วิชาแรง

ในห้อง 'สมเด็จโต พรหมรังสี' ตั้งกระทู้โดย pongio, 14 ธันวาคม 2014.

  1. pongio

    pongio เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2013
    โพสต์:
    843
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +6,852
    ทุกครั้งเมื่อจบคอร์สเตโชวิปัสสนากรรมฐาน อาจารย์จะย้ำอย่างหนักแน่นมั่นคงว่า ห้ามสอนวิชานี้แก่ผู้ใดเป็นอันขาด หากใครอยากเรียนให้มาเรียนเอง ต้องมีครูบาอาจารย์คุ้มครอง เพราะวิชานี้แรงมาก หากผู้ใดบารมีไม่ถึง แม้แค่ไปสอนกันเล่นๆ ชีวิตมีหวังพังกันไปเป็นแถบ เพราะเตโชนี่ คือวิชาเผากิเลสที่ทำให้อำนาจของอีกฝั่งพินาศ และพาคนให้เป็นไท จากวัฏสงสารอย่างรวดเร็ว เมื่อวิชาแรง ครูบาอาจารย์ก็ต้องมีบารมีและแกร่งมาก ต้องมีศรัทธาอันมั่นคงหนักแน่น และต้องได้รับแรงเกื้อหนุนจากพระรัตนตรัย เพราะลำพังบารมีตัวอย่างเดียว ไม่รอด
    ก่อนหน้าที่จะมีการสอนในคอร์สนี้ (23 มีนา) ก็มีกรณีการเขย่าศรัทธาจากการปั่นจิตของมาร ลวงกันชนิดต้องการหักล้างวิชาไปเลย ทำให้การขอรับเตโชวิปัสสนากรรมฐานของคอร์สนี้ เกิดพลังเตโชธาตุมหาศาลอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน ด้วยพลานุภาพแห่งพระรัตนตรัยและพ่อแม่ครูบาอาจารย์ที่แผ่พลังมาให้มากมายมหาศาล และเมื่อสิ้นคำนำอาราธนารับกรรมฐาน มารก็เข้ามาในจิตอาจารย์อย่างอุกอาจว่า ”กูบอกแล้วไงว่าไม่ให้มึงสอน”
    การมาปรากฏอย่างโกรธเกรี้ยวในนาทีแห่งการรับกรรมฐานเช่นนี้ ย่อมแจ้งแก่ใจว่า เขาแรงจริงๆ
    จะปล่อยให้สอนได้ยังไง เพราะยิ่งสอน กำลังของอีกฝั่งยิ่งอ่อนแรง พระศาสนาจะเพิ่มพูนไปด้วยผู้มีศรัทธาอันมั่นคงที่จะมาช่วยกันยกพระศาสนา เมื่ออานุภาพสูงขนาดนี้ แรงต้านย่อมสูงตาม กิเลสมารจึงต้องออกแรงขวางทุกวิถีทาง ไม่ได้ด้วยเล่ห์ ก็ต้องเอาด้วยกล หลอกล่อสิงจิตชนิดมึนกันไปเลย แต่เมื่อส่งแรงต้านมาเท่าไหร่ แรงตกกระทบก็ย่อมแรงตามไปด้วย ด้วยอานุภาพแห่งธรรมที่แผ่ไพศาลมาปานนั้น ทำให้เพียงวันที่สาม มีศิษย์สองคนสามารถขึ้นสู่บันใดขั้นที่สองได้
    เมื่อจบการสอนในวัน อาจารย์เดินออกมาพร้อมด้วยกระแสอนุโมทนาสาธุการ จิตที่คงมั่นและสงบนิ่งยังคงเพียรทำหน้าที่ต่อไป พร้อมด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิ คุณของพระพุทธองค์และพระอาจารย์สมเด็จพุฒาจารย์โต พรหมรังสี ท่านท้าวมหาพรหมชินะปัญชระและพ่อแม่ครูบอาจารย์ที่เมตตาผสานพลังส่งเตโชธาตุหวั่นไหวไปทั่วปฐพี
