ท้าดวลวิชาทำอาหารในระบบวิกี

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย piakgear24, 31 กรกฎาคม 2007.

  1. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    สูตรผมจะมี

    1. ข้าวโพดดิบ (ฝานเอาแต่เมล็ด) และต้องเป็นข้าวโพดหวานด้วยนา..
    2. หอมแดงสับหยาบ
    3. กระเทียมสับหยาบ
    4. Celery (คล้ายๆคื่นช่ายนี่แหละ แต่ลำต้นใหญ่กว่ามากกก)
    5. น้ำซุป (หรือน้ำเปล่า แต่ใส่คะนอร์ก้อนก็ได้)
    6. เกลือป่นนิดหน่อย
    7. เนยแข็งชนิดเค็ม
    8. วิปปิ้งครีม

    (ขออภัยที่จำตัวเลขไม่ได้นะครับ
    แต่ถ้าให้ทำก็คงพอจะระลึกชาติได้บ้างอยู่มั๊ง)

    วิธีทำ

    ก็คล้ายๆกับข้างบนครับ
    1. ใส่เนย ผัดกับกระเทียมและหอมแดงบดให้หอม
    2. ใส่เมล็ดข้าวโพดดิบ ผัดให้สุก ไม่นานหรอก
    3. เติมน้ำซุป + เกลือป่น + Celery
    4. ยกลง เอามาปั่นกับวิปปิ้งครีม พอละเอียด
    กรองเอาแต่ส่วนที่ละเอียด กากหยาบๆก็ทิ้งไป (เสีย Yield เน๊าะ
    แต่ก็กินง่ายดี เนื้อซุปจะเนียน และหอมมากๆ ขอบอก
    ถ้าได้ชิมแล้ว จะหาว่าไม่เตือน..อร่อยมากกกกกกกกกกก)

    หุ หุ หุ

    (evil)
     
  2. piakgear24

    piakgear24 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    2,696
    ค่าพลัง:
    +44,505
    อ่าวคุณตู๋ไม่อยู่ด้วยดิ ไม่มาดวลกับคุณยุตหน่อยละ เจ้าตัวหายหน้าไปจากวงการเวบ ไม่ค่อยมาเลย
     
  3. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    อ่า...ถึงไหนกันแล้วนี่

    มาว่าเรื่องอาหารอย่างเป็นงานเป็นการกันดีกว่าเน๊าะ
    แต่ก่อนอื่นขอโฆษณาสักเล็กน้อยก่อนนะครับ

    หุ หุ หุ..

    ความจริงผมหนะ เป็น Food Technologist โดยตรง
    เพราะเรียนมาทางด้านนี้ จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น
    และก็ได้คลุกคลีทำงานอยู่ในวงการอาหารต่างๆมา 12 ปีแล้ว
    ไม่ว่าจะเป็น
    - ทางด้านวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารพวก Dimsum แช่แข็ง (ติมซัม) ขนมจีบ ซาลาเปา ฮะเก๋า ปอเปี๊ยะ อะไรทำนองนี้
    - วิจัยและพัฒนาพวกน้ำผลไม้กระป๋อง ก็ด้วย
    - เคยอยู่ฝ่ายควบคุมคุณภาพโรงงานผลิตอาหารปลาทูน่ากระป๋อง,ข้าวโพดฝักออ่น-ข้าวโพดหวานบรรจุกระป๋อง, และโรงงานอาหารทะเลแช่แข็ง ด้วย
    - ตอนนี้ก็อยู่โรงงานผลิตอาหารสำเร็จรูป (Ready meal) เช่น พวกข้าวกล่องต่างๆ แช่แข็งอยู่..

    ..ยาวไปไหมเนี่ย..เดี๋ยวต่อโพสต์ถัดไปดีกว่าเน๊าะ..
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 ธันวาคม 2007
  4. piakgear24

    piakgear24 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    2,696
    ค่าพลัง:
    +44,505
    โห ข่มกันนี่หว่า อย่างนี้ต้องพิสูจน์กันว่าของจริงเปล่า อิอิ
    ผม เครื่องกล แต่ก็ไม่ยอมแพ้ง่ายๆเหมือนกัน
     
  5. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ถ้าความคิดผมนะ
    เกี่ยวกับการเตรียมการด้านอาหารเนี่ย
    อยากจะขอแบ่งเป็น 2 ระยะ คือ

    1. เตรียมการเพื่อเอาไว้กินในช่วงเกิดภัยพิบัติ

    เพราะเราทราบกันดีอยู่แล้วว่า 7-7-49 ซึ่งตรงกับข้อมูล
    ทางวิชาการของฝรั่งว่าระยะเวลาที่ฝุ่นละอองนิวเคลียร์
    จะหมดความเป็นพิษต้องใช้เวลา 7 สัปดาห์ (49 วัน) เหมือนกัน

    ระยะนี้ก็แค่หาเตรียมอาหารที่สามารถเก็บไว้ได้นานๆเท่านนั้นเอง
    ซึ่งอาหารที่ว่านี้ แอ่น แอ๊น..ก็คือ
    - อาหารแห้ง อายุการเก็บผมไม่แน่ใจ แต่น่าจะเป็นปีโน่นแหละ
    - และอาหารกระป๋องครับ อันนี้พระเอกเลย อายุการเก็