่าวถามว่า การทำงานการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีปัญหากับฝ่ายการเมืองหรือไม่ โดยเฉพาะการทำงานร่วมกับ พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ รองนายกรัฐมนตรี ที่กำกับดูแลงานด้านความมั่นคง พล.อ.สนธิ กล่าวว่า ไม่มีปัญหา ถึงแม้จะแตกต่างกันทางด้านความคิด เราทำงานร่วมกันได้

    เมื่อถามว่า เหลือเวลาอีก 1 ปี ในตำแหน่ง ผบ.ทบ.หากรัฐบาลมอบหมายให้รับผิดชอบในการแก้ไขปัญหาภาคใต้ คิดว่าจะทำสำเร็จหรือไม่ พล.อ.สนธิ กล่าวว่า คิดว่าถ้าให้ทหารรับผิดชอบในการแก้ไขปัญหาก็คงจะบรรลุผลมากขึ้น แต่ถ้าเกิดให้ทำงานร่วมกันก็ไม่เป็นปัญหา เพราะกองทัพไม่มีความขัดแย้งกับใคร เราจะนำสิ่งที่ไม่เหมือนกันมาเป็นพลัง ถ้าเมื่อไหร่ที่เราทะเลาะกัน อีกฝ่ายจะยิ้ม เราต้องทำให้เกิดความสามัคคี นอกจากนี้ ตนคิดว่าหากมีการจ้างงานหนึ่งแสนคนโดยนำคนที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงเข้ามาทำงาน การแก้ไขปัญหาจะคืบหน้ามากขึ้น เพราะที่เราจ้าง 3-4 หมื่นคน ซึ่งไม่ได้ผล เพราะไม่ใช่คนที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง

    ที่มา :หนังสือพิมพ์คมชัดลึก ฉบับประจำวันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ.2549
    http://www.komchadluek.net/news/2006/05-18/p1--70842.html
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 พฤษภาคม 2006
  9. chalida

    chalida Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    63
    ค่าพลัง:
    +50
    เปลี่ยนชื่อได้ไหมเนี่ย
     
  10. ppinter

    ppinter เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กันยายน 2004
    โพสต์:
    54
    ค่าพลัง:
    +289
    นายกที่มาจากประชาธิปไตย

    •• ขณะนี้มีคำพูดอยู่ประโยคหนึ่งแพร่กระจายไปในหมู่ ทหาร มากเป็นพิเศษเพื่อให้ตระหนักถึง ความร้ายแรงของสถานการณ์เมื่อคืนวันที่ 19 กันยายน 2549 ที่หวุดหวิดจะเกิด สงครามกลางเมือง เป็นคำพูดที่ถูกอ้างอิงว่ามาจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ทางโทรศัพท์ที่ นิวยอร์ก มาถึงคนบางคนที่กำลังร่วมบัญชาการอยู่ที่ บก.สูงสุด ถนนแจ้งวัฒนะ – กทม. คำพูดประโยคนี้ผู้ที่ได้ยินมี หลายคน เป็นคนในเครื่องแบบที่ติดตามไป อารักขา ในฐานะ หน้าที่ทางราชการ ที่เมื่อคนที่ต้องอารักขาหมดสถานภาพความเป็นผู้นำประเทศพวกเขาก็ เดินทางกลับ แล้วมาให้ปากคำอย่างไม่เป็นทางการกับ ต้นสังกัด จึงยืนยันได้แต่เพียงว่า พูดจริง แต่จะพูดกับใครทางปลายสาย พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์, พล.อ.เรืองโรจน์ มหาศรานนท์ หรือ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช นั้น ไม่ทราบชัดเจน ทราบชัดเจนแต่เพียงว่าคำพูดประโยคนั้นก็คือ “...ต้องฆ่าให้หมด.” สถานการณ์ในขณะนั้นผู้พูด ไม่ได้คิดว่าตนเองแพ้ ยังคิดยังเชื่ออยู่ว่าจะ ชนะ และจะสามารถ บดขยี้ฝ่ายตรงข้ามที่เป็นหนามยอกอกมานานวันได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย สถานการณ์ในขณะนั้น ณ เวลาเมืองไทย 3 ทุ่มเศษๆ ต้องกล่าวตรงไปตรงมาว่า ฝ่ายรัฐบาลสามารถตั้ง บก.ได้ก่อน ที่ บก.สูงสุด ถนนแจ้งวัฒนะ ผู้ใหญ่ของทางฝ่ายรัฐบาลที่เข้าไปเป็นหลักคือ พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ และ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ในขณะที่ผู้ใหญ่ทางทหารคือ พล.อ.เรืองโรจน์ มหาศรานนท์ ผู้ที่ขณะนั้นยังดำรงตำแหน่ง ผบ.ทหารสูงสุด ในภาษาทหาร ณ วันนี้คนที่อยู่ในนั้นถูกเรียกว่า ฝ่ายเหนือ เพื่อให้แยกออกมาชัดเจนกับฝ่ายรัฐประหารที่มาตั้งมั่นอยู่ที่ บก.ทบ. ถนนราชดำเนินนอก ที่ถูกเรียกว่า ฝ่ายใต้ สถานการณ์ในขณะนั้นตามแผนคือให้นายกรัฐมนตรี ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินข้ามโลก แล้ว ปลด ผบ.ทบ.-ตั้ง ผบ.สูงสุดให้มีอำนาจใช้กำลังทั้งหมดตาม พ.ร.ก.สถานการณ์ฉุกเฉิน ถ้าจำเป็นจะต้อง นองเลือด ก็ให้ดำเนินการอย่างถึงที่สุด ไม่ต้องหลีกเลี่ยง ตามเข็มมุ่งที่สั่งการมา “...ต้องฆ่าให้หมด.” นั้น

