ว่าด้วยเรื่อง...ผงวัดสัมฤทธิ์ ที่ทรงอานุภาพมหาศาล

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย เพชรฉลูกัน, 14 ธันวาคม 2015.

  1. เพชรฉลูกัน

    เพชรฉลูกัน ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    18,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    24
    ค่าพลัง:
    +23,180
    [​IMG]


    "วัดสัมฤทธิ์" ตั้งอยู่ในเขตหมู่ที่ ๑๒ ตำบลหัวสำโรง อ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี สันนิษฐานว่า ได้สร้างขึ้นมาในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนกลาง และได้กลายสภาพเป็นวัดร้างไปเมื่อปี พ.ศ. ๒๓๑๐ เพราะหนีภัยสงครามพม่า ที่วัดสัมฤทธิ์มีพระพุทธรูป ซึ่งเชื่อกันว่าศักดิ์สิทธิ์มากอยู่ ๓ องค์
    มีผู้คนมากราบไหว้ขอพรกันมิขาดเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีผู้ได้พบผงศักดิ์สิทธิ์ ซึ้งเชื่อกันว่าเป็นผง “อิทธิเจ” ซุกซ่อนอยู่ในพื้นที่บางส่วนอีกด้วย

    ผงวัดสัมฤทธิ์ คือ ผงอิทธิเจ ที่คาดว่าน่าจะมีอายุอยู่ประมาณ ๔๐๐ ปีขึ้นไป เพราะวัดสัมฤทธิ์นี้เป็นวัดร้างที่สร้างขึ้นในยุคอยุธยาตอนกลาง

    น่าจะราวๆสมัยพระเจ้าปราสาททองหรือสมเด็จพระนารายณ์มหาราช(พบใบลานจารอักขรบอกไว้ว่าเป็นผงอิทธิเจ)

    ปาฏิหาริย์ของผงนี้ มีมากมาย เป็นที่ประจักแก่ผู้คนทั้งลพบุรี และอ่างทอง ตลอดจนผู้คนในบริเวณใกล้เคียงทั้งย่านแม่น้ำลพบุรี และแม่น้ำเจ้าพระยา รู้จักกันดีในวงการพระสงฆ์ว่า วัดทุกวัดในเขตภาคกลางนี้เมื่อมีวาระจะต้องสร้างพระเครื่อง จะต้องมาขอแบ่งผงนี้ไปเป็นมงคลวัตถุผสมอยู่ด้วยทุกครั้ง จนปัจจุบันนี้หา ผงนี้เกือบจะหาอีกไม่ได้อีกแล้ว คงเหลืออยู่เล็กๆ น้อยๆ กับคนที่รู้จริงและบรรจุใส่ตลับบ้าง
    ใส่หลอดบ้างเอาไว้บูชากัน แต่ก็หวงแหนกันยิ่งชีวิต..!!!!!

    อันผงวัดสัมฤทธิ์ หรือที่หลายคนเรียกว่าผงหลวงพ่อสัมฤทธิ์นี้ มีพุทธคุณศักดิ์สิทธ์ยิ่งนัก มีประสบการณ์ต่างๆมากมาย ตั้งแต่การใช้แก้คุณไสย ถูกของถูกกระทำ มีตัวอย่างสำคัญๆที่ต้องเล่าเป็นการเฉพาะเท่านั้น มีพุทธคุณด้านปกป้กษ์คุ้มครองมากมายทั้งรถยนต์การเดินทาง และแม้แต่ในสนามรบทหารหาญเมืองลพบุรีที่ได้ไปต่างทราบกันดี

    และพุทธคุณ ที่หลายคนปรารถนาคือ สามารถอธิษฐานขอในสิ่งที่ต้องการได้..!!!!!!!! แม้แต่ในวัดสัมฤทธิ์เวลานี้ มีการเจาะบ่อบาดานใกล้ๆกับแหล่งที่พบผงอิธิเจนี้ น้ำที่โยกขึ้นมากก็กลายเป็นน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์มาก เป็นที่เคารพบูชาของคนแถวนั้นตราบเท่าทุกวันนี้

    ประสบการณ์ผงหลวงพ่อสัมฤทธิ์แก้ดวงตก แก้กรรมได้ เคยมีคนชะตาตกแบบที่เรียกว่าคอขาด หรือถึงฆาต พระอาจารย์ใช้ผงฯ นี้ทำน้ำมนต์ให้อาบ และดื่มกินทุกวัน จนวันจะกลับบ้านท่านก็ให้พระสมเด็จที่ผสมผงวัดสัมฤทธิ์แขวนคอไปด้วย แต่ด้วยความที่ดวงไม่ดีก็ไปเจอเรื่องเข้าอีกจนได้ คราวนี้เจอคู่อริรุมซ้อมแต่ก็หนีเอาตัวรอดกลับมาได้ ปรากฎว่าร่างกายไม่บอบชำบาดเจ็บมากนัก แต่พระสมเด็จที่ห้อยคอไปถึงกับหักเป็นสองท่อนทั้งที่อยู่ในเลี่ยมตลับ สเตนเลสอย่างดี ? หรือว่าพระท่านจะมารับกรรมแทนตน !!?? จนเจ้าตัวอยู่รอดปลอดภัยมาจนทุกวันนี้

    ประสบการณ์ผงหลวงพ่อสัมฤทธิ์ เกี่ยวการเลื่อนขั้น เลื่อนตำแหน่ง ผงหลวงพ่อสัมฤทธิ์นี้ผู้บูชาต้องระลึกถึงบารมีของหลวงพ่อสัมฤทธิ์ และผู้สร้างผงฯนี้เก็บไว้ เพื่ออธิษฐานของสิ่งที่ตนต้องการ เคยมีนายทหารกลุ่มหนึ่งบูชาและอธิษฐานขอให้ได้เลื่อนตำแหน่ง ก็ได้อย่างไม่น่าเชื่อ นับแต่นั้นมาจึงเกิดการไล่ตามเก็บเช่าบูชากันมาก ทำให้พระที่เคยแจกจ่ายออกมาจากวัดหายไปจนไม่ค่อยมีใครพบเห็นอีกเลย

    ดังนั้นข้าราชการท่านใดที่ต้องการให้สมประสงค์เรื่องขั้นเรื่องตำแหน่งก็ควร จะมีไว้บูชา ท่านใดที่มีแล้วอย่าลืมท่านต้องระลึกถึงผู้สร้างและหลวงพ่อสัมฤทธิ์เพื่อ อธิษฐานขอแล้วท่านจะประสบผลตามสมประสงค์ทุกประการ

    ผงวัดสัมฤทธ์นี้ มีพระเกจิอาจารย์หลายท่าน นำไปสร้างเป็นพระเครื่อง และอธิษฐานขอให้การสร้างวัดสำเร็จ ก็สามารถสร้างวัดได้สำเร็จมาแล้วหลายวัดด้วยกัน รวมทั้งมีพระอาจารย์บางท่านได้ทำการก่อสร้างจนเป็นหนี้เป็นสินมากมายมหาศาล แต่ก็สามารถอธิษฐานขอ จนหมดหนี้หมดสิน(ปลดหนี้)และสร้างวัดได้สำเร็จสมความปรารถนาทุกประการ

    อนึ่ง การค้นพบผงสัมฤทธิ์ในอดีตตลอด ๕๐ ปีที่ผ่านมา พบว่าวัตถุมงคลที่เข้าผงวัดสัมฤทธิ์หรือมีผงวัดสัมฤทธิ์เข้าไปเป็นส่วนประกอบ เช่น พระเครื่องชุดแพพัน แพ๒พัน พระชุดของหลวงปู่โต๊ะ วัดสระเกศ พระชุดของวัดเยื้องคงคาราม พระผงสมเด็จวัดคำหยาด โดยพระอาจารย์บุญลือ โดยเฉพาะพระเครื่องชุดที่สร้างโดยวัดยวด ( วัดเจ้าคณะอำเภอท่าวุ้ง ในจังหวัดลพบุรี ) ล้วนเข้าผงวัดสัมฤทธิ์ทั้งสิ้น ล้วนมีประสบการณ์ ในทางค้ำชูดวงชะตา เป็นมหาสำเร็จสมปรารถนา ขอเพียงผู้ใช้ตั้งสัจจะอธิฐาน โดยไม่เกินวาสนาของตน มีความเชื่อถือกันมาในหมู่คณาจารย์ ผู้รู้ทั้งหลายว่า ผู้สร้างผงพุทธคุณวัดสัมฤทธิ์ทรงอภิญญาสูงส่ง ดำรงจิตอยู่ในพรหมวิหาร ๔ วางจิตนิ่งอยู่ในอุเบกขาเป็นนิจ เห็นเพื่อนมนุษย์และสัตว์โลกย่อมเป็นไปโดยกรรมของตน

    เมื่อผู้ใดตั้งสัจจะอธิฐาน ผู้ทรงอภิญญานั้นจะคลายจิตลงสู่เมตตา กรุณา เป็นอารมณ์ จึงมีผู้คนจำนวนมากที่ใช้พระที่เข้าผงสัมฤทธิ์พบปาฏิหาริย์ในทางโชคลาภ ในทางมหาเสน่ห์ ในทางมหานิยม ในทางขอตำแหน่งหน้าที่การงาน ในทางรักษาโรคภัยไข้เจ็บ รวมไปถึงถอนคุณไสยต่างๆ ได้อย่างมหัศจรรย์..!!!!!!!!!!! เป็นที่เลื่องลือกล่าวขวัญและเสาะแสวงหาอย่างยิ่งยวดมาเท่าถึงทุกวันนี้



    คลิก=> ก้อนผงสัมฤทธิ์...เพื่อค่าโฮสพลังจิตทั้งหมด ชุดใหม่เหลือ 8 ก้อน!


