ใครมี"ประสบการณ์ปาฏิหารย์ของการสวดมนต์ภาวนา"ที่พลิกชีวิตคุณได้ เล่าสู่กันฟังบ้างครับ

ในห้อง 'ประสบการณ์ ผลของการสวด' ตั้งกระทู้โดย Sippa_Pawat, 23 ตุลาคม 2009.

  1. Sippa_Pawat

    Sippa_Pawat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    113
    ค่าพลัง:
    +228
    ใครมี"ประสบการณ์ปาฏิหารย์ของการสวดมนต์ภาวนา"ที่พลิกชีวิตจากวิกฤตสุดสุด มาเป็น ชิวิตใหม่ที่ดีกว่าเดิมบ้าง? เล่าสู่กันฟังบ้างครับ จะได้เป็นขวัญและกำลังใจให้กับคนท้อแท้ในชีวิต แล้วหันมาปฏิบัติธรรมแบบจริงๆจังๆ
     
  2. Nar

    Nar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    4,154
    ค่าพลัง:
    +37,385
    พุทธะบูชา มะหาเตชะวันโต ธัมมะบูชา มะหาปัญโญ. สังฆะบูชา มะหาโภคะวะโห ติโลกะนาถังอะภิปูชะยามิฯ

    การสวดมนต์หากประกอบด้วย ศรัทธา บวกกับ ปัญญา จะสามารถเป็นได้ถึงพระอรหันต์
    บทสวดมนต์ส่วนใหญ่ ล้วนสรรเสริญคุณพระรัตนะตรัย หากสวดด้วยศรัทธาแล้ว แม้ยังไม่เกิดปัญญาในตอนแรก
    แต่สวดไปนานๆเข้าปัญญาจะเกิดตามมาครับ แถมจิตใจสงบมีความสุขในชีวิตประจำวัน

    ตามที่ผมได้สวดมนต์อย่างต่อเนื่อง แบบไม่เว้นวันเลย เช้า กับ ค่ำ วันละสองครั้ง เป็นเวลานับสิบปีกว่า ติดต่อกัน
    ทำชนิดไม่ให้ขาดแม้แต่ครั้งเดียวจะเชื่อหรือไม่ ยามง่วง ยามป่วยไม่สบาย สิ่งเหล่านี้ผมไม่ยอมแพ้
    ง่วงขนาดไหน ไม่สบายขนาดไหน ผมจะฝืนสวดจนครบเหมือนทุกวันที่สวด
    บางครั้งก้มกราบลงไป ก็หลับไปเลยก็มี สะดุ้งตื่นขึ้นมา ก็สวดต่อหรือถ้าจำไม่ได้ ก็จะเริ่มใหม่
    เราต้องชนะกิเลสให้ได้ ตั้งใจเด็ดขาดลงอย่างนั้น หากมันไม่ไหวก็ให้ตายไปเลย ถวายเป็นพุทธะบูชา ธรรมะบูชา สังฆะบูชา
    ผมทำอย่างนั้นจริงๆนะครับ

    ผลที่ได้ ชีวิตเราไม่เคยตกอับ ไม่พบภยันตรายร้ายแรงเลย ไม่มีใครเป็นศัตรูกับเรา
    ที่ได้อานิสงส์ชัดๆ ก็คือโรคภัยไม่เบียดเบียน ไม่เคยเป็นหวัดเป็นไข้เหมือนคนอื่นเขา
    หากต้องป่วยก็ไม่หนักหนาอะไร ทำนองนั้น สามารถรักษาได้(ด้วยกรรมของเราที่ต้องเจอ)
    เป็นที่รักของคนรอบข้าง(เห็นชัดนะครับ) ยามที่ต้องการความช่วยเหลือจากคนอื่น ทุกคนยินดีช่วยเรามากเลย