    •• บอกตามตรงว่า บก. ของ ฝ่ายเหนือ นั้นอยู่ในยุทธภูมิที่ดีทีเดียว ถนนแจ้งวัฒนะ มีทหารหลายหน่วยที่ขึ้นต่อ พล.ปตอ. ภายใต้การบัญชาการในขณะนั้นของ พล.ต.เรืองศักดิ์ ทองดี เพื่อนร่วมรุ่น ตท. 10 ที่เอาการเอางานกว่าเพื่อนคนอื่นๆ ในการสนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ไม่เพียงแต่เท่านั้นใกล้ๆ กันยังเป็นที่ตั้งของ กระทรวงไอซีที ที่ถ้าหากตั้งหลักให้ดีๆ จะ คุมการติดต่อสื่อสารโทรคมนาคมได้หมด ย้อนหลังไปนาทีต่อนาที รถสายพานลำเลียงพล ที่เคลื่อนที่ใน เขตพื้นที่กรุงเทพฯ เป็นชุดแรกไม่ได้เป็นของ ฝ่ายใต้ หากแต่เป็นของ ฝ่ายเหนือ ที่เคลื่อนเข้ามาคุ้มกัน บก.สูงสุด และคงไม่ต้องทบทวนความจำนะว่า ประกาศยึดอำนาจในทางปฏิบัติฉบับแรก ไม่ได้มาจาก ฝ่ายใต้ หากมาจาก ฝ่ายเหนือ ทาง ช่อง 9 เวลา 4 ทุ่มเศษๆ คืนนั้น

    •• จุดเปลี่ยนของสถานการณ์อยู่ที่ การตัดสินใจขั้นสุดท้าย ของ พล.อ.เรืองโรจน์ มหาศรานนท์ ที่พอรู้สถานการณ์ว่ากำลังมี ฝ่ายเหนือ VS ฝ่ายใต้ แล้วก็มีทั้ง เพื่อน และ ผู้ใหญ่ ติดต่อเข้ามา เตือนสติ โดยมีอยู่ 2 ประโยคหนึ่งที่สร้างความสะเทือนใจให้ “...เฮ้ย ไอ้ต๋อย มึงกำลังจะทำอะไร คิดดูให้ดี.” และ “...ไอ้ต๋อย คิดดูให้ดีๆ นะว่าถ้านายเอ็งยังอยู่ ในสถานการณ์อย่างนี้ นายเอ็งจะตัดสินใจอย่างไร นายเอ็งจะเลือกใคร.” ทำให้ผู้ได้รับการติดต่อ ตั้งสติ แล้วย้อนนึกถึง นาย ที่ชื่อ พล.อ.สุนทร คงสมพงษ์ ว่าในสถานการณ์อย่างนี้ นายจ๊อด จะไม่ลังเลแม้แต่วินาทีเดียวที่จะ เลือกเป็นข้ารองบาทราชบัลลังก์ เมื่อ ได้สติ เช่นนี้แล้วท่านก็ เดินทางออกจาก บก.ฝ่ายเหนือทันที สถานการณ์ที่หวุดหวิดจะ ปะทะกันกลางเมือง ก็มีอัน ยุติลงโดยพื้นฐาน ณ นาทีนั้น