    [​IMG]

    ที่มา :: Pantown :: everyone's online society
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 14 ธันวาคม 2015
  2. เพชรฉลูกัน

    เพชรฉลูกัน ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    18,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    24
    ค่าพลัง:
    +23,180
    ตำนานการขุดค้นผงอิทธิเจกรุวัดสัมฤทธิ์

    วัดสัมฤทธิ์ เป็นวัดร้างที่ถูกทอดทิ้งมานานนับร้อยๆปี ไม่มีใครทราบ ไม่มีบันทึกใดๆ เพียงแต่คะเนจากก้อนอิฐในซากปรักหักพัง ประกอบกับเหตุการณ์ที่บันทึกไว้เป็นประวัติศาสตร์ ผู้รู้ทั้งในท้องถิ่นและผู้รู้จากภายนอกต่างเห็นตรงกันว่า น่าจะเป็นวัดที่ถูกทิ้งรางไว้เมื่อคราวสงครามพม่า ที่ไทยเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่สอง

    ในการทัพคราวนั้นกรุงศรีอยุธยาเสียแก่พม่าเมื่อวันอังคาร ขึ้น ๙ ค่ำ เดือน ๕ ปีกุน ตรงกับวันที่ ๗ เมษายน พ.ศ. ๒๓๑๐ อันเป็นรัชสมัยของสมเด็จพระเจ้าเอกทัศแห่งอาณาจักรอยุธยา และพระเจ้ามังระของอาณาจักรพม่า
    แผน ปฏิบัติการของกองทัพพม่าเริ่มจากการเข้าตีหัวเมืองทางเหนือ ทางตะวันตกและทางใต้ของอาณาจักรอยุธยา ก่อนจะเข้าปิดล้อมพระนครในขั้นสุดท้าย ส่วนผู้ปกครองอยุธยาเลือกที่จะใช้ยุทธวิธีตั้งรับอยู่ในกรุงในฤดูน้ำหลาก แต่เนื่องจากกองทัพพม่าได้เปลี่ยนยุทธวิธีของตนใหม่
    จึงทำให้ยุทธวิธี ของอยุธยาไม่ได้ผลอย่างในอดีต จนกระทั่งนำไปสู่การเสียกรุงศรีอยุธยาในที่สุด ภายหลังการปิดล้อมนาน ๑๔ เดือน ซึ่งเป็นสาเหตุซึ่งนำไปสู่การเสียกรุงด้วยเหตุผลทางด้านยุทธวิธี

    การ ที่พม่าเข้าปิดล้อมพระนครในขั้นสุดท้ายนานถึง ๑๔ เดือนนั้น พม่าได้เลือกชัยภูมิบริเวณที่ดอน อยู่ห่างจากแม่น้ำเจ้าพระยาเข้ามาพอสมควร แต่มีคลองธรรมชาติเป็นแหล่งน้ำสำหรับกองทัพ มีป่าและภูเขาในบริเวณเขาสมอคอน เขาสนามแจง และเขาสามยอด เป็นแหล่งเสบียง จากของป่าที่สามารถหาได้และขนส่งไม่ไกล

    การตั้งค่ายคูประตูรบของพม่าบริเวณนี้ ยังทิ้งร่องรอยไว้ให้เห็นจนทุกวันนี้ ในการนี้ทั้งราษฎร และพระภิกษุสงฆ์ ที่เคยอยู่อาศัยทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาจนเจริญรุ่งเรืองมาตลอด ๔๑๗ ปี ก่อนหน้านั้นก็ได้ล่มสลายลงแล้ว ต่างพากันอพยบหลบหนีการปล้นฆ่าแย่งชิงเสบียงและทรัพย์สินวัวควายของทหารพม่า ไปกันจนหมดสิ้น

    คงทิ้งไว้แต่ซากปรักหักพังของสิ่งก่อสร้าง ที่มิอาจขนย้ายหยิบฉวยติดมือหลบหนีไปด้วยได้ จนในปัจจุบันศูนย์วัฒนธรรมตำบลหัวสำโรง ได้ทำการสำรวจ รวบรวมข้อมูลและพิทักษ์รักษาวัดร้างในบริเวณนี้ได้ถึง ๒๐ วัดด้วยกัน วัดสัมฤทธิ์ก็เป็นวัดหนึ่งในจำนวนนั้นด้วยเช่นกัน

    วัดสัมฤทธิ์ ถูกทอดทิ้งรกร้างมาโดยตลอด จนภายหลังเกินชุมชนใหม่ขึ้นมาโดยรอบมีการตัดถนนสร้างเส้นทางคมนาคมเข้ามา เป็นชุมชนเกษตรกรรมทำนา ทำสวนกันขึ้นมาโดยรอบ แต่วัดร้างแห่งนี้ก็ยังคงไม่ได้รับความสนใจสักเท่าใด มีเพียงชาวบ้างบางคนที่มีอาชีพเลี้ยงวัวหรือมีที่นาแถวๆนั้น ผ่านไปผ่านมา จึงมีหลายคนที่เคยพบเห็นประสบการณ์ประหลาดต่างๆ อาทิ เห็นแสงประหลาดในเวลากลางคืนบ้าง เห็นงูใหญ่หายเข้าไปในวัดบ้าง ใครไล่นกล่าหนูขึ้นไปบนโคกวัดก็ยิงไม่ออกบ้าง ยิงออกก็ไม่โดนอย่างไม่น่าเชื่อบ้าง เหมือนมีอะไรมาป้องกันใว้ อีกทั้งคนที่ไปทำอะไรไม่เหมาะสมก็เกิดอาการประหลาดจนถึงกับต้องได้มาจุดธูป ขอสมาภัย จึงหายเป็นปกติ ฯลฯ

    ประสบการณ์แปลกๆเกิดขึ้นมากมายตลอดระยะเวลายาวนาน จนทำให้มีคนเกิดความสงสัยว่าจะต้องมีของดีอะไรบางอย่างอยู่บนโคกวัดแห่งนี้ จากความสงสัยนี้ตำนานแห่งการขุดค้นพบผงอิทธิเจกรุนี้ จึงเริ่มต้นขึ้น
    ในราวๆ ปี ๒๕๐๗ กำนันสุวรรณ เชื้อน้อย ด้วยความร่วมมือกับตาพูล คนบ้านโคกคา ต.โพธิ์ตรุ(ผู้กว้างขวางย่านนี้นับเป็นชุดแรกที่ได้เข้าไปขุดค้นหาของดีที่ ซ่อนอยู่บนโคกวัดสัมฤทธิ์

    หลังจากทำพิธีขอสมาและพลีกรรมขอของดีมาบูชาตามตำราแล้ว ชุดแรกที่เข้าทำการขุดค้น ก็ได้ผงอิทธิเจนี้ออกมาประมาณ ๕ ปีบ ในครั้งแรกนี้ยังไม่ใคร่จะทราบกันเท่าใดว่าผงขาวๆที่ค้นพบนี้จะดี มีค่าอย่างไร เมื่อขุดพบได้มาจึงนำออกมาแต่เพียงพอสมควร มิได้ขนออกมาทั้งหมด
    เมื่อได้ผงฯ มาแล้วก็มิได้นำไปทำอะไร จะขายก็ไม่มีใครซื้อ ตาพูลซึ่งเป็นคนชอบเสี่ยงดวง มักตะเวนไปหาพระหาหวยตามวัดต่างๆจนรู้จักมักคุ้นพระอาจารย์ดังแถวนี้ทุกวัด ก็ได้นำผงฯ นี้ไปให้พระท่านดู พระเกจิอาจารย์หลายท่านมีฌาณบารมีรับรู้ได้ถึงอิทธิคุณแห่งผงฯ นี้ จึงได้บอกกล่าวแก่กำนันสุวรรณและตาพูล ว่าผงฯนี้คืออะไร และดีอย่างไร ตาพูลเมื่อทราบจึงได้ถวายผงฯ นี้ แก่เกจิดังย่านนี้ไปจนหมด อาธิ หลวงพ่อซวง วัดชีปะขาว หลวงพ่อโต๊ะ วัดสระเกศ และหลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง และพระมหาสังเวียน วัดไชโย เป็นต้น