    ที่เล่ามานี้ขอให้ท่านลองปฏิบัติดู อย่าพึ่งเชื่อผม ต้องลองทำดู ทำจริงๆจังๆด้วยศรัสธาต่อพระรัตนะตรัยอย่างยิ่งนะ
    แล้ว ท่านจะได้ พุทธานุสติ ธัมมานุสติ สังฆานุสติ พ้นอบายภูมิแน่นอน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 23 ตุลาคม 2009
  3. lekjung13

    lekjung13 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กันยายน 2009
    โพสต์:
    141
    ค่าพลัง:
    +376
    ไม่ถึงกับพลิกชีวิตได้ขนาดนั้นหรอกค่ะ...แต่ถ้าเรามีความตั้งใจสวดมนต์ ภาวนา อยู่เนือง ๆ
    จะทำให้เราพบเจอแต่เหตุการณ์ดี ๆ มีคนช่วยเหลือ เรื่องร้ายต่าง ๆ ก็จะคลี่คลายไปทางที่ดีขึ้น...

    .....................................

    แต่ก็มีบ้างที่ต้องพบเจอกับเหตุการณ์ที่ทำให้ความรู้สึกของเราแย่
    แต่ถ้าให้พูดจุดรวม ๆ แล้ว

    หมั่นเจริญสวดมนต์ ภาวนา เถอะค่ะ
    เราจะเจอเหตุการณ์ที่ดี ๆ มากกว่าที่เราจะเจอเหตุการณ์แย่ ๆ

    ขอให้ท่านลองปฏิบัติดู ไม่อยากให้เชื่อใคร
    แต่อยากให้พบเจอประสบการณ์เองมากกว่าค่ะ...

    ...................................

     
  4. ลุงชาลี

    ลุงชาลี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    2,958
    ค่าพลัง:
    +4,763
    าธุ สาธุ ขอโมทนา
    อิทัง ปุญญพลัง อิมินา ปุญญะกัมเมนะ

    ด้วยเดชะบุญกุศลที่ข้าพเจ้าได้บำเพ็ญมาแล้วด้วยดี
    ตั้งแต่ปฐมชาติ อดีตชาติ ปัจจุบันวันนี้
    ข้าพเจ้าขอตั้งจิตกุศลนี้เป็น มหาธรรมทาน
    เพื่ออบรมหนทางความดับ
    ไม่มีเหลือเชื้อแห่งอาวสะกิเลสตน แด่ผู้ใฝ่ในธรรม
    และผู้เคารพเลื่อมใสองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
    <O:p</O:p
    ขอส่งผลบุญกุศล อันเกิดจากการนี้
    อุทิศให้ ครูอุปัชฌาย์อาจารย์สืบๆ ต่อกันมา
    พ่อเกิดแม่เกิด ผู้มีคุณผู้สูงชาติ
    ผู้สงเคราะห์โลกพิทักษ์ธรรม ตลอดจน
    เจ้าบุญนายคุณ เจ้าบ่าวนายใช้ เจ้ากรรมนายเวร
    เจ้าเกณฑ์ชะตา เจ้าการบัญชี ทั้งหลายในทุกภพทุกชาติ
    ที่ข้าพเจ้าได้เคยสบประมาทล่วงเกิน และมีสัมพันธ์เกี่ยวข้อง
    ขอจงได้รับขมากรรม อโหสิกรรม และอนุโมทนาบุญให้แก่ข้าพเจ้า
    และกรรมอันใดที่ท่านทั้งหลาย ได้ทำไว้กับข้าพเจ้าทุกภพทุกชาตินั้น
    ข้าพเจ้าขอปวารณาให้เป็นอโหสิกรรมเช่นกัน
    พร้อมนี้ขอให้ท่านทั้งหลายพึงปราศจากทุกข์และมีสุข
    เกิดปัญญาญาณยิ่งๆ ขึ้นไป เช่นเดียวกับที่ข้าพเจ้าได้รับ
    ณ กาลบัดเดี่ยวนี้ด้วยเทอญ
    สาธุ สาธุ สาธุ นะ โม พุท ธา ยะ
    นิพพานัง ปะระมัง สุขขัง
    ขอเชิญร่วมสร้างพระอุปคุต หลวงปู่ทวด วัดนาอุดม อุบลฯ (รับของดีหลายครูบาอาจารย์)<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->
     