    เตโชวิปัสสนา ลัด ตรงและแรงอย่างไร คงต้องให้ผู้อ่านๆ ประสบการณ์ของศิษย์ฉบับย่อของคุณบาลาซาน นวรัตน์ ผู้มีญานอันน่าอัศจรรย์ อันเป็นผลมาจากการได้เกิดใกล้ชิดในภพสมัยของพระพุทธเจ้า และได้รับกระแสเมตตาจากพระรัตนตรัยในมิติทางจิต
    ลำพังคนธรรมดาจะได้ฝันเห็นพระพุทธเจ้าหรือพระอรหันต์เจ้าก็ยากเย็นแสนเข็ญ แต่นี้ได้รับการชี้ทางมากมาย นำว่าเป็นผู้มีบุญเก่าที่ไม่ธรรมดาทีเดียว
    …….ข้าพเจ้าเป็นคนที่มีความทุกข์ความเศ้าโศกภายในใจที่ไม่เคยมีใครทราบ ว่าทุกข์และเศร้าโศกหนักมากตอนที่อยู่ high school อยู่โรงเรียนประจำนั้น ข้าพเจ้าจะสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายแทบทุกคืน ตื่นมาก็ร้องไห้หนักมากในปัญหาที่ข้าพเจ้ามองไม่เห็นประตูทางออก ไม่มีหวัง และไม่มีความสุขเลยจริงๆ เรื่องทุกข์ของข้าพเจ้านั้น มันยาวนานหลายปีเป็นทุกข์ทางจิตใจ จนข้าพเจ้าคิดที่จะฆ่าตัวตาย แต่ทุกครั้งที่ข้าพเจ้าเจอทุกข์ขั้นหนัก ข้าพเจ้าจะฝันถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมาปลอบและบอกทางแก้ ทางออกกับปัญหาที่ข้าพเจ้าเจออยู่ทุกครั้ง ข้าพเจ้าเชื่อว่าพระองค์คือพระโพธิสัตว์
    คืนหนึ่งขณะที่ข้าพเจ้าเจอความกดดันหนักมากจึงตั้งใจจะฆ่าตัวตายอีก ข้าพเจ้าคิดว่าถ้าข้าพเจ้าตาย คนที่สร้างทุกข์ให้ข้าพเจ้าจะต้องสำนึก ด้วยความโง่เขา ความไม่ปัญญาและความไม่รู้ของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าไม่รู่เลยว่า การฆ่าตัวตายนั้นเป็นบาปอย่างยิ่ง จะต้องตกนรกนานแสนนาน ตอนนั้นข้าพเจ้าคิดแต่เพียงว่า ตายก็จบ ตายก็สูญ ไม่ก็ไปเกิดใหม่เท่านั้นเอง…..
    วันที่ข้าพเจ้าวางแผนตัดสินใจจะตายอย่างแน่นอนนั้น ข้าพเจ้าฝันเห็นองค์พระสมณะโคดม พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันมาบอกข้าพเจ้าสั้นๆว่าให้สวดมนต์ นั่งสมาธิ ข้าพเจ้าก็ไม่ได้ฆ่าตัวตาย แต่ก็ไม่ได้สวดมนต์ นั่งสมาธิ ด้วยความโง่ ไม่รู้ว่าพระพุทธองค์มาชี้ทางออกจากทุกข์ทั้งปวงให้ ตอนนั้นข้าพเจ้าเป็นพุทธตามใบทะเบียนบ้านเท่านั้น เป็นแค่ในนาม ข้าพเจ้ารู้แต่เพียงว่าคนส่วนมากไปวัดในวันเกิด ไปเวลามีทุกข์ไม่ก็เวลาเจอผี หรือกลัวผีให้ไปวัด ข้าพเจ้าพอจะทำเป็นก็แต่ทำทาน นิพพานไม่ต้องพูดถึง ไม่เข้าใจ ไม่รู้จัก