    หลังจากการขุดค้นพบผงอิทธิเจครั้งแรก นี้ และนำไปถวายวัดหลายแห่งก็ได้มีการนำผงฯ นี้ไปสร้างพระเครื่องขึ้นมากมายหลายวัด หลายรุ่น ปรากฏว่ายิ่งทำให้ชื่อเสียงเกียรติคุณของผงฯ นี้ขจรขจายไปไกล โดยเฉพาะพระสมเด็จเนื้อผงของหลวงพ่อซวง พระสมเด็จแพพัน ของหลวงพ่อแพ และพระสมเด็จรุ่นแรกของหลวงพ่อโต๊ะ วัดสระเกศ ต่างมีประสบการณ์และได้รับความนิยมสูงมาก พระเกจิอาจารย์จากวัดอื่นๆ จึงพยายามขวนขวายหามาเพื่อสร้างพระเครื่องให้ญาติโยมบูชาทำบุญหาทุนสร้างวัด สร้างวา ทำนะบำรุงพระพุทธศาสนาสืบไป
     
  3. เพชรฉลูกัน

    เพชรฉลูกัน ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    18,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    24
    ค่าพลัง:
    +23,180
    ความต้องการนี้เอง นำไปสู่การขุดค้นครั้งที่สอง โดยหลวงพ่อสมัย(พระครูสุนทรธรรมกิจ) เจ้าอาวาสวัดมะค่า ต.บ้านเบิก มีผู้ใหญ่น้อย มาสำราญให้การสนับสนุน และผู้ใหญ่น้อยนี้เองที่ได้นำผงอิทธิเจจำนวนมาก จากการขุดค้นครั้งที่สองนี้มามอบให้หลวงตายม วัดยวด สร้างพระสมเด็จวัดยวดอันลือชื่อมากประสบการณ์ขึ้นมา การขุดค้นครั้งที่สองนี้ได้ผงฯ มากกว่าครั้งแรก เพราะวัดมะค่าอยู่ใกล้กับวัดสัมฤทธิ์มากกว่าวัดอื่น(ระยะเดินเท้าได้ไม่เกิน ๑ ก.ม.) หลวงพ่อสมัย ได้นำผงฯ นี้ไปสร้างพระสมเด็จเนื้อผงของวัดมะค่าขึ้นมาหลายรุ่น เวลานี้จะหาพระรุ่นดังกล่าวดู ก็ยังหาไม่เจอเพราะได้รับความนิยมสูงมากมานานแล้ว เมื่อเป็นที่ต้องการในวงการพระเกจิ การขุดค้นครั้งที่สามจึงเป็นฝีมีของพระสงฆ์อีกเช่นกัน หลวงพ่อโสน แห่งวัดวังกรด บางมูลนาก จังหวัดพิจิตร ทราบข่าวจากคนท่าวุ้งนี้เองก็ได้มาทำการขุดค้นได้ไป แต่ข่าวว่าไม่มากนัก เพราะคิดว่าผงฯ หมดแล้วจึงเลิกลากลับไป ท่านนำผงฯ ทั้งหมดกลับไปสร้างพระอะไรบ้างไม่มีใครทราบ

    ครั้งที่สี่ ครั้งสุดท้าย หลวงตาเชื้อ แห่งวัดเยื้องคงคาราม อ.ไชโย จ.อ่างทอง ท่านได้เข้ามาบูรณะปรับปรุงพื้นที่วัดร้าง พยายามจะยกฐานะให้เป็นวัดขึ้นมาใหม่อีกครั้ง ท่านได้ขุดค้นจนพบว่ายังมีผงอิธิเจโบราณฝังอยู่อีกห้องหนึ่งเต็มๆ ท่านจึงได้ผงฯ มากเท่ากับทั้งสามครั้งแรกรวมกัน ! แล้วท่านก็ได้นำผงฯ ไปสร้างเป็นพระสมเด็จวัดเยื้อง ที่มีประสบการณ์สูงมาก ได้รับความนิยมและหวงแหนกันมากจนถึงขั้นไม่มีพระให้ดู ให้เล่นกันเลยในวงการเวลานี้ !!

    อาจารย์อัมพล เชื้อน้อย บุตรชายของกำนันสุวรรณผู้ขุดค้นพบผงอิทธิเจวัดสัมฤทธิ์เป็นกลุ่มแรก ได้กรุณาให้ข้อมูลเบื้องหลังว่า หลังจากที่พ่อกำนัน และตาพูลได้ขุดพบแล้วก็ไม่รู้จะนำผงฯ ไปทำอะไร ก็ได้แต่เที่ยวนำไปถวายวัดนั้น วัดนี้ ให้ท่านสร้างพระเครื่องให้เป็นประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนา แต่ตัวท่านเองเวลานี้กลับมีผงฯ นี้บูชาติดตัวอยู่เพียงหลอดเดียวเท่านั้น

    อาจารย์อัมพล เล่าถึง ตอนที่นำผงฯ นี้ไปถวายให้หลวงพ่อฉาบ วัดศรีสาครว่า ทันทีท่านถือกระป๋องบรรจุผงฯ ขึ้นไปบนกุฎิหลวงพ่อฉาบนั้น หลวงพ่อท่านได้ตะโกนสั่งมาว่า " ระวังๆ ผงนี้สุดยอด ระวังๆ อย่าทำหกเป็นอันขาด" คณะที่ไปด้วยกันทั้งหมดต่างมองหน้ากันด้วยความประหลาดใจ ว่าท่านรู้ได้อย่างไร ว่าเป็นผงอะไร !!?? และรู้ได้อย่างไรว่าจะนำมามอบให้ท่าน จึงทำให้ท่านถึงกับแสดงอาการตื่นเต้น ดีใจออกมากมายเช่นนั้น และหลังจากที่หลวงพ่อฉาบได้ใช้ผงฯ ชุดนี้สร้างพระเครื่องจนหมดไปแล้ว ทราบว่าท่านก็ได้ให้คนมาเช่าผงฯ นี้ไปจากชาวบ้านแถววัดมะค่า ไปอีกจำนวนหนึ่งแต่ไม่ทราบว่าท่านนำไปสร้างพระรุ่นใดบ้าง

    เล่ามาถึงตรงนี้ผู้เขียนเองก็ได้สารภาพกับอาจารย์อัมพล เชื้อน้อยไปว่า "ผมได้ยินชื่อผงสัมฤทธิ์ และวัดสัมฤทธิ์ ครั้งแรกจากปากหลวงพ่อฉาบนี้เอง " นับแต่วันนั้นมาผมก็ได้เที่ยวสืบหา ค้นคว้าประวัติเรื่องราวของผงอิทธิเจวัดสัมฤทธิ์มาโดยตลอด แต่ยิ่งศึกษาก็ยิ่งเห็นประสบการณ์ต่างๆ มากมายบางเรื่องก็ธรรมดา แต่บางเรื่องก็เหลือเชื่อจริงๆ


    ศึกษาเพิ่มเติมได้ที่ Thai Amulets Online
     
  4. เพชรฉลูกัน

    เพชรฉลูกัน ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    18,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    24
    ค่าพลัง:
    +23,180
    "...ผงหลวงพ่อสัมฤทธิ์นี้ มีพุทธคุณศักดิ์สิทธ์ยิ่งนัก มีประสบการณ์ต่างๆมากมาย ตั้งแต่การใช้แก้คุณไสย ถูกของถูกกระทำ มีตัวอย่างสำคัญๆที่ต้องเล่าเป็นการเฉพาะเท่านั้น กล่าวคือเมื่อประมาณ 20 - 30 กว่าปีที่แล้ว มีผู้ใหญ่บางท่านเคยโดนผู้หญิงเล่นคุณไสยกระทำเสน่ห์ใส่อย่างหนัก พระเกจิอริยคณาจารย์หลายท่านเอาไม่อยู่ เพราะแรงเกิน (แม้พระท่านเหล่านั้นจะทรงคุณธรรมหรือภูมิจิตสูงก็จริง แต่หากกำลังจิตไม่แรงพอ ก็สยบเอาไว้ไม่ได้ หรือไม่มีวิชชาเฉพาะ ก็เอาไม่อยู่ เอาไม่ลงเหมือนกัน เหมือนมีบัตรรูดผ่านประตูระบบคอมพิวเตอร์อันสุดทันสมัย แต่กุญแจดอกสุดท้ายที่จะถอดสลักต้นตอของปัญหาทั้งหมดดันเป็นกุญแจแบบโบราณที่ต้องใช้ลูกกุญแจเหล็กเสียบไขแต่เพียงอย่างเดียว ถึงแม้นจะมีบัตรรูดคอมพิวเตอร์อันสูงด้วยเทคโนโลยี่เป็นพันเป็นหมื่นใบ ก็ไร้ความหมาย ใช้ประโยชน์แก้ปัญหาทำอะไรไม่ได้ ฉันใดก็ฉันนั้น) ท้ายสุดได้ผงวัดสัมฤทธิ์นี้ไปช่วยแก้ไข ผู้ใหญ่ท่านนั้นจึงได้รอดพ้นจากเสน่ห์คุณไสยอันร้ายแรงนั้นมาได้อย่างน่าทึ่ง...