  5. Lovely-Boon

    Lovely-Boon Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +26
    ดิฉันสวดมนต์บ้างไม่สวดมนต์บ้าง แต่ก็พยายามสวดให้ได้ทุกวันพยายามที่จะเอาชนะความขี้เกียจของตนเอง
     
  6. ฮุโต๋

    ฮุโต๋ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    419
    ค่าพลัง:
    +44,568
    คาถาสมเด็จพระพุทธกัสสป
    พุทธัง มัดจิต ธัมมัง มัดใจ ศัตรูทั้งหลาย วินาศสันติ
    พุทธัง มัดจิต ธัมมัง มัดใจ โรคทั้งหลาย วินาศสันติ
    คาถาบทนี้ท่านปู่เวสสุวรรณให้มา ท่านบอกว่าให้สวดมนต์ไว้ทุกคืน ก่อนอื่นให้ระลึกถึงบารมีของพระพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ อันมีสมเด็จพระพุทธกัสสปทรงเป็นประธาน เพราะท่านเป็นเจ้าของคาถานี้ บทในบรรทัดที่ 2 นี้รักษาโรค ท่านบอกว่าเสกน้ำให้กิน เสกข้าวให้กินก็ได้ แม้แต่ยาพิษมันก็สลายตัว
    อีกบทหนึ่งของพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน
    ฆะเตสิ ฆะเตสิ กิงกะระณัง ฆะเตสิ อะหังปิตัง ชานามิ ชานามิ
    ทั้ง 3 บทนี้ ท่านให้สวดพร้อมกันเลย เวลาทานข้าวก็เสก กลางคืนก็ให้ภาวนาไว้ ท่านบอกว่าศัตรูจะพินาศไปเอง

    คาถานี้เราสวดเป็นประจำ ได้ผลมาแล้ว เพราะคนที่คิดร้ายคอยกลั่นแกล้งเราเขาแพ้ไปเองโดยที่เราไม่ต้องไปทำอะไรเลย และหน้าที่การงานที่ตกต่ำก็ดีขึ้น ราบรื่นในทุกเรื่อง ไม่เจ็บป่วยสุขภาพแข็งแรงดี
     
  7. chattrg

    chattrg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    4,337
    ค่าพลัง:
    +13,242
    สวด(เกือบ)ทุกวัน
    ทั้ง
    ชินบัญชร
    พาหุง
    บทพระมหาจักรพรรดิ์
    คาถาเงินล้าน
    และ ....

    ที่เห็นชัด คือ
    ตกต่ำ ก็ มีเพื่อน คนช่วยเหลือ
    จน
    ดีขึ้น กว่าที่หวัง
    และ ตอนนี้
    ก็ ดีขึ้น


    สวดเถอะครับ
    ดีกว่า
    จิตวุ่นวาย
     
  8. Apotamkin

    Apotamkin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    83
    ค่าพลัง:
    +119
    ของผมสวดตอนกลางคืนอย่างเดียวอะครับ ที่เห็นได้ชัดคือ มีบริวารมากอะครับ
     