    จุดเปลี่ยนที่ทำให้ข้าพเจ้าเริ่มสนใจในทางธรรมก็คือ วันที่ข้าพเจ้าไปนอนค้างที่คอนโดของเพื่อนข้าพเจ้า ซึ่งวันนั้นตรงกับวันที่มีเวียนเทียนข้าพเจ้าก็ไม่ได้อยากไปเลย แต่ไปเพราะเกรงใจคุณป้าของเพื่อน แต่เมื่อไปถึงวัด ทันทีเท้าของข้าพเจ้าสัมผัสพื้นพระอุโบสถ ข้าพเจ้ารู้สึกมีความสุขเหลือเกินรู้สึกมีความสุขอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ข้าพเจ้าจำความรู้สึกในวันนั้นไม่เคยลืม และรู้สึกเย็นไปถึงข้างใน ซึ่งก็คือใจของข้าพเจ้า ข้าพเจ้ารู้สึกเหมือนกับว่านี่คือสิ่งที่ข้าพเจ้าโหยหามาตลอด และจุดเปลี่ยนสำคัญต่อมาก็คือ คุณป้าพูดกับเพื่อนของของข้าพเจ้าว่า ชาติที่แล้วหนูคงทำบุญมามาก ชาตินี้หนูจึงมีความสุขข้าพเจ้าเข้าใจในสัจธรรมข้อนี้ขึ้นภายในใจเลยว่า ชาติที่แล้วข้าเจ้าคงทำบาปมามาก ข้าพเจ้าจึงมีแต่ความทุกข์
    แต่ข้าพเจ้าก็ยังไม่ได้สวดมนต์ นั่งสมาธิอยู่ดี จนข้าพเจ้าเรียนจบมัธยมจึงสวดมนต์ทุกคืน ครั้งละไม่ตำ่กว่าสามชั่วโมงสวดทุกบท ทุกหน้า บางวันก็บวกพระคาถาชินบัญชรเข้าไปอีก 108 จบ เพราะข้าพเจ้าอยากพ้นทุกข์ อยากไปนิพพาน แต่ข้าพเจ้าก็นั่งสมาธิไม่เป็นอยู่ดี
    ทุกครั้งที่ข้าพเจ้าสวดมนต์ ข้าพเจ้าจะอธิษฐานอยู่สามข้อคือ 1.ขอให้สินปีนั้น(สิ้นปี 2553 เพื่อข้ามไปปี พ.ศ.2554)ขอให้ข้าพเจ้าได้ไปบวช 2.ขอให้ได้บวชกับพระอรหันต์ และ 3.ขอให้ได้มีโอกาสกราบเท้าพระระอรหันต์และทำบุญกับพระอรหันต์ ซึ่งข้าพเจ้าได้ครบทั้งสามข้อ ข้าพเจ้าไม่ทราบหรอกว่าท่านเป็นพระอรหันต์จริงไหม เพราะข้าพเจ้าเป็นปุถุชนกิเลสหนา ไม่มีญาณรู้อะไร แต่จริยวัตรท่านงดงาม และท่านมักมาสอนธรรมข้าพเจ้าผ่านฝัน รวมทั้งแก้ปัญหาในชีวิตเวลาที่ข้าพเจ้าประสบพบเจอ
    ทุกครั้งที่ข้าพเจ้าฝันถึงท่าน เรื่องที่ท่านสอนและเรื่องที่คุย ไม่มีเรื่องบังเอิญ เป็นสิ่งที่ข้าพเจ้าอยากเรียนถามท่านทั้งนั้น และปฎิหารย์อีกมากมายที่เกิดขึ้้น เล่าไม่หมด ข้าพเจ้าเป็นเพียงลูกศิษย์ธรรมดา ไปบวชด้วยเพียงครั้งเดียวและเคารพท่านอย่างที่สุด เมื่อเป็นลูกศิษย์ ท่านก็ไม่เคยทิ้งตามดูแลตลอด
    ที่จริงข้าพเจ้าตั้งใจจะไปบวชที่วัดป่าบ้านตาด แต่ไม่มีคนว่างไปส่งข้าพเจ้า เพราะไกลมาก ข้าพเจ้าจึงปวารณาขอเป็นลูกศิษย์ท่านผ่านรูปท่านหลวงตาที่ข้าพเจ้าปริ้นใส่กระดาษ A4 ข้าพเจ้าตั้งใจจะไปกราบองค์จริงท่านที่วัดป่าบ้านตาดในเดือนเมษยน พ.ศ.2554 แต่ท่านละสังขารไปก่อน