     
  5. เพชรฉลูกัน

    เพชรฉลูกัน ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    18,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    24
    ค่าพลัง:
    +23,180
    บทความจากกระทู้ของคุณ เนาว์สถิต ครับ
    และหลังจากนั้นไม่กี่อึดใจ สิ่งแปลกประหลาดและมหัศจรรย์อย่างเหลือที่จะกล่าวก็ได้พลันอุบัติขึ้นในบัดดล เมื่อหน่วยสืบราชการลับทางจิตสาย"โยคะ"ที่ตอนนั้น ห่างเหินการติดต่อกันนานหลายเดือนก็โทรศัพท์เข้ามาหาในทันทีทันใดทีเดียวว่า
    "นี่ตอนนี้เนาว์อยู่ที่ไหนนี่ ทำไมผมจึงจับกระแสเนาว์ได้ว่า อยู่ในที่ที่มีกระแสของสิ่งศักดิ์สิทธิ์อบอวลอยู่เต็มไปหมดเล่า..???????"
    และที่สำคัญที่สุดก็คือ
    "นอกจากนี้ ผมยังจับกระแสของอาถรรพ์อะไรบางอย่างได้ เป็นพลังงานอาถรรพ์ที่มีพลังยิ่งใหญ่มาก จนสามารถข่มพลังอาถรรพ์อื่นๆได้อีกด้วยน๊ะ..

    http://www.gmwebsite.com/Webboard/Topic.asp?TopicID=Topic-14022810420287443
     
  6. เพชรฉลูกัน

    เพชรฉลูกัน ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    18,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    24
    ค่าพลัง:
    +23,180
    [​IMG][/url][/IMG]
    [​IMG][/url][/IMG]
    [​IMG][/url][/IMG]
    กำเนิดผงสัมฤทธิ์
    ผงพุทธคุณหลวงพ่อสัมฤทธิ์ ได้ถูกค้นพบเมื่อประมาณ ๓๐-๔๐ ปีที่ผ่านมา โดยพบการผุดขึ้นของผงพุทธคุณดังกล่าวได้มีการพบที่บริเวณเนินดินที่เป็นรากฐานอุโบสถโบราณ ซึ่งอยู่กลางทุ่งนาในเขตอำเภอท่าวุ้ง จ.ลพบุรี ซึ่งสันนิษฐานว่าน่าจะเป็นวัดโบราณในสมัยกรุงศรีอยุธยาซึ่งในขณะนั้นไม่คงสภาพความเป็นวัดอยู่เลย พบเพียงพระพุทธรูปหินทรายเพียง ๔ องค์ ซึ่งน่าจะเป็นพระประธานแต่ก็มีความชำรุดเสียหายทั้งหมด โดยผู้พบผงท่านแรกนั้นเป็นชายชราชาวนาที่อาศัยอยู่บริเวณแถบนั้น ได้เดินทางอกไปทำนาและผ่านบริเวณวัดร้างดังกล่าว และด้วยมีความรู้ทางด้านไสยศาสตร์อยู่บ้าง จึงทำให้พอทราบว่า ผงที่ผุดขึ้นมานี้เป็นผงสำเร็จเรียกว่าผงอิทธิเจ จึงได้เก็บผงพุทธคุณศักดิ์สิทธิ์ดังกล่าวมาทุกวัน จนเป็นข่าวในละแวกนั้น พอชาวบ้านเริ่มรู้ข่าวว่ามีการพบผงศักดิ์สิทธิ์ จึงได้พากันมาขุดเพื่อหวังหาสมบัติและพระเครื่องโบราณ ซึ่งก็มีทั้งสมหวังบ้างและผิดหวังบ้าง จากคำบอกเล่าว่ามีผู้ได้พบพระเนื้อชินและพระบูชาทองคำไปบ้าง แต่ก็เล็กน้อย ส่วนใหญ่จะได้ผงสีขาวเสียมากกว่า บางก็สนใจบ้างก็ไม่สนใจ เก็บรักษากันไว้บ้าง ถวายวัดบริเวณใกล้ๆ บ้าง จนข่าวเงียบหายไปเพราะไม่ได้สมบัติอะไร การขุดผงพุทธคุณชุดแรกจึงได้ยุติลง แต่ชายชราชาวนาคนแรกก็ยังคงเก็บผงที่มีผู้ขุดทิ้งตกค้างไว้ เพราะทราบถึงความศักดิ์สิทธิ์ของผงนั้น




    ผงศักดิ์สิทธิ์ถูกสร้างพระพิมพ์โดยพระสุปฏิปันโน
    ชายชราผู้นี้เป็นผู้สนใจในพระเถระผู้ปฏิบัติดีและมีญาณวิถีหยั่งรู้ เมื่อได้ทราบข่าวว่ามีพระเถระดีมีพุทธาคมสูงและเก่งในเรื่องเลขหวยก็มักจะไปกราบสนทนาธรรม และสุดท้ายก็คือการขอเลขหวย โดยมีการนำผงศักดิ์สิทธิ์ดังกล่าวที่ทยอยเก็บสะสมไว้ไปถวายหรือเรียกว่า “เอาผงไปแลกหวย” จากคำบอกเล่า พระเถระที่ได้นำผงที่ชายชราไปถวายเพื่อจะแลกกับหวยนั้น ได้มีการนำผงพุทธคุณสัมฤทธิ์นี้ไปสร้างวัตถุมงคลจนโด่งดังเป็นตำนานจนมาถึงปัจจุบัน คือ หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม, หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง(ชุดแพพัน-แพสามพัน), หลวงปู่โต๊ะ วัดสระเกษ, หลวงปู่ศรี วัดพระปรางค์, หลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน(พระพุทธนฤมิตรโชคหรือสมเด็จกวางใหญ่) เป็นต้น และผงพุทธคุณนี้ยังกระจายสู่พระเถระยุคนั้นเมื่อทราบถึงอิทธิคุณความศักดิ์สิทธิ์ โดยเฉพาะแถบอำเภอไชโย อำเภอท่าวุ้ง และเขตติดต่อจังหวัดสิงห์บุรี ชัยนาท ซึ่งด้วยความโด่งดังของครูบาอาจารย์ที่ได้นำผงพุทธคุณสัมฤทธิ์ไปผสมสร้างวัตถุมงคลแล้ว ซึ่งถ้าผงนี้ไม่ดีจริงพระคณาจารย์อย่างหลวงพ่อกวย หลวงพ่อแพ(ผสมผงสร้างไม่ต่ำกว่า ๓ รุ่น) และหลวงพ่อจรัญคงไม่นำผงมาผสมสร้างพระชุดแรกๆ ของท่าน




    ผู้เปิดตำนานผงพุทธคุณหลวงพ่อสัมฤทธิ์ ยุคที่ทำให้เป็นที่กล่าวขาน
    นั้นคือ หลวงพ่อเชื้อ วัดเยื้องคงคาราม จ.อ่างทอง เป็นผู้ที่ทำให้ผงพุทธคุณหลวงพ่อสัมฤทธิ์เป็นที่รู้จักอีกครั้ง จากคำบอกเล่าของตัวท่านเองว่า ท่านได้ทราบข่าวการขุดผงพุทธคุณหลวงพ่อสัมฤทธิ์จากวัดร้างโบราณกลางทุ่งก็เกิดสนใจและได้รับผงมาจำนวนหนึ่ง ได้นำไปให้ครูบาอาจารย์ของท่านที่ได้ทรงคุณธรรมตรวจสอบอิทธิคุณ ได้รับคำตอบว่าเป็นผงสำเร็จศักดิ์สิทธิ์มาก ไม่เคยพบที่ไหนมาก่อน ได้มามากไหม ได้จากไหน ผงนี้ใช้ได้ตามใจปรารถนาหายากมากๆ หลวงพ่อเชื้อจึงได้เก็บความสนเท่ห์นั้นไว้และยังได้นำผงไปตรวจสอบอีกหลายที่ก็ได้คำตอบคล้ายคลึงกัน จึงทำให้ท่านได้เริ่มแสวงหาและเก็บผงหลวงพ่อสัมฤทธิ์อย่างเงียบๆ และนำมาจัดสร้างพระสมเด็จของวัดเยื้องคงคารามด้วยผงดังกล่าวจนวัดสำเร็จสวยงามในปัจจุบัน
    หลวงพ่อเชื้อท่านจึงได้เกิดความศรัทธาในผงพุทธคุณหลวงพ่อสัมฤทธิ์มากยิ่งขึ้น โดยท่านเองได้นำผงพุทธคุณมาใช้รักษาโรคต่างๆ ร่วมถึงโรคทางไสยศาสตร์ก็ปรากฏผลเป็นที่อัศจรรย์ได้ผลดีเป็นที่กล่าวขานกันทั่ว จึงทำให้ท่านมีชื่อเสียงมากขึ้นแบบปากต่อปาก และจากคำบอกเล่ากันว่าท่านได้มอบผงพุทธคุณหลวงพ่อสัมฤทธิ์แก่พระราชาคณะรูปหนึ่งเพื่อทำน้ำมนต์ถอนอาถรรพ์กับบุคคลระดับประเทศจนได้ผลเป็นที่ประจักษ์มาแล้ว และยังไม่รวมถึงพระสมเด็จที่ท่านสร้างไว้ก็ปรากฏผลเป็นประจักษ์แก่ผู้ที่นำไปบูชาในด้านต่างๆ จนเป็นที่แสวงหา โดยการสร้างพระของท่านได้อาศัยผงพุทธคุณหลวงพ่อสัมฤทธิ์เพียงเล็กน้อยในการผสมสร้างพระของท่าน และยังมีผงหรือมวลสารอื่นๆอีกด้วย