  9. Kathibood

    Kathibood เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    41
    ค่าพลัง:
    +403
    จิตใจสงบลงเยอะมากกกกกกกกกกกกกกกค่ะ มีสติมากขึ้น จากที่เคยปากจัดมาก ด่าใครก็ตามที่ทำให้ไม่พอใจ เรียกว่าชอบสร้างกรรมด้วยปากของตัวเองค่ะ ทำให้เกิดเรื่องใหญ่ เรียกว่ามากพอตัวค่ะ ทุกข์ใจมาก ไม่รู้จะทำอย่างไร จึงเริ่มหันมาสวดมนต์ค่ะ คาถาชินบัญชร จากที่เคยหลีกเลี่ยงมาตลอด ขนาดอาจารย์ให้สอบยังไม่เคยจะสนใจจนเกือบสอบตก ก็เริ่มกลับมาท่องค่ะ คราวนี้กลายเป็นว่าต้องท่องก่อนนอนและก่อนออกไปทำงานค่ะ จากที่เคยด่ากราดกลายเป็นเงียบ เฉยๆแต่ก็มีบางครั้งที่ยังหงุดหงิดไปบ้าง แต่ก็แค่รู้สึกค่ะ เริ่มรู้สึกดีกับชีวิตแบบนี้มากๆๆค่ะ มันสงบ เยือกเย็นอย่างบอกไม่ถูกจริงๆค่ะ
     
  10. ploynisa

    ploynisa สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +19
    จริง ๆ ค่ะ สงบมาก สวดมนต์ทุกเช้าค่ำ เราจะระลึกได้ว่าสิ่งไหนทำแล้วดีหรือไม่ดี ได้โดยอัติโนมัติ เคยเห็นนิมิตซึ่งแปลกมาก เหมือนดวงตาหรือแสงบางอย่าง เข้ามาเป็นประกายที่หน้าผาก ผลักเท่าไหร่ก็ไม่ยอมไป จิตใจมั่นคง ก่อนสวด ท่องคาถาชุมนุมเทวดาก่อนด้วยน่ะค่ะ คุณจะรู้สึกมีพลังออกมาอย่างล้นเหลือในการสวดมนต์บทต่อไป
     
  11. buakwun

    buakwun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    2,830
    ค่าพลัง:
    +16,614
    สวดพระคาถาบทใดก็ไม่สามารถทำให้ถึงกับพลิกชีวิตได้หรอกค่ะ หากคุณไม่หมั่นทำบุญทำกุศล ถือศีล ทำความดีอย่างสม่ำเสมอให้เพียงพอ ทุกอย่างต้องควบคู่กันไปด้วย ทั้งทาน ศีล ภาวนา

    การทำทาน ได้แก่การสละทรัพย์สิ่งของสมบัติของตนที่มีอยู่ให้แก่ผู้อื่น โดยมุ่งหวังจะจุนเจือให้ผู้อื่นได้รับประโยชน์และความสุขด้วยความเมตตาจิตของตน ทานที่ได้ทำไปนั้น จะทำให้ผู้ทำทานได้บุญมากหรือน้อยเพียงใด ย่อมสุดแล้วแต่องค์ประกอบ ๓ ประการ ถ้าประกอบถึงพร้อมด้วยองค์ประกอบทั้ง ๓ ประการต่อไปนี้แล้ว ทานนั้นย่อมมีผลมาก ได้บุญบารมีมาก กล่าวคือ ๑.วัตถุทานที่ให้ต้องบริสุทธิ์ ๒.เจตนาในการสร้างทานต้องบริสุทธิ์ ๓.เนื้อนาบุญต้องบริสุทธิ์

    ศีล การรักษาศีลเป็นการเพียรพยายามเพื่อระงับโทษทางกายและวาจา อันเป็นเพียงกิเลสหยาบมิให้กำเริบขึ้น และเป็นการบำเพ็ญบุญบารมีที่สูงขึ้นกว่าการให้ทาน

    ภาวนา การเจริญภาวนานั้นเป็นการสร้างบุญบารมีที่สูงที่สุดและยิ่งใหญ่ที่สุดในพระพุทธศาสนา จัดว่าเป็นแก่นแท้และสูงกว่าฝ่ายศีลมากนัก การเจริญภาวนานั้นมี ๒ อย่างคือ ๑.สมถภาวนา (การทำสมาธิ) ๒.วิปัสสนาภาวนา (การเจริญปัญญา) อานิสงส์ของสมาธินั้นมีมากกว่าการรักษาศีลอย่างเทียบกันไม่ได้