    เมื่อทราบข่าวข้าพเจ้าดีใจที่ท่านได้พักผ่อนเสียที เพราะข้าพเจ้ารู้ว่าท่านไปไหน และที่ดินแดนนิพพานนั้นมีแต่ความสุข แต่ข้าพเจ้าร้องไห้เสียใจที่ตนไม่มีวาสนาจะได้พบท่าน คืนนั้นจึงสวดมนต์ นั่งสมาธิถวายท่าน แล้วข้าพเจ้าก็ฝันว่าท่านหลวงตามหาบัวและพระอีกประมาณ 5-6 รูปมาที่บ้านข้าพเจ้า ท่านหลวงตามหาบัวเข้าไปกราบสมเด็จองค์ปฐมธาตุนั่นเอง แล้วท่านหลวงตามหาบัวก็ให้เทวดาประจำตัวท่านอยู่ที่บ้านข้าพเจ้า คอยเฝ้าพระธาตุของสมเด็จองค์ปฐมอยู่ที่หน้าประตูห้องนั่น เทวดาประจำตัวของท่านหลวงตามหาบัว นั้นตัวสูงทะลุหลังคาบ้านของข้าพเจ้า ท่านตัวสูงใหญ่มาก สวมชฎา แต่งชุดไทยแบบที่เราเห็นตามภาพวาดผนังโบสถ์ ข้าพเจ้าเข้าใจได้เลยว่าบุญของท่านหลวงตา มหาบัวนั้นมหาศาล
    ตลอดเวลาที่คุยกับท่านในฝันนั้น ข้าพเจ้าจะนั่งพนมมือ และเมื่อท่านจะกลับ ข้าพเจ้าก็นั่งพนมมือส่งท่านที่หน้าบ้าน ลือลาการเดินของท่านนั้นงดงามมาก ท่านเดินเท้าเปล่าสะพายบาตร เมื่อท่านเดินไปได้นิดนึง ท่านก้อกันกลับมาบอกข้าพเจ้าว่า ที่มาเนี่ยพระอรหันต์หมดนะ ข้าพเจ้าก็สะดุ้งตื่นและปวรานาตัวเป็นลูกศิษย์ของหลวงตา ทำอะไรก็จะคิดถึงท่าน
    ตอนที่ข้าพเจ้าสวดพระคาถาชินบัญชรครบ 9 จบครั้งแรกในชีวิตนั้น ท่านสมเด็จพุฒาจารย์โต ก็มาโปรดและสั่งสอนธรรมให้กับข้าพเจ้าผ่านความฝัน ทำให้ช่วงนั้นชีวิตข้าพเจ้าสดใสมาก ข้าพเจ้าไม่เสียใจที่มนุษย์หลายคนไม่รักและกลั่นแกล้ง เพราะข้าพเจ้าเมื่อนอนทีไร ข้าพเจ้าก็เหมือนเข้าสู่โลกอีกใบ ที่มีครูบาอาจารย์รักและเมตตาข้าพเจ้า เพราะแม้เรื่องในชีวิตประจำวันทั่วไป ท่านก็บอกทางออก ให้กับข้าพเจ้าทุกเรื่อง และข้าพเจ้าฝันถึงท่านสมเด็จพุฒาจารย์บ่อยมากในช่วงนั้น
    ข้าพเจ้านึกสงสัยว่าข้าพเจ้าสวดมนต์เยอะ เลยฝันถึงท่านหรือเปล่า จึงพูดว่า หนูไม่เชื่อหรอกว่าท่านมเด็จพุฒาจารย์มาจริงๆในฝัน เพราะมันเป็นเพียงความฝัน ถ้าหากเห็นตัวจริง ถึงจะเชื่อ ทันใดนั้น ขณะที่ข้าพเจ้านอนอยู่บนเตียง ก็เห็นท่านสมเด็จโตลอยมาเท่าองค์จริง เท่ามนุษย์ทั่วไป ในท่านั่งสมาธิ ลอยอยู่เหนือข้าพเจ้า ข้าพเจ้าก็ตกใจ คิดว่าฝัน จึงเอามือหยิกแขนตัวเอง และหลับตาแล้วลืมตาอยู่อย่างนั้น ท่านก็อยู่ที่เดิม แต่ท่านไม่ให้พูดหรือถามอะไรท่าน ก็ข้าพเจ้าบอกแค่ว่าเห็น ก็แต่เพียงเห็น
    และแม้วันที่ข้าพเจ้าป่วยหนัก ไม่มีใครทราบว่าข้าพเจ้าป่วยหนัก เพราะข้าพเจ้าไม่ได้ออกไปไหนและบอกใคร ข้าพเจ้ากินข้าวไม่ได้ กินอะไรเคี้ยวๆไม่ได้เป็นอาทิตย์ ดื่มได้แค่น้ำๆ ปวดท้องแทบขาดใจ ข้าพเจ้าก็ฝันถึงพระสมณะโคดม มาโปรดและตรัสให้ข้าพเจ้ากินข้าว เพราะหากดำรงขันธ์ 5 ไว้ไม่ได้ ก็จะปฎิบัติธรรมไม่ได้ ก็จะตาย