    นถ้าผงไม่ศักดิ์สิทธิ์จริง



    พลิกตำนานการขุดผงอีกครั้ง
    เมื่อผงมีความศักดิ์สิทธิ์และเริ่มเป็นที่แสวงหา หลวงพ่อเชื้อท่านจึงได้ซื้อที่นารอบๆ วัดร้างดังกล่าวและได้มีการขุดผงตามที่ต่างๆ ว่ากันว่าท่านได้ผงกลับวัดไปเป็นปี๊บๆ หลังจากนั้นความศักดิ์สิทธิ์ขององค์หลวงพ่อสัมฤทธิ์ก็เริ่มเป็นที่ปรากฏมากขึ้นจากผู้ที่ได้รับผงไปและมาอธิษฐานที่เนินดินวัดร้างดังกล่าว ส่วนใหญ่มักจะประสบความสำเร็จสัมฤทธิ์สมดังใจปรารถนา ผู้ที่ศรัทธาจึงขนานนามว่า หลวงพ่อสัมฤทธิ์ และได้มีการเริ่มบูรณะองค์พระประธานที่เป็นหลวงพ่อสัมฤทธิ์ทั้งสี่องค์ โดยหลวงพ่อเชื้อได้เป็นผู้บูรณะในครั้งแรก ต่อมาภายหลังชาวบ้านได้รวมตัวกันช่วยบูรณะ โดยมีการขุดและพัฒนาพื้นที่มากขึ้น ในครั้งนั้นได้มีการขุดพื้นภายในอุโบสถเก่าที่หลวงพ่อเชื้อเคยขุดไว้ลึกลงไปอีกชั้น ก็ปรากฏว่าพบกรุผงอีกชั้นหนึ่งซึ่งมีแผ่นอิฐหน้าวัวปิดทับและพบใบลานเงินจารึกไว้ โดยหลวงพ่อเชื้อได้หาผู้ชำนาญอักษรโบราณได้อ่านและถอดความว่า “ผงอิทธิเจทำสำเร็จแล้ว” จึงเป็นที่รู้กันว่าผงพุทธคุณที่ผุดขึ้นมาและได้ทำการขุดขึ้นมานั้น เรียกว่า ผงอิทธิเจ ของผู้สำเร็จพุทธาคมในสมัยโบราณ ได้ฝึกจิตอภิญญาจนสำเร็จวิชาการทำผงพุทธคุณและได้ฝากไว้เพื่อสืบต่ออายุพระพุทธศาสนาและไว้เพื่อช่วยเหลือสรรพสัตว์ที่ตกทุกข์ได้ยากในอนาคต





    อะไรคือผงอิทธิเจ
    ผงอิทธิเจนี้คือ ผงวิเศษ ๑ ใน ๕ ผงพุทธคุณตามตำราโบราณซึ่งผู้ที่เรียนพุทธาคมต้องเรียนและทำให้สำเร็จตามขั้นตอนของผงแต่ละชนิด ซึ่งผงอิทธิเจนั้นมีฤทธานุภาพความศักดิ์สิทธิ์ทางมหาเสน่ห์ เมตตามหานิยม ใช้ได้สารพัดสุดแต่จะอธิษฐาน ปรารถนาสิ่งใดจะส่งผลให้สัมฤทธิ์ผลสมดังมโนรมย์ทุกประการ การใช้ผงอิทธิเจนั้นมักจะผสมกับแป้งผัดหน้าเป็นเมตตามหานิยมหรือใช้ผสมเครื่องหอมเพื่อให้เกิดผลทางเมตตามหานิยม มหาเสน่ห์ หากผู้ลบทำจนผงอิทธิเจเกิดเป็นตัว(ภาษานักวิทยาคมหมายถึงทำขึ้นศักดิ์สิทธิ์มาก) แล้วเกิดปลิวไปติดต้องเพศตรงข้ามหรือลงในน้ำดื่มจะมีผลทางเสน่ห์ชั้นสูง จึงเป็นแบบทดสอบคุณธรรมของผู้ลบผงด้วยอย่างหนึ่งว่าจะเป็นผู้ติดรูปหลงกามราคะตัณหาหรือไม่ โบราณจึงมักปกปิดสงวนผงชนิดนี้เพราะถือเป็นอันตรายต่อผู้นำไปใช้ในทางที่ผิดและตัวผู้ถูกกระทำเป็นอย่างมาก แต่ถ้าใช้ในทางที่ถูกก็จะช่วยเหลือค้ำคูณผู้นั้นให้เจริญรุ่งเรืองยิ่งๆขึ้นไป จึงเป็นของสุดวิเศษที่ปรารถนาเป็นอย่างมาก






    ความเหมือนที่แตกต่าง
    แต่ในส่วนผงพุทธคุณอิทธิเจหลวงพ่อสัมฤทธิ์นั้น เป็นผงของพระผู้สำเร็จอภิญญาจิตชั้นสูง(ตามคำบอกเล่าจากการตรวจสอบของหลวงพ่อเชื้อ) ที่ได้ทำฝากไว้เป็นที่พึ่งแก่สรรพสัตว์ทั้งหลาย เพราะสามารถนำมาผสมน้ำทำเป็นน้ำพุทธมนต์เพื่อใช้ดื่มกินรักษาโรคต่างๆ ได้ด้วย รวมถึงการใช้ถอนอาถรรพ์หรือแก้คุณไสย์ต่างๆ ตามคำอธิษฐานเพื่อขอพึ่งบารมีผงหลวงพ่อสัมฤทธิ์ และรวมถึงมีผลต่อผู้นำผงติดตัวบูชา อธิษฐานสิ่งใดก็จะสำเร็จผลสมปรารถนาดังคำอธิษฐานทุกประการ เจริญในหน้าที่การงานทั้งปวง ทั้งยังเสริมส่งบารมีราศีแก่ผู้บูชาให้เจริญยิ่งๆ ขึ้นอีกด้วย ซึ่งจะมีความแตกต่างจากผงอิทธิเจตามตำราที่จะเน้นหนักไปทางเสน่ห์มหานิยมเสียเป็นส่วนใหญ่
    และผงพุทธคุณหลวงพ่อสัมฤทธิ์นี้ว่ากันว่า ต้องอธิษฐานบอกกล่าวขอความช่วยเหลือจากผงพุทธคุณหลวงพ่อสัมฤทธิ์ เทพเทวดาที่รักษาผงและองค์หลวงพ่อสัมฤทธิ์ รวมถึงท่านเจ้าของผงดังกล่าวจึงจะสัมฤทธิ์ผล หากไม่อธิษฐานบอกกล่าวก็ไม่ต่างอะไรกับผงปูนก้อนปูนอิฐหินธรรมดา และว่ากันว่าท่านเจ้าของที่ทำผงพุทธคุณดังกล่าว ท่านสำเร็จอภิญญาจิตชั้นสูงปฏิสนธิในรูปพรหมทรงพรหมวิหารธรรมดำรงจิตในอุเบกขารมณ์ หากอธิษฐานต่อผงพุทธคุณหลวงพ่อสัมฤทธิ์ท่านก็จะคลายจิตจากอุเบกขารมณ์มาอยู่ในเมตตากรุณาเป็นหลัก ซึ่งจะช่วยเหลือผู้อธิษฐานให้สำเร็จผลดังใจปรารถนาตามกำลังบุญวาสนาผู้อธิษฐานโดยเร็วและง่ายดาย



    ความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อสัมฤทธิ์และผงพุทธคุณในปัจจุบัน
    ปัจจุบันจากตำนานวัดร้างกลับกลายเป็นวัดที่มีความเจริญในถาวรวัตถุเป็นอันมากถึงจะไม่มีพระภิกษุสงฆ์พักจำพรรษาด้วยอาถรรพ์ความศักดิ์สิทธิ์ของเทวดาที่รักษาผงและองค์หลวงพ่อสัมฤทธิ์ แต่ความศรัทธาและความเจริญด้านต่างๆ ก็มากมายมาด้วยความศักดิ์สิทธิ์แห่งองค์หลวงพ่อสัมฤทธิ์และผงหลวงพ่อสัมฤทธิ์อันศักดิ์สิทธิ์ ส่วนใหญ่ผู้ศรัทธาเมื่อมากราบไหว้บนบานขอพรต่อองค์หลวงพ่อสัมฤทธิ์ก็มักจะประสบผลสำเร็จสัมฤทธิ์ผล ดังชื่อองค์หลวงพ่อพระพุทธรูปทั้งสี่องค์ หรืออาจจะเกิดจากความศักดิ์สิทธิ์ของผงอิทธิเจที่ยังหลงเหลืออยู่ภายในองค์พระหรือในวิหาร จึงได้มีความศักดิ์สิทธิ์มีผลานุภาพแก่ผู้มาอธิษฐานขอพรขอความช่วยเหลือก็เป็นได้ และยังมีผู้คนที่ได้รู้ถึงพุทธคุณของผงอิทธิเจหลวงพ่อสัมฤทธิ์ได้สืบเสาะหาหรือจากพระเครื่องที่ได้ผสมผงดังกล่าวไว้อีกด้วย เพื่อนำมาพกติดตัวให้เกิดความเป็นสิริมงคลและบังเกิดความสำเร็จสัมฤทธิ์ผลสมดั่งใจปรารถนา อีกทั้งยังนำมาพิธีแก้อาถรรพ์ รักษาโรคต่างๆ ซึ่งต่างก็ได้พบประสบเจอกับอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์จนเป็นที่ประจักษ์แก่ผู้ศรัทธาทั้งหลายกันอย่างปากต่อปาก