    ซึ่งพระพุทธองค์ได้ตรัสว่า "แม้จะได้อุปสมบทเป็นภิกษุรักษาศีล ๒๒๗ ข้อ ไม่เคยขาด ไม่ด่างพร้อยมานานถึง ๑๐๐ ปี ก็ยังได้บุญกุศลน้อยกว่าผู้ที่ทำสมาธิเพียงให้จิตสงบนานเพียงชั่วไก่กระพือปีก ช้างกระดิกหู "

    การทำสมาธิเป็นการสร้างบุญกุศลที่ยิ่งใหญ่ ลงทุนน้อยที่สุดเพราะไม่ต้องเสียเงินเสียทอง ไม่ได้เหนื่อยยากต้องแบกหามแต่อย่างใด เพียงแต่คอยระวังรักษาสติ คุ้มครองจิตมิให้แส่ส่ายไปสู่อารมณ์อื่น ๆ โดยให้ตั้งมั่นอยู่ในอารมณ์เดียวเท่านั้น

    การทำทานเสียอีกยังต้องเสียเงินเสียทอง การสร้างโบสถ์ วิหาร ศาลาโรงธรรมยังต้องเสียทรัพย์ และบางทีก็ยังต้องเข้าช่วยแบกหามเหนื่อยกาย แต่ก็ยังได้บุญน้อยกว่าการทำสมาธิอย่างเทียบกันไม่ได้

    ซึ่งพระพุทธองค์ได้ตรัสไว้ว่า "ผู้ใดแม้จะทำสมาธิจิตเป็นฌานได้นานถึง ๑๐๐ ปี และไม่เสื่อม ก็ยังได้บุญน้อยกว่าผู้ที่มองเห็นความเป็นจริงที่ว่า สรรพสิ่งทั้งหลายอันเนื่องมาจากการปรุงแต่ง ล้วนแล้วแต่เป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา แม้จะเห็นเพียงชั่วขณะจิตเดียวก็ตาม "

    ดังนี้ จะเห็นได้ว่าวิปัสสนานั้น เป็นสุดยอดของการสร้างบารมีโดยแท้จริง และการกระทำก็ไม่เหนื่อยยากลำบาก ไม้ต้องแบกหาม ไม่ต้องลงทุนหรือเสียทรัพย์แต่อย่างใดแต่ก็ได้กำไรมากที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับการให้ทานเหมือนกับกรวด และทราย ก็เปรียบวิปัสสนาได้กับเพชรน้ำเอก ซึ่งทานย่อมไม่มีทางที่จะเทียบกับศีล ศีลก็ไม่มีทางที่จะเทียบกับสมาธิ และสมาธิก็ไม่มีทางที่จะเทียบกับวิปัสสนา

    โดย สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 ธันวาคม 2012
  12. whanjai

    whanjai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    34
    ค่าพลัง:
    +246
    พระคาถาชินบัญชร บทสวดนี้เป็นบทที่เปลี่ยนชีวิตของข้าพเจ้า ทำให้ดิฉันได้หันมาเชื่อในพระพุทธศาสนาอย่างแท้จริง จากเด็กๆที่เป็นคนเกเร ไม่เชื่อในศาสนา ไม่เข้าใจว่าสวดมนต์นั่งสมาธิให้ประโยชน์อะไรกับใคร เข้าวัดก็เสียงดังก่อกวนคนอื่น