ก็ไม่ได้ไปนิพพาน ท่านเมตตาตรัสข้าพเจ้าว่า ตอนที่เราบำเพ็ญทุกข์กิริยาโดยการอดอาหาร ถ้าหากเทวดาไม่ช่วยเรา เราก็คงตายและไม่ได้เป็นพระพุทธเจ้า และท่านก็ให้ข้าพเจ้าเห็นภาพขณะที่ท่านบำเพ็ญทุกริยาโดยการอดอาหาร จนเนื้อหนังหุ้มกระดูก ข้าพเจ้าพูดถามพระองค์ด้วยความสงสัยว่า แต่ท่านได้รับคำทำนายแล้ว ว่าท่านจะได้เป็นพระพุทธเจ้า ต่อให้ท่านไม่กินอะไรเลย ยังงัยพระองค์ก็จะได้เป็นพระพุทธเจ้า ทรงตรัสว่าข้าพเจ้าว่าไม่กินอะไรเลย ก็ตายสิ และพระองค์ก็สอนอะไรข้าพเจ้าหลายอย่าง ซึ่งเมื่อตื่นจากฝัน ทั้งๆที่ข้าพเจ้าเคียวและกลืนอะไรไม่ลงมาเป็นอาทิตย์ ข้าพเจ้ากลับกินข้าวได้ปรกติ
    เมื่อข้าพเจ้านอนหลับก็ได้ฝันถึงอดีตชาติที่ข้าพเจ้าได้เกิดมาเป็นผู้ใกล้ชิดพระพุทธองค์ แต่ในฝันแม้เป็นผู้ไกล้ชิดมาหลายภพชาติ ข้าพเจ้าก็ไม่สามารถไปนิพพานได้เลย
    ข้าพเจ้ามาทราบตอนที่ก่อนที่จะมาเตโชวิปัสสนาครั้งแรกนั้น ก่อนเดินทาง ข้าพเจ้าฝันถึงท่านหลวงตามหาบัว และพระประมาณ20-30รูป ข้าพเจ้ารู้จักแค่ท่านหลวงตามหาบัวและท่านหลวงพ่อถาวร วัดปทุมวนารามซึ่งเคยมาโปรดสอนสมาธิในฝันข้าพเจ้าหลายครั้งเช่นกัน ท่านหลวงตามหาบัวและพระหลายสิบรูปนั้น มาอวยพรในการไปเข้าคอร์ส เตโชวิปัสสนาให้กับข้าพเจ้า และท่านหลวงตามหาบัวบอกข้าพเจ้าว่า ข้าพเจ้านิพพานไม่ได้ เพราะข้าพเจ้าปรามาสพระอรหันต์ทั้งที่ตั้งใจและไม่ได้ตั้งใจ ข้าพเจ้าตอบท่านว่า ข้าพเจ้าไม่เคย ท่านบอกว่า ตั้งแต่อดีตชาติจนถึงปัจจุบันชาติ ข้าพเจ้าจำไม่ได้ แต่กฎแห่งกรรมไม่ลืมประมาณนั้น ท่านจึงพาพระทั้งหมดที่ข้าพเจ้าเคยปรามาสมาให้ข้าพเจ้าขอขมา แล้วทุกองค์ก็เปิดฝาบาตรให้ข้าพเจ้าทำบุญด้วย เงินที่ข้าพเจ้ากำลังจะนำถวายลงในบาตรนั้น เป็นเงินที่ข้าพเจ้าวางไว้ข้างหมอนข้าพเจ้านั่นเอง
    และก่อนถึงเตโช ท่านอาจารย์อัจฉราวดี ก็มารับข้าพเจ้าในฝัน และบอกข้าพเจ้าว่า มาไปกับอาจารย์ และเมื่อจบคอร์สท่านก็เมตตามาสอบสมาธิ มาสอนข้าพเจ้าในฝันเสมอ นับครั้งไม่ถ้วน
    พ่อแม่ครูบาอาจารย์ต่างมายืนยันในวิชาเตโชวิปัสสนาให้กับข้าพเจ้าว่าเป็นวิชาลัดตัดตรงสู่นิพพาน พร้อมทั้งอวยพรให้กับข้าพเจ้า