    พุทธคุณและอานุภาพของผงพุทธคุณหลวงพ่อสัมฤทธิ์
    มีประสิทธิผลในทางเมตตามหานิยมสูงสุดและมหาสำเร็จดังแก้วสารพัดนึก และมีประสบการณ์ในทางอุดหนุนค้ำชูดวงชะตาเป็นมหาสำเร็จสมปรารถนา ขอเพียงผู้ใช้ตั้งสัจจะอธิษฐานโดยไม่เกินวาสนาของตน มีความเชื่อถือกันมากในหมู่คณาจารย์ผู้รู้ทั้งหลายว่า ผู้สร้างผงพุทธคุณวัดสัมฤทธิ์นี้ทรงอภิญญาสูงส่ง ดำรงจิตอยู่ในพรหมวิหาร ๔ วางจิตนิ่งอยู่ในอุเบกขาเป็นนิจ เห็นเพื่อนมนุษย์และสัตว์โลกย่อมเป็นไปโดยกรรมของตน แต่เมื่อผู้ใดตั้งสัจจะอธิษฐาน ผู้ทรงอภิญญานั้นจะคลายจิตลงสู่เมตตา กรุณา เป็นอารมณ์ ช่วยเหลือสงเคราะห์ให้สำเร็จได้ จึงมีผู้คนจำนวนมากที่ใช้พระหรือวัตถุมงคลที่เข้าผงสัมฤทธิ์นี้ต่างก็พบปาฏิหาริย์ในทางโชคลาภ ในทางมหาเสน่ห์ ในทางมหานิยม ในทางขอตำแหน่งหน้าที่การงาน ในทางรักษาโรคภัยไข้เจ็บ รวมไปถึงการถอนคุณไสย์ต่างๆ ได้อย่างเป็นอัศจรรย์โดยการอาราธนานำพระแช่น้ำทำน้ำพระพุทธมนต์
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 14 ธันวาคม 2015
  7. เพชรฉลูกัน

    เพชรฉลูกัน ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    18,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    24
    ค่าพลัง:
    +23,180
    นี่แหละครับคือ ผงวิเศษ(จริงๆ) ที่บรรพบุรุษของเราผู้ล่วงลับได้ทิ้งไว้ให่พวกเราได้ใช้กัน
     
  8. เพชรฉลูกัน

    เพชรฉลูกัน ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    18,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    24
    ค่าพลัง:
    +23,180
  9. เพชรฉลูกัน