    หลังจากสวดชินบัญชร วันละ 3 จบ จากคำบอกเล่าของอาจารย์สอนภาษาอังกฤษว่าสวดวันละ 3 รอบแล้วจะสอบ TOFEL ได้คะแนนสูง เราก็เอาวะ ทำตามเลย หลังจากเริ่มสวดได้ 1 เดือนทุกวัน เริ่มมีจิตสัมผัสกับสิ่งลึกลับได้ เหมือนเค้าอยากให้เราทำบุญให้ ตอนนั้นเราดวงตกมากๆ ทำอะไรก็ซวยแบบไม่มีเหตุผล เรื่องสิ่งลึกลับเราก็ไม่เคยเชื่อนะ แต่ตอนที่สวดชินบัญชรได้ต่อเนื่องวันละ 3 ครั้งเจอบ่อยมาก อาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง ติดต่อกัน 5 เดือนได้ เราก็ยังนึกว่าตัวเองคิดไปเอง เพ้อรึเปล่า จนในที่สุดวันนึงเราสวด 9 จบ(เพราะอาจารย์บอกว่าก่อนวันสอบต้องสวด 9 จบ) เราก็เห็นเจอสิ่งลึกลับนั้นทันที แบบที่ยังไม่ได้หลับตา แล้ววันนั้นเลยเราก็ได้เจอคนที่มีญาณคนนึงมาทักว่าเห็นภาพแบบนี้ๆใช่ไหม แล้วก็ใช่ตามที่เค้าพูดจริงๆ เราเลยเชื่อเลย เริ่มทำบุญอุทิศให้ในโดยการไปทำบุญที่วัดในเช้าวันรุ่งขึ้น และเช้าวันรุ่งขึ้นวันนั้นเป็นวันที่เราต้องไปสอบ TOFEL พอดี เชื่อไหมว่าเราสอบได้คะแนนสูงที่สุดของโรงเรียนสอนพิเศษเลย ได้เงินรางวัลจากอาจารย์ด้วย หลังจากวันนั้นที่เราทำบุญไปให้ดวงเราดีขึ้นเรื่อยๆ สิ่งลึกลับที่เจอบ่อยๆก็ไม่เจออีกเลย

    ที่สำคัญ ศาสนาพุทธเริ่มกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเราตั้งแต่อายุ 25 เรื่องนี้สอนให้เรารู้ว่า การทำบุญในแบบที่พระพุทธศาสนาแนะนำ มีคนที่ได้รับไปได้จริงๆ ถ้าได้ลองมาคลุกคลีกับพระพุทธศาสนาจริงๆจะยิ่งซาบซึ้ง สิ่งที่พระพุทธเจ้าสอน ไม่ว่าจะนานยุคกาลสมัยใด ไม่มีอะไรที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้แล้วไม่จริง

    ปัจจุบัน เราอายุ 32 แล้ว การสวดมนต์ การทำบุญ ได้เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเราแล้ว ไม่น่าเชื่อว่าจากคนที่เป็นเด็กเลวมาก่อน เข้าวัดก็ทำเสียงโหวกเหวก คิดว่าพวกนั่งสมาธิมาทำไม ทุกวันนี้ เราตั้งใจทำบุญเพื่อคนอื่นๆ และอธิษฐานแผ่เพื่อเพื่อนร่วมโลกที่เค้าไม่มีโอกาสเข้าใจพระพุทธศาสนา และไม่มีโอกาสได้มาทำบุญอย่างเรา

    เราเกิดมาทั้งที โชคดีเหลือเกินที่มีโอกาสทำบุญเพื่อพระพุทธศาสนา อย่าเกิดมาเสียชาติเกิดให้ตายไปโดยเป็นทาสรับใช้ศาสนา เราไม่หวังอยากเข้าสู่นิพพาน เพราะเรายอมรับว่าชีวิตเราค่อนข้างมีความสุข ไม่ค่อยมีอุปสรรคอะไร และเพราะเรายังเรายังไม่เข้าใจนักว่านิพพานมีความสุขอย่างไร