    •• จึงไม่แปลกที่จะมี ข่าววงใน แพร่ออกมาทางหนังสือพิมพ์บางฉบับว่า นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ออกจะ โกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง ที่ ไอ้ต๋อย คนนี้ ไม่สู้จริง จริงเท็จอย่างไร ฝาก ไอทีวี ช่วยไป ทำสกู๊ปสัมภาษณ์พิเศษ มาให้อีกทีเถอะ

    •• พูดถึง ไอทีวี ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องพูดว่า ทหาร เขาประทับใจมากที่บรรดา มืออาชีพ – ผู้บูชาความเป็นกลาง ทั้งหลายในช่องนี้ทำให้สถานีของตนเอง เป็นโทรทัศน์ช่องเดียวที่สัมภาษณ์พิเศษ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช และปล่อยให้เผยแพร่ข้อความบางประโยคที่หากพิจารณาอย่างเคร่งครัดสักหน่อยจะพบว่า หวังสร้างรอยร้าวให้แก่กองทัพ เพราะไม่เพียงแต่จะบอกว่าตัวคุณหมอ รักษาประชาธิปไตยจนวินาทีสุดท้าย ยังบอกด้วยว่าคนที่อยู่ข้างในไม่เพียงแต่มี พล.อ.เรืองโรจน์ มหาศรานนท์ แต่ยังมี พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ที่ปัจจุบันเป็น บก.ทหารสูงสุด ด้วย

    •• ในประโยค “...ต้องฆ่าให้หมด.” ไม่มีใครรู้ชัดเจนว่ากินความหมายถึงใครบ้าง พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน, สนธิ ลิ้มทองกุล, พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย, มวลชนฝ่ายต่อต้าน หรือจะรวมถึง ปฏิบัติการเบ็ดเสร็จให้ปฏิญญาฟินแลนด์บรรลุภารกิจครบถ้วน รู้แต่เพียงว่า การถอยชั่วคราว ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นั้นไม่ได้เกิดจาก ความยินยอมพร้อมใจ, การเสียสละเพื่อความสงบสุขของบ้านเมือง แต่เกิดจาก ความจำใจ, ความพ่ายแพ้ในวินาทีชิงอำนาจ แม้เมื่อถอยชั่วคราวไปแล้วก็ไม่ได้แสดงท่าที สำนึกผิด ดูจากจดหมายลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคก็แสดงให้เห็นว่าคนคนนี้ยัง หวังลึกๆ ว่าจะกลับมาอีกครั้ง ซึ่งก็ไม่ใช่ว่าจะ เป็นไปไม่ได้ ขึ้นอยู่กับว่ารัฐบาลชุดใหม่จะ ทันการ, ทันเกม และ เก็บรับบทเรียนในอดีต ได้แค่ไหนอย่างไร