    เพชรฉลูกัน ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    18,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    24
    ค่าพลัง:
    +23,180
    ข้าพเจ้าได้รับพระสมเด็จและลูกอมสมปรารถนา(มหาสัมฤทธิ์) ของพระเดชพระคุณท่านพระปลัดพิจารณ์ วิจารโณ มาจำนวนหนึ่ง หลังจากที่ได้ไปช่วยงานพิธีสร้างพระไม้โพธิ์ห้ามสมุทรรุ่นแรกของท่าน ทั้งการบอกเล่าจากหลวงพ่อพระปลัดพิจารณ์ถึงความศักดิ์สิทธิ์ของผงหลวงพ่อสัมฤทธิ์ จ.ลพบุรี ทำให้ข้าพเจ้าเกิดความศรัทธาเป็นอย่างมาก วันหนึ่งข้าพเจ้าได้รับความเมตตาจากท่านได้มอบผงหลวงพ่อสัมฤทธิ์ให้มาจำนวนหนึ่ง และผงหลวงปู่แก้ววัดช่องลมกรุวัดในปากทะเล จ.เพชรบุรี เพื่อนำมาใช้ประโยชน์ในงานพระพุทธศาสนา เมื่อได้รับมาแล้วข้าพเจ้าจึงได้ลองตั้งสัจจะอธิษฐานว่า “ภายใน ๗ วัน นี้หากความศักดิ์สิทธิ์ของผงหลวงพ่อสัมฤทธิ์ศักดิ์สิทธิ์จริงตามคำบอกเล่านั้น จะช่วยเหลือพุทธศาสนิกชนและสรรพสัตว์ให้พ้นทุกข์ได้ในยุคนี้ ขอให้ข้าพเจ้าได้รับผงเพิ่มมาในปริมาณที่มากพอทำประโยชน์ได้ไม่ว่าวิธีใดด้วยเทอญ” ขณะที่อธิษฐานนั้นเป็นช่วงที่ข้าพเจ้ากำลังจะออกจากการปฏิบัติพระกรรมฐานได้เกิดนิมิตเห็นพระภิกษุชรารูปหนึ่ง ซึ่งจำได้ว่าท่านคือหลวงปู่คง วัดตาล ปรมาจารย์ของขุนแผน ท่านว่า “ให้ข้าพเจ้าไปตามหาวัดร้างแห่งหนึ่งใน จ .ลพบุรี ดูเถิด จะมีบ้านหลังหนึ่งอยู่ทางทิศตะวันออกของวัดจะช่วยเรื่องผงได้” ข้าพเจ้าได้เก็บเรื่องนี้ไว้ในใจจนถึงวันที่ ๕ ของการอธิษฐาน และในวันที่ ๕ นี้เองข้าพเจ้าได้มีกิจธุระต้องไปช่วยงานทำบุญฉลองพระชำระหนี้สงฆ์ที่สำนักคุณแม่ชีประทุม โชติอนันต์ เป็นเวลา ๒ วัน และในวันงานวันสุดท้ายซึ่งก็เป็นวันที่ ๗ ของการอธิษฐาน ในตอนเดินทางกลับพร้อมกับพี่น้องชาวกองทุนฯ นั้น ข้าพเจ้ามีความรู้สึกว่าต้องลองไปค้นหาวัดสัมฤทธิ์ตามนิมิตหลวงปู่คงดูมีก็มี ได้ก็ได้ ข้าพเจ้าจึงได้เอ่ยปากชวนหมู่คณะเดินทางไปวัดร้างดังกล่าว ซึ่งก็มีท่านหนึ่งในหมู่คณะที่ไปนั้นได้ฟังข้าพเจ้าเอ่ยปากเรื่องผงหลวงพ่อสัมฤทธิ์ จึงจำได้ว่าเขาเคยเก็บพระสมเด็จวัดเยื้องคงคารามของหลวงพ่อเชื้อ ผู้เป็นผู้ที่ทำให้ผงหลวงพ่อสัมฤทธิ์เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย เขาจึงเล่าให้ข้าพเจ้าฟังว่าเขาเคยพาพระและหมู่คณะไปบูชาพระสมเด็จนี้มา และเคยได้รับฟังจากหลวงพ่อเชื้อเล่าเรื่องความศักดิ์สิทธิ์และการขุดผงนี้ และยังกล่าวว่าเป็นผงของหลวงปู่คง วัดตาล ทำไว้ตั้งครั้งกรุงศรีอยุธยา ตอนนั้นข้าพเจ้ารู้สึกดีใจมากที่มีคนรู้จักและจะนำไป หมู่คณะเรานั้นจึงได้ออกเดินทางตามหาและได้ค้นพบเจอวัดร้างดังกล่าวจนได้ แต่ไม่ใช่วัดร้างตามคำบอกเล่า แต่กลับเป็นวัดที่มีความเจริญความพร้อมในเสนาะต่างๆ เว้นแต่เพียงไม่มีพระภิกษุสงฆ์จำพรรษาเพียงอย่างเดียว ข้าพเจ้าและคณะได้เดินชมสถานที่และสังเกตการว่ามีผู้คนเข้ามากราบไหว้ขอพรองค์หลวงพ่อสัมฤทธิ์กันอย่างไม่ขาดระยะ ยิ่งทำให้เชื่อมั่นและศรัทธามากยิ่งขึ้น ถึงแม่ว่าจะไม่มีพระภิกษุสงฆ์ดูแลมีแต่เพียงคณะกรรมการชาวบ้านซึ่งดูแล้วก็นาจะเป็นเพียงชาวนาคงจะไม่มีกำลังทรัพย์มากพอที่จะสร้างหรือถ้ามีก็คงต้องมีความศรัทธาเป็นอย่างมากจึงทำกันได้และเจริญเป็นอย่างมาก ข้าพเจ้าและคณะได้ขึ้นไปบนวิหารขององค์หลวงพ่อสัมฤทธิ์ก็ต้องยิ่งแปลกใจ ว่าทำไมถึงไม่เหมือนที่อื่นๆ ที่นี้นั้นมีพระประธานถึง ๔ องค์ ข้าพเจ้าและคณะจึงได้นมัสการและสวดมนต์อธิษฐานจิตบูชาพระรัตนตรัย ครูบาอาจารย์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์แห่งวัดร้างนี้ ในขณะที่จิตของข้าพเจ้าเริ่มสงบนั้นได้เกิดนิมิตเห็นพระภิกษุ ๕ รูป นั่งอยู่มีเพียงรูปหนึ่งที่มีร่างกายกำยำสูงใหญ่นั่งอยู่ตรงกลางอายุน่าจะประมาณไม่เกิน ๕๐ ปี และมีแสงสว่างเกิดโอภาสกระจายรอบวัดสว่างไสวมาก แล้วมีชีปะขาวท่านหนึ่งเดินจากบ่อน้ำมนต์ขององค์หลวงพ่อสัมฤทธิ์เข้ามาภายในวิหาร จากนั้นหลวงปู่คงท่านได้เดินมาหยุดตรงหน้าข้าพเจ้าและชี้มือไปว่า ไปตามเอานะ ท่านได้ทำภาพให้ดูลักษณะบ้านและรูปร่างชายคนหนึ่งที่นำผงมาให้ ในจิตของข้าพเจ้าตอนนั้นกลัวว่าถ้าต้องไปตามหาอาจจะเกิดความยุ่งยากและใช้เวลา อีกทั้งไม่รู้ว่าจะเกิดผลร้ายดีอย่างไร จึงได้ขอต่อองค์หลวงปู่คงว่า เมตตาลูกด้วย ถ้าให้ไปตามนี้อาจะไม่เหมาะสมในสถานการณ์แบบนี้ ขอความเมตตาจากหลวงปู่ได้โปรดช่วยดลใจเขาให้เข้ามาเจอลูกด้วยและเปิดทางให้ได้ผงโดยง่ายด้วย ท่านจึงได้ทำภาพให้เห็นเป็นชายชราท่านหนึ่งในมือถือถุงพลาสติกหูหิ้วใส่ผงมากำลังเดินมาวัด ท่านว่า เมื่อจบการสวดมนต์จะพบชายคนนี้ แล้วนิมิตทุกอย่างก็ดับลงเกิดความปิติสุขและอิ่มเอิบขึ้นมาในความรู้สึก
    เมื่อสวดมนต์เสร็จแล้วข้าพเจ้ารีบหันไปดูที่ประตูวิหาร ได้พบชายชราผู้หนึ่งยืนมองพวกเราอยู่ แต่ในมือไม่มีถุงผง? ในตอนนั้นข้าพเจ้าดีใจที่ได้พบชายชราท่านนี้ซึ่งก็เป็นไปตามนิมิต แต่ก็ต้องผิดหวังนิดๆ ที่ในมือไม่มีผง ข้าพเจ้าจึงได้ลองสอบถามความเป็นมากับคุณลุงท่านนี้ ถึงความเป็นมาของหลวงพ่อสัมฤทธิ์ และได้ยิงคำถามตรงถึงผงหลวงพ่อสัมฤทธิ์ คุณลุงท่านนี้ถึงกับเงียบไปพักหนึ่ง แล้วจึงได้ถามกลับข้าพเจ้าว่าจะเอาไปทำไมเพราะส่วนใหญ่คนไม่เคยถามถึงผง ที่มาๆ กันรู้ว่าหลวงพ่อสัมฤทธิ์ศักดิ์สิทธิ์ขอได้ทุกอย่างแค่นั้น คุณลุงท่านนี้จึงได้ติดต่อคุณลุงอีกท่านหนึ่งที่เป็นกรรมการและยอมแบ่งผงที่คณะกรรมการได้รวบรวมไว้ในตอนซ่อมวิหารใหม่ ซึ่งจะนำไปจัดสร้างพระผงของหลวงพ่อสัมฤทธิ์เช่นกัน (ตลอดระยะเวลา ๕๐ ปี ที่นี่ไม่เคยมีการจัดสร้างพระผงของหลวงพ่อสัมฤทธิ์โดยตรงเลย มีแต่วัดต่างๆ นำผงไปสร้างพระจนโด่งดัง) คุณลุงท่านนี้จึงได้กลับไปบ้านซึ่งบ้านหลังนี้ก็อยู่ในจุดที่หลวงปู่คงนิมิตบอกไว้ทุกประการ เมื่อคุณลุงท่านนี้กลับมาถึงวิหาร ในมือถือถุงหูหิ้วใบเดียวกันกับที่ข้าพเจ้านิมิต สรุปว่าข้าพเจ้าได้รับผงเพิ่มมาในปริมาณมากพอสมควรกับการที่จะมาทำประโยชน์ดังใจตามคำอธิษฐานจริง หลังจากได้ผงมาระยะหนึ่งข้าพเจ้าจึงได้ลองทำตามวิธีหลวงพ่อพระปลัดพิจารณ์ ในการใช้รักษาโรค ซึ่งในตอนนั้นข้าพเจ้าเกิดนิ้วมือขวาและแขนขวามีอาการชา จึงลองอธิษฐานทำตามหลวงพ่อดูโดยนำผงอธิษฐานผสมน้ำดื่ม ในเวลาเพียง ๑ คืนได้ผลอัศจรรย์เป็นที่น่าพอใจเป็นอย่างมาก มีความศักดิ์สิทธิ์ตามคำบอกเล่าจริง เมื่อได้ประจักษ์กับตนเองโดยลำดับจึงอธิษฐานเพื่อขอสร้างพระสมเด็จสักหนึ่งชุดเพื่อมอบตอบแทนเป็นของขวัญกับผู้ร่วมบุญกับคณะกองทุนหลวงปู่ปาน โสนันโทฯ จะได้ปกปักษ์รักษาท่านผู้ร่วมบุญเสริมบารมีความดีของท่านที่ได้ร่วมกันส่งเสริมกิจกรรมการกุศลต่างๆ ของคณะกองทุนหลวงปู่ปาน โสนันโทฯ ด้วยของศักดิ์สิทธิ์หายากเช่นผงหลวงพ่อสัมฤทธิ์นี้และได้นำมวลสารศักดิ์สิทธิ์ของกองทุนที่ได้สะสมไว้กว่า ๓๘๑ รายการ เพื่อให้พระสมเด็จมหาสัมฤทธิ์ผลอุดมโชค เปรียบด้วยพุทธานุภาพไม่มีประมาณ ถือเป็นของศักดิ์สิทธิ์หาได้ยากในปัจจุบัน และเพื่อสืบสานเจตนารมณ์ของท่านเจ้าของผงสัมฤทธิ์ที่จะสืบต่ออายุพระพุทธศาสนาต่อไป

    ธนสาร เซ้งรักษา
    กองทุนหลวงปู่ปาน โสนันโทฯ
     
  10. ลุงจิ๋ว

    ลุงจิ๋ว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2008
    โพสต์:
    897
    ค่าพลัง:
    +990
    ช่วงนี้ "คุณเพชรฉลูกัน" คงไม่ค่อยว่าง จึงยังไม่ได้ลงข้อมูลผงสัมฤทธิ์
     
  11. เพชรฉลูกัน

    เพชรฉลูกัน ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    18,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    24
    ค่าพลัง:
    +23,180
    ยุ่งจริงครับช่วงนี้........แตเรื่องผงนี้จากประสบการณ์ผู้ที่เก็บผงนี้ไว้เยอะท่านบอกว่าอธิษฐานได้จริงสมปราถนาจริงเลื่อนยศเลื่อนตำแหน่งจริงเจริญก้าวหน้าจริงและทำน้ำมนต์รักษาโรคภัยได้จริงโดยเฉพาะโรคที่เจ็บป่วยหาสาเหตุไม่เจอและเรื่องคุณผีคุณคนรักษาได้อย่างอัศจรรย์และท่านว่าบูชาทุกวันด้วยคาถาหัวใจอิทธิเจเหตุอะไรที่จะเกิดขึ้นกับเรามักจะรู้ก่อนและพวกดวงตกหรือต้องอาถรรพ์ต่างๆท่านว่าน้ำมนต์ที่ทำด้วยผงสัมฤทธิ์นี้ขวดเดียวเอาอยู่เลยท่านว่างั้นนะครับ และถ้าไม่ดีจริงท่านคงไม่ตามเก็บผงนี้ไว้เป็นสิบๆกิโลนะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 19 ธันวาคม 2015
  12. เพชรฉลูกัน