    แต่ความศักดิ์สิทธิ์ของพระพุทธศาสนาที่เราเจอไม่ได้มีเท่านี้ เรื่องต่อมาคือ เราเป็นโรคเจ็บตา ทรมานมากๆทุกครั้งที่ลืมตา หมอที่เก่งที่สุดก็ยังบอกว่า ไม่มีทางหาย เป็นติดต่อกัน 5 เดือนทุกวัน แต่เชื่อไหม คืนวันนึงเราอธิฐานตั้งใจจะถวายจัดสร้างพระประธานให้วัดแห่งหนึ่ง เช้าวันรุ่งขึ้นอาการเจ็บตาที่เป็นมาเกือบครึ่งปี หายไปเลย และตอนนี้ก็ไม่เจ็บแบบเดิมแล้ว

    มูลค่าการสร้างพระประธานครั้งนี้ก็ได้เงินเข้ามาอย่างฟลุ๊กๆ ก่อนวันที่ต้องโอนเงินปัจจัยในการสร้างพระประธาน จำนวนเกือบแสน เราเตรียมเงินไว้แล้วแหละ แต่อยู่ดีๆ กระเป๋าแบรนเนมที่เราฝากขายไว้ในร้าน (กระเป๋ารุ่นนี้ขายยากมากๆ สีแสบ คนคงไม่ค่อยอยากได้หรอก นอนตายอยู่นาน) ดันขายออกซะงั้น คนขายกระเป๋าได้เงินโอนเข้าให้เรา 95,000 พอดีสำหรับจ่ายค่าพระประธาน + บวชพระ 1 องค์ในวันรุ่งขึ้นพอดี เราเองเชื่อว่าพระท่านมองความตั้งใจ แล้วช่วยเราไว้ (คิดๆแล้วไอ้กระเป่าแบรนเนมที่ฉาบฉวบกับพระประธานให้คนกราบไว้มีปีตินี่นับมูลค่าเทียบกันไม่ได้เลย ถึงแม้เม็ดเงินจะเท่ากัน เรารุ้สึกโง่มากๆที่เคยเสียเงินซื้อกระเป๋าพวกนั้น ฮิฮิ) ทางวัดแจ้งมาว่า พระและชาวบ้านที่นั่นดีใจมากๆที่มีพระไว้กราบไว้สักที เพราะเป้นวัดห่างไกลความเจริญมาก เป็นวัดที่ชาวบ้านเค้าไปปฎิบัติธรรมกัน ทางวัดยังส่งใบประกาศนียบัตรมาขอบคุณเราด้วย แต่สิ่งที่เราดีใจที่สุดคือ เราได้เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ได้ทำให้ชาวบ้านที่นั่นดีใจ และปลื้มใจกับพระประธานที่เราจัดสร้างคนเดียวอย่างตั้งใจจริง (โอกาสหน้าก็จะจัดสร้างอีกแต่จะชวนคนอื่นจัดสร้างด้วยกันค่ะ)

    ดังนั้นบทสรุป คือการสวดมนต์ ขอสรุปว่าไม่ว่าบทไหนก็ดีหมด ขอให้ท่านเลือกสวดคาถาที่เข้าปาก คาถาที่ท่านถนัด ตามพอใจ หากท่านเจอบททดสอบอย่างเช่นข้าพเจ้า จงอย่าเกรงกลัว บุญจะรักษาท่าน บางคนกลัวสวดแล้วเจออะไรลึกลับ ขอให้ท่านทราบว่าบางส่วนมาจากจิตปรุงแต่งของท่านเอง สิ่งนั้นๆยังไม่เกิดขึ้น และไม่ทำอันตรายท่าน ตราบใดที่ท่านสวดมนต์ และเป็นคนดี)

    ก่อนจบขอบรรดาลคุณพระศรีรัตนตรัยจงดลบรรดาลให้ท่านทั้งหลายโชคดี และมีพระพุทธศาสนาสถิตย์อยุูในจิตใจเป็นที่พึ่งของท่านตลอดไป สาธุ
     

แชร์หน้านี้

Loading...