    •• พูดกันตามตรงว่า สงครามแย่งชิงประชาชน ยังคง ดำรงอยู่ รัฐบาลของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ประสบความสำเร็จในการปลุก คนจน, รากแก้ว ให้ ตื่น ขึ้นมารับรู้ว่า พวกเขาสามารถได้ประโยชน์รูปธรรมจากนโยบายของรัฐ ถ้าอำนาจรัฐใหม่หลังรัฐประหาร ย้อนยุค กลับไปเป็นอำนาจรัฐของ ข้าแผ่นดิน, ข้าราชการประจำ-เทคโนแครต และ กลุ่มทุนเก่า โดยปราศจาก ภาคประชาชนที่ต่อต้านคัดค้านระบอบทักษิณ ในระยะยาวแล้วอีกสัก 6 เดือน ก็จะตกเป็น ฝ่ายตั้งรับ ควรเข้าใจว่า 1 ปีที่ผ่านมาถ้าปราศจาก ภาคประชาชน ที่ค่อยๆ เติบโตแกร่งกล้าขึ้นมาจากผู้ชม รายการเมืองไทยรายสัปดาห์สัญจร ไปสู่การชุมนุมของ พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ก็จะไม่มีรากฐานอันแน่นหนาให้ ฝ่ายใต้ ควรเข้าใจว่าในกระบวนการต่อสู้ครั้งนี้ ภาคประชาชน อีกจำนวนหนึ่ง วางเฉย เพราะไม่เห็นด้วยกับ แนวทางรัฐบาลพระราชทาน, แนวทางมาตรา 7 เนื่องจากเห็นว่าไม่ควรเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับ การแย่งอำนาจกันเองของชนชั้นนำ, การต่อสู้ระหว่างทุน 2 กลุ่ม อำนาจรัฐใหม่วันนี้แต่โดยตัวอักษรจะไม่มีคำว่า รัฐบาลพระราชทาน, มาตรา 7 แต่ในทางความเชื่อและความรับรู้ของคนทั่วไป เห็นไม่แตกต่างกัน หากจะบริหารจัดการประเทศกันเองโดยเลือกสรรแต่เฉพาะจากหมู่ ข้าแผ่นดิน, ข้าราชการประจำ-เทคโนแครต และ กลุ่มทุนเก่า ก็จะเป็นการเดินออกห่างจากแนวทางที่ พล.ต.ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช เคยเรียกขานว่า ราชประชาสมาสัย แปลว่า พระราชากับประชาชนต่างพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน หากภาคประชาชนและชนชั้นนำกลุ่มที่ยืนหยัดมากับ การต่อต้านคัดค้านระบอบทักษิณ มีอันถูก กันออกนอกวงอำนาจ เพียงเพราะตีความกันอย่าง หยาบๆ ในคำว่า สมานฉันท์ อีกหน่อยเวลาเผชิญหน้ากับ ระบอบทักษิณยุคใหม่ ภาคประชาชนและชนชั้นกลุ่มที่ยืนหยัดต่อสู้มามากกว่า 1 ปีจน บาดเจ็บเลือดโทรมกาย ก็คง อ่อนล้า เกินกว่าที่จะ อาสาสู้ศึก อีกครั้ง “เซี่ยงเส้าหลง” ขอเขียนเรื่องนี้เป็น ครั้งสุดท้าย ไม่ฟังก็ไม่เป็นไร

    •• แก้ข่าวมาจาก บรรเจิด สิงคะเนติ ปฏิเสธว่าไม่ได้เป็น คนเขียนประกาศคณะปฏิรูปฯฉบับที่ 27-31 หรือเข้าไปเป็น ทีมกฎหมายทีมที่ 3 แต่เข้าไปที่ บก.ทบ. เพื่อ ให้ข้อเสนอแนะ เรื่อง วิธีการร่างรัฐธรรมนูญ เท่านั้น
     
  11. ZZ

    ZZ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2005
    โพสต์:
    5,374
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +34,649
    ประวัติศาสตร์นั้นดีตรงนี้นี่เอง.....คือเมื่อศึกษาแล้วจะทราบที่มาที่ไปของวันนี้......
     
  12. aew.st

    aew.st เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    66
    ค่าพลัง:
    +461
    ตอนนี้เป็นไงหละว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเอง เห็นมีแต่คนของตัวทั่งนั้น ตอนนี้คงกำลังหลง.....
     