    เพชรฉลูกัน ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    18,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    24
    ค่าพลัง:
    +23,180
    และอีกเรื่องที่ท่านบอกมาก็คือใครก็ตามที่มีพระที่ผสมด้วยผงสัมฤทธิ์นี้ให้ปฏิบัติบูชาเป็นประจำจะอธิษฐานอะไรจะสำเร็จเป็นที่อัศจรรย์อย่างรวดเร็วครับ.......และตัวท่านเองเคยลองขอเรื่องการปฏิบัติโดยเอาผงนี้ว่างบนฝ่ามือแล้วนั่งสมาธิจิตรวมตัวเร็วดีและบ่อยครั้งที่เมื่อจะออกจากสมาธิมักจะได้กลิ่นหอมเหมือนดอกไม้ผ่านจมูก ท่านว่าน่าจะเป็นเทพพรหมที่รักษาผงนี้มาอนุโมทนาบุญ.......ดังนั้นผงนี่สามารถส่งเสริมเรื่องการปฏิบัติได้ดีอีกด้วยครับ.......และท่านยังสำทับอีกว่าใครได้ผงนี้ไว้ครอบครองบูชาขอให้มั่นใจได้เลยว่าชีวิตนี้คุณจะไม่มีวันตกต่ำอย่างแน่นอนเป็นเหมือนผงยาวาสนานาครับใครที่มีวาสนาก็จะได้ครอบครองเองครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 19 ธันวาคม 2015
  13. ลุงจิ๋ว

    ลุงจิ๋ว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2008
    โพสต์:
    897
    ค่าพลัง:
    +990
    ส่งแผ่นตระกรุดหมดแล้ว น่าจะพอมีเวลาว่างนะครับ
    เมื่อวันศุกร์ที่ 18 ธ.ค. ไปรับผงฯตามที่นัดไว้หรือเปล่าครับ?
    ติดตามๆ..
     
  14. เพชรฉลูกัน

    เพชรฉลูกัน ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    18,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    24
    ค่าพลัง:
    +23,180
    ไปแล้วครับแต่ท่านเจ้าของกรุติดงานยาวอยู่ตจว.จะกลับวันพรุ่งนี้ครับ.....เดี่ยวลุยอีกทีครับ
     
  15. เพชรฉลูกัน

    เพชรฉลูกัน ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    18,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    24
    ค่าพลัง:
    +23,180
    ผงโบราณที่บรรพบุรุษท่านทำไว้ให้เพื่อสงเคราะห์สรรพสัตว์ของจริงครับ.........ท่านใดที่ได้ผงนี้ไว้ครอบครองบูชาก็ดุจมีแก้วสารพัดนึกเลยทีเดียว
     
  16. เจ็ก ไผ่ท่าโพใต้

    เจ็ก ไผ่ท่าโพใต้ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2009
    โพสต์:
    9
    ค่าพลัง:
    +8
    ยังพอมีเหลือให้เช่าไหมครับ
     
  17. เพชรฉลูกัน

    เพชรฉลูกัน ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    18,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    24
    ค่าพลัง:
    +23,180
    ยังช่วยส่งเสริมการปฏิบัติธรรมได้อย่างอัศจรรย์ด้วยครับเพราะว่าผงนี้ได้รับการยืนยันจากท่านที่มีตาดีว่า "มีเทพพรหมชั้นสูงรักษาอยู่มิห่าง"
     
  18. ampanthong

    ampanthong สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มกราคม 2016
    โพสต์:
    8
    ค่าพลัง:
    +7
    สวัสดีครับ เป็นน้องใหม่ จะขอร่วมบูชาก้อนผงวัดสัมฤทธิ์ครับ ค่าบูชาก้อนละเท่าไหร่ครับ และต้องทำอย่างไรบ้างครับ รบกวนพี่พี่ และ แอดมินแนะนำด้วยครับ

    ขอบพระคุณครับ
    ampanthomg
     
  19. พระสารทะ

    พระสารทะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    1,402
    ค่าพลัง:
    +4,697
    ถ้าสนใจอยากจะร่วมบุญช่วยค่าโฮสเวปพลังจิต ให้เข้าไปที่ห้องให้บูชาพระเครื่อง วัตถุมงคล หรือถ้าในห้องประสบการณ์ เรื่องเล่านี้ ให้ย้อนกลับขึ้นไป แล้วคลิกที่ => ก้อนผงสัมฤทธิ์ เพื่อค่าโฮสเวปพลังจิต ซึ่งคุณ เพ็ชรฉลูกรรจ์ ได้ลิงค์ไว้ให้แล้ว เข้าไปเลือกดูก้อนผงสัมฤทธิ์ ที่ถูกใจ ที่ยังไม่มีคนอื่นจองไว้ เลือกได้ก้อนที่ถูกใจ แล้วแจ้งในหน้ากระทู้ หรือไลน์แจ้งไปที่คุณเพ็ชรฉลูกรรจ์ แล้วก็โอนเงินจำนวน 1,800 บาท เข้า บช.คุณวีรชัย แก่นภักดี ซึ่งมี บช.จากหลายธนาคารให้เลือกโอนได้ตามสะดวก แล้วแจ้งชื่อ/ที่อยู่ ในการจัดส่งไปที่คุณเพ็ชรฉลูกรรจ์ เพื่อดำเนินการจัดส่งให้แก่ผู้รับต่อไป
     
  20. นพครับผม

    นพครับผม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 เมษายน 2017
    โพสต์:
    49
    ค่าพลัง:
    +1,005
    เข้ามาอ่านเรื่องผงหลวงพ่อสัมฤทธิ์ ก้อยากจะนำเรื่องราวที่ผมประสบมาให้ท่านทั้งหลายได้ฟังกัน
    ผมเคยไปวัดเยื้อง ด้วยการชักนำของท่านพ่อตาผม ซึ่งอยู่อ่างทอง ท่านเล่าว่าคนแถวบ้านมาเล่าให้ฟังว่า มีวัดวัดนึงมีพระดี ให้ไปเที่ยวดูผมและครอบครัวก็ขับรถปิคอัพไปในสมัยนั้น ซึ่งเมื่อก่อนเป็นวัดเล็กๆไม่มีถาวรวัตถุอะไรมาก ผมได้ไปรู้จักท่านสมภารเจ้าวัดแห่งนี้ ตัวเล็กๆ ไม่เคยถามชื่อรู้แต่ว่าเป็นท่านสมภาร อยู่กับพระอีก1รูปในสมัยนั้น โดยส่วนตัวผมเป็นคนชอบทำบุญก็เลย บอกท่านว่า เดี๋ยวผมจะมาร่วมทำบุญ ผมกลับมาก็ตั้งใจหาปัจจัยไปร่วมทำบุญ โดยบอกบุญผ่านเพื่อนๆพี่ๆน้องๆ ในก๊วน ทำเป็นผ้าป่าสามัคคี และก่อได้พาคณะไปทอดผ้าป่า ได้เงินทำบุญมาร่วมๆ เจ็ดหมื่นกว่าบาท ท่านสมภารก็ได้แจกพระมาให้จำนวนหนึ่ง เป็นพระพิมพ์วัดไชโย
    ท่านก็เมตตาเล่าให้คณะผมฟังว่า
    ผงนี้เรียกว่าผง อิธิเจ เป็นของพระนารายณ์มหาราช หรือของหลวงพ่อสัมฤทธิ์ อะไรประมาณนี้แหละ แกเราให้ฟังว่า มีอยู่คืนนึง แกฝันเห็นพระมาบอกให้สร้างพระ แกบอกว่าแกสร้างไม่เป็นและไม่รู้จะสร้างแบบไหน พระในฝันก็บอกว่าให้สร้างแบบสมเด็จวัดเกศไชโย
    สรุปความว่า ท่านสมภารที่ว่านี้คือ หลวงตาเชื้อ ผมเพิ่งมารู้จักชื่อภายหลัง
    หลวงตาเชื้อแกเล่าสรรพคุณผงของแกให้ฟังว่า
    ผงนี้เคยเอาเข้าไปในวัง......ไปถอนคุณไสยให้กับใครไม่ทราบ.....จำไม่ได้
    และแกเล่าว่า....มีคนโดนปืนยัง ไม่เข้า มีตำรวจ ข้าราชการหลายคนได้เลื่อนยศเลื่อนตำแหน่ง เพราะพระที่แกสร้าง แกว่าอย่างนั้น
    ตานี้มาฟังประสบการณืของผมมั่ง นอกจากผมจะได้รับพระจากการทอดผ้าป่ามาเป็นจำนวน10-20องค์ ก้ไปแบ่งๆพวก แต่ผมเลยถามแกว่า หลวงพ่อ ผมอยากได้รุ่นแรกๆไม่มีหรือ ขอสักองค์ ในฐานะผมเป็นประธาน แกก็เลยขึ้นไปบนกุฏิชั้น2 ไปหยิบมาให้1องค์ องค์นี้แหละประสบการณ์เลยครับ เนื้อจะออกเหลืองๆหน่อย แกบอกว่า...แก่กล้วย มีกล้วยเยอะ ผมก็เอาไปเลี่ยมทองคล้องเดี่ยวเลย ที่นี้มาเรื่องที่เจอ หลวงตาเชื้อแกบอกว่า พระนี้ดีหลายอย่างเช่น ฟังให้ดีน๊ะครับ
    เลื่อนขั้น เลื่อนตำแหน่ง สอบบรรจุ คดีความ แคล้วคลาด เมตตา
     

แชร์หน้านี้

Loading...