    และเมื่อกลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ข้าพเจ้าก็ฝันว่า ท่านหลวงตามหาบัวพาข้าพเจ้าไปที่คลองแห่งหนึ่ง ท่านบอกข้าพเจ้าว่าทุกคนต้องผ่านห่วงแห่งนี้ ข้าพเจ้าก็งงว่า ห้วงอะไร ท่านเมตตาตอบว่า คลองแห่งนี้ไง ข้าพเจ้าเห็นคนมากมายบ้างหน้าสดใส บ้างหม่นหมอง ซึ่งส่วนมากหม่นหมอง ต่อคิวผ่านคลองนั่น บ้างก็ผ่านอย่างง่ายดายยังกะปุ่ยนุ่น(ท่านให้ข้าพเจ้ารับรู้กับความรู้สึกด้วยว่ารู้สึกอย่างไร) บางคนก็ถูกดูดลงไปข้างล่าง ข้าพเจ้าหดหู่มาก และคิดว่าตายแน่ ข้าพเจ้าว่ายน้ำไม่เป็น ท่านหลวงตาเมตตาบอกข้าพเจ้าว่า ข้ามได้ไม่ได้ ขึ้นอยู่กับบุญและบาปที่ทำมา เพราะฉะนั้นเมื่อมีชีวิตอยู่ให้วิปัสสนา เมื่อถึงเวลาจะรู้เองว่าวิปัสสนาช่วยได้ยังงัย
    แล้วท่านก็แสดงลีลาธรรม เดินอย่างคล่องแคล่วและงดงาม เทศน์และทำให้น้ำในคลองหายไป ท่านเมตตาบอกว่าเมื่อมีชิวิตอยุ่ให้ทำบุญ และไม่ใช่แค่ทำทาน ต้องวิปัสสนา แต่ก็ต้องไม่ลืมทานและศีลอันเป็นฐาน และหลวงตาไม่ได้ให้ใช้ชีวิตอย่างเคร่งเครียด อยากสนุกทางโลกได้ แต่ต้องไม่ทิ้งทางธรรม และท่านบอกข้าพเจ้าว่า ที่หลวงตาสอนเนี่ย ให้ไปบอกคนอื่นเขาด้วย และไปที่นั่น(ท่านชี้มือไปที่เรือนปฎิบัติที่เตโชสถาน อำภอแก่งคอย)อีกคอร์สหน้า ให้นั่งจนหมดลมหายใจ ไม่ต้องลุกหรอก ให้ตายในท่าวิปัสสนา จำไว้ไปที่นั่นอีก ไปหมดลมหายใจที่นั่นให้ได้ แล้วข้าพเจ้าก็สะดุ้งตื่นตอนตี 3
    ไม่เพียงแต่ท่านหลวงตามหาบัว แต่พ่อแม่ครูบาอาจารย์ก็มายืนยันกับข้าพเจ้าในฝันถึงวิชาเตโชวิปัสสนาว่า เป็นวิชาลัดตัดตรงเข้าสู่นิพพาน และท่านอาจารย์นั้นเป็นใคร ท่านก็ยืนยัน ข้าพเจ้าขอให้ทุกท่านมั่นในทาง และลองนั่งจนหมดลมหายใจดูครูบาจารย์ยืนยันกับข้าพเจ้าแล้วว่า ไม่มีใครตายจากการนั่งสมาธิ จงอย่ากลัว
    วิชานี้น่ากลัวถึงกับพญามารมาชวนข้าพเจ้าไปเป็นสาวกในฝัน พร้อมข้อเสนอ ข้อแลกเปลี่ยนที่น่ายัวยวนกิเลสนัก แต่ข้าพเจ้าต้องไปเป็นสาวกของพญมาร ไม่ใช่พระสมณะโคดม ในฝันข้าพเจ้ากำลังจะรับ พ่อแม่ครูบาอาจารย์ไปช่วยข้าพเจ้าไว้ทัน
    ขอให้ทุกท่านเชื่อในวิชาที่พ่อแม่ครูบาอาจารย์ยืนยันเถิดว่าคือทางลัดจริง และอย่าปรามาสพระอริยะอันจะติดกรรมหนักขวางนิพพาน และเมื่อปวรณาตัวแล้ว เชื่อเถอะ ครูบาอาจารย์ไม่เคยทิ้งท่าน หลวงตามหาบัวย้ำแล้วย้ำอีกให้ข้าพเจ้าบอกคนอื่นว่า ให้ไปหมดลมหายใจที่นั่น…เรือนปฎิบัติที่เตโช
    ……………..
    อาจารย์กำหนดปีหมดลมหายใจที่นี่ไว้แล้ว แต่ในวันที่ยังอยู่ ขอใช้ลมหายใจที่มี เพื่อการส่งศิษย์ขึ้นสู่ทางนิพพาน และเพื่อช่วยยกพระศาสนาให้เข้มแข็ง วิชาแรง ย่อมเหมาะกับผู้มีจิตหนักแน่นเข้มแข็ง ผู้พร้อมที่จะตาย มีจุดหมายแน่วแน่แห่งการมีชีวิตอยู่ เพื่อธรรม มิใช่เพื่อรับใช้กิเลส