  13. น้องหน่อยน่ารัก

    น้องหน่อยน่ารัก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    1,976
    ค่าพลัง:
    +4,975
    อ่านจากวาระกรรม Taksin จะกลับมาด้วยแรงอาฆาตเพื่อทำลายแผ่นดิน
    แต่จะถูกปราบโดยเพื่อนที่รบเคียงบ่าเคียงใหล่กันมา เพื่อนผู้นั้นทำทุกอย่าง
    เป็นคนสำคัญแต่ไม่ออกหน้า ทั้งยอมให้เขาได้ก่อน ยามนั้นตัดสินใจผิดเพราะ
    รักเพื่อน ยอมละอุดมการณ์สร้างเมือง คราวนี้ จะกลับมาใหม่ ปราบได้แน่นอน



    เขาจะกลับมาอีกครั้ง แล้วยุให้คนไทยแตกแยกอีก ม๊อบจะเกิดขึ้นมากมาย
    คนไทย ฆ่ากันเองตายเป็นเบือ พลเอก จะพ่ายแพ้เพราะบารมีไม่ถึง แต่เขา
    จะถูกปราบด้วยเพื่อนเก่าผู้มีบารมีมากกว่าจะมาทวงสิทธิอันชอบธรรมคืน


    เมื่อยามผู้ใหญ่ทำงานรับใช้เด็ก เมื่อนั้น คือสัญญาณเตือน ว่า...
    นี่คือคำทำนายหนึ่งอีกเช่นกัน
     
  14. น้องหน่อยน่ารัก

    น้องหน่อยน่ารัก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    1,976
    ค่าพลัง:
    +4,975
    หาก Taksin ไม่อโสสิกรรมและอาฆาตไป จะเกิดเหตุดั่งเทวทัต
    ยิ่งถลำลึกและตกอบายไม่อาจช่วยได้ เพื่อนคนนั้นจะช่วยเขาให้คลาย
    ความอาฆาตเพื่อไปสู่สันติสุข



    รบเคียงบ่าเคียงไหล่กันมา เสี่ยงตายด้วยกัน เพื่อนตายรักกันมาก
    ถึงขนาดยกอาณาจักรให้ ไม่น่าเลยใช่ไหม?....
     
  15. ZZ

    ZZ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2005
    โพสต์:
    5,374
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +34,649
    คุณสัปเหร่อครับ....นายคนนี้ไม่สามารถเทียบเคียงพระเจ้าตากได้ดอกครับ เพราะแกชั่วช้า ทำเลวสารพัดกับประขาขนกับแผ่นดิน ไม่ใช่วิสัยเจ้านายจะกระทำ

    ผมว่า....หากเป็นพม่ากลับชาติมาเกิดละก็ผมเชื่อ

    พระเจ้าตากองค์จริงไม่ได้ถูกทุบด้วยท่อนจัน ดังนั้นจึงไม่ต้องมาทวงแผ่นดินคืนครับ เรื่องนี้ลูกศิษย์หลวงพ่อฤาษีจะทราบดี
     
  16. NCK2046

    NCK2046 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    628
    ค่าพลัง:
    +3,793
    โอ๊ย แค่ภาษี สลึงนึงยังไม่คิดจะจ่ายคืนแก่ประเทศ

    แบบนี้ยังเรียกคนอยู่อีกรึ

    อย่าเอาไปเทียบกับเจ้าเลย

    คุณทองแดงยังดีกว่าเห็นๆ
     
  17. น้องหน่อยน่ารัก

    น้องหน่อยน่ารัก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    1,976
    ค่าพลัง:
    +4,975
    อืมม ขอบคุณครับ
    วิชชายังไม่ดีพออิๆๆ
    ผิดพลาดต้องขออภัยครับ
     
  18. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,705
    ค่าพลัง:
    +51,934
    *** พระยาพิชัย ****....เมื่อ "กรรม" ปรากฏชัด...พระยาพิชัย จะกลับมาช่วยกอบกู้ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  19. ZZ

    ZZ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2005
    โพสต์:
    5,374
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +34,649
    คุณสัปเหร่อไม่มีความผิดใดๆครับ....เพราะเรื่องสมัยโบราณเรายังไม่ทราบอีกมาก...ผมเองก็เช่นกันครับ
     
  20. น้องหน่อยน่ารัก

    น้องหน่อยน่ารัก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    1,976
    ค่าพลัง:
    +4,975
    ว้าววว อยุธยาไม่สิ้นคนดี ฉันใด ประเทศไทยไม่ขาดคนดีฉันนั้น


    เย้ๆๆ สู้ๆ ครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...