    อัจฉราวดี วงศ์สกล
    26 มีนาคม 2557
     
  2. น้องใหม่ 2008

    น้องใหม่ 2008 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2014
    โพสต์:
    690
    ค่าพลัง:
    +1,906
    ผมจะไม่ทิ้ง ทาน ศีล ภาวนาครับ ถึงจะไปไม่ถึงนิพพาน
     
  3. suja

    suja เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มกราคม 2006
    โพสต์:
    15
    ค่าพลัง:
    +129
    เรียนท่านเจ้าของกระทู้ครับ พอจะแนะนำได้ไหมครับว่ามีการเปิดสอนที่ไหน เมื่อไรครับ
    อนุโนทนาบุญด้วยครับที่นำประสพการณ์มาเล่าสู่กันฟัง
     
  4. pongio

    pongio เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2013
    โพสต์:
    843
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +6,852
    ประวัติ

    อาจารย์อัจฉราวดี วงศ์สกล (Acharawadee Wongsakon) ลูกศิษย์ตัวน้อยๆ มักเรียกว่า “ครูอ้อย” สำเร็จการศึกษาปริญญาตรีด้านบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยศรีปทุม มีประสบการณ์ทำงานกับหลายบริษัทในธุรกิจสื่อสารมวลชน จนในที่สุดได้ประกอบกิจการ เป็นเจ้าของ ร้าน St.Tropez Diamond (แซงต์โทรแป ไดมอนด์) ผู้เชี่ยวชาญในวงการเพชรมากว่า 20 ปี ซึ่งเป็นที่รู้กันว่าทุกครั้งที่มีการดีไซน์เครื่องเพชร และทำแฟชั่นโชว์ขึ้นมานั้น ล้วนเป็นงานที่มีความพิเศษ ไม่ธรรมดา แต่จิตที่ใฝ่ธรรมจึงเริ่มต้นปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานโดยเป็นศิษย์ท่านอาจารย์โกเอนก้าในปี 2000 เป็นการออกเดินสู่เส้นทางธรรมเป็นครั้งแรกควบคู่กับการเติบโตในวงการธุรกิจเครื่องประดับอย่างก้าวกระโดด ถนนสองสายวิ่งคู่ขนานไป ในขณะที่ยังประกอบธุรกิจอยู่ ก็ได้นำประสบการณ์ชีวิตทั้งทางโลกและทางธรรมมาสอนธรรมะให้กับเยาวชนที่โรงเรียนแห่งชีวิต ซึ่งได้รับความสนใจและประสบความสำเร็จอย่างมากจนเป็นที่กล่าวขานถึงในวงสังคมโดยกว้างและจากสื่อมวลชน ที่ติดตามทำข่าวท่านเสมอ อาทิ รายการเจาะใจ รายการสุริวิภา จนถึงจุดที่ตัดสินใจเลือกทางเดินชีวิต เพราะท่านเห็นแล้วว่า ชีวิตทางโลกียะไม่ใช่ความสุขอย่างแท้จริง จึงได้จัดงานอำลาวงการธุรกิจในชื่องานว่า Memoris of a Million Stars ซึ่งเป็นงานครั้งสำคัญที่อยู่ในความทรงจำของผู้คนในวงการนี้

    ด้วยความที่เป็นนักออกแบบที่มีความเชี่ยวชาญ ที่ใส่ใจรายละเอียดทุกอย่าง ท่านจึงเป็นนักธุรกิจเครื่องประดับที่ประสบความสำเร็จและมีชื่อเสียงของสังคมอย่างยิ่ง ได้รับรางวัลนักธุรกิจยอดเยี่ยม Boss of the The Year ได้รับเกียรติคุณคนดี รางวัลผู้หญิงคิดบวก และได้รับรางวัลอีกมาก ประกาศอำลาชีวิตทางธุรกิจ เพื่อสอนธรรมะ เต็มตัวในปี พ.ศ. 2552

    ท่านเป็นผู้ก่อตั้งมูลนิธิโรงเรียนแห่งชีวิต และองค์กรโนอิ้ง บุดด้า (Knowing Buddha) เพื่อการปกป้องพระพุทธศาสนา โรงเรียนแห่งชีวิตประสบความสำเร็จมาก และได้รับการยกย่องเป็น 1 ใน 5 โรงเรียนธรรมะชั้นนำจากนิตยสารในเครืออมรินทร์ อีกทั้งท่านยังเป็นผู้ก่อตั้งสถานปฏิบัติธรรมเตโชวิปัสสนากรรมฐาน อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี มุ่งทุ่มเทอุทิศแรงกายแรงใจ ทำงานเพื่อพระพุทธศาสนาในการกระตุ้นจิตสำนึกชาวพุทธให้ตระหนักถึงหน้าที่ และทำในสิ่งที่พึงกระทำเพื่อปกป้องพระเกียรติพระศาสดา และพระพุทธศาสนาจากการลบหลู่ย่ำยีจากผู้ที่ไม่เข้าใจ

    ปัจจุบันสอนธรรมะที่โรงเรียนแห่งชีวิต, ประธานองค์กรโนอิ้ง บุดด้า เพื่อการปกป้องพระพุทธศาสนา และบรรยายธรรมนอกสถานที่ตามควร

    หน้าที่ที่ตั้งใจคือการมุ่งทำงานปกป้องพระเกียรติพระศาสดา และทำนุบำรุงพระศาสนาด้วยการสอนธรรม ให้ผู้คนได้เข้าถึงธรรมที่แท้จริง

    ผลงานในอดีต:
    • เคยเป็นนักออกแบบ, นักธุรกิจเครื่องประดับ และเจ้าของธุรกิจเซนต์โทรเพร์ ไดมอนด์ ที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก และมีชื่อเสียงของสังคม
    • ได้รับรางวัล Boss of the The Year สาขาธุรกิจเครื่องประดับ ปี 2548
    • ได้รับรางวัลนักธุรกิจยอดเยี่ยม, เกียรติคุณคนดี, และได้รับเลือกเป็นบุคคลชั้นนำ หนึ่งใน 500 คนจากนิตยสาร ไทยแลนด์แท๊ตเลอร์ 5 ปีต่อเนื่อง
    • ได้รับรางวัล ผู้หญิงคิดบวก "Positive Thinking Award" ปี 2551
    • ประกาศอำลาชีวิตทางธุรกิจ เพื่อสอนธรรมะ เต็มตัวในปี พ.ศ. 2552



    ผู้ที่ไม่ยอมแพ้ต่อชะตากรรม เพื่อนโกงเงินไป 1 ล้าน แถมยังโดนลูกค้าโกงทางอินเตอร์เน็ต แต่เธอผู้นี้ก็สามารถใช้หลักธรรมในการแก้ปัญหาต่างๆที่เข้ามาทดสอบความเป็นมนุษย์และยังคิดว่าส่ิงที่เกิดเป็นกรรมที่จะช้าหรือเร็วเราก็ต้องชดใช้…

    ชื่อ : นาง อัจฉราวดี วงศ์สกล

    ชื่อเล่น : อ้อย

    ฉายา : เจ้าแม่ เซ็นต์ โทเพต์ ไดมอนด์

    วันเกิด : วันที่ 28 กันยายน 2508

    ครอบครัว : ชื่อคู่สมรส นายแดเนียล นามสกุลเดิมของคู่สมรส ทาบุช
    สามีคนแรก (หย่า) มีธิดา 2 คน
    ชื่อธิดา 1. ด.ญ.ไข่ตุ๋น (เสียชีวิต อายุ 4 เดือน)
    2. น.ส.อาภาณี วงศ์สกล ชื่อเล่นว่า นิว (เกิดปี 2533)

    สามีคนใหม่ ชื่อ นายแดเนียล ทาบุช มีธิดา 2 คน
    ชื่อธิดา 1. ด.ญ.ทาเทียน่า ทาบุช มีชื่อเล่นว่า น้องส้มจีน หรือ แทต (เกิดปี 2544)
    2. ด.ญ.นาตาชา ทาบุช (เกิดปี 2547)

    การศึกษา : -ประกาศนียบัตรวิชาชีพโรงเรียนพาณิชยการสันติราษฎร์
    -ปริญญาตรี ด้านการตลาด มหาวิทยาลัยศรีปทุม
    -เรียนการกำกับภาพยนตร์ สถาบัน New York film Academy ประเทศสหรัฐอเมริกา

    การทำงาน และตำแหน่งหน้าที่ :-ฝ่ายโปรโมชั่น บริษัท ซีบีเอส เรคคอร์ด
    -คอลัมนิสต์เขียนวิจารณ์เพลงและสกู๊ป แนะนำศิลปินหน้าใหม่จากต่างประเทศ ลงในหนังสือ ไอ.เอส.ซองฮิต
    -สไตลิสต์
    -ฝ่ายโฆษณานิตยสารอินเวสเตอร์ (ลาออก)
    - เจ้าของบริษัทโปรดักชั่น รับทำโฆษณาและสิ่งพิมพ์
    -เจ้าของบริษัท Medelin Jewelry
    -2543 เจ้าของบริษัท St.Tropez Diamond (แซงต์โทรแป ไดมอนด์)
    -เจ้าของบริษัทอันดามันฟิล์ม
    -เจ้าของร้านเพชรเซนต์โทรเพร์

    ตารางการอบรมเตโชวิปัสสนากรรมฐาน ประจำปี 2558
    คอร์สที่ เดือน ระหว่างวันที่ หมายเหตุ
    1 มกราคม อา. 11 ม.ค. อา. 18 ม.ค.
    2 กุมภาพันธ์ อา. 1 ก.พ. ส. 7 ก.พ. (เฉพาะศิษย์เก่า)
    3 มีนาคม อา. 1 มี.ค. อา. 8 มี.ค.
    4 มีนาคม อา. 22 มี.ค. ส. 28 มี.ค. (เฉพาะศิษย์เก่า)
    5 เมษายน อา.26 เม.ย. อา. 3 พ.ค.
    6 พฤษภาคม อา. 17 พ.ค. ส. 23 พ.ค. (เฉพาะศิษย์เก่า)
    7 มิถุนายน อา. 14 มิ.ย. อา. 21 มิ.ย.


    สนใจสามารถดูรายละเอียดที่ web ด้านล่างนี้
    Techovipassana : เตโชวิปัสสนา
     
  5. spharm

    spharm เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    133
    ค่าพลัง:
    +389

แชร์หน้านี้

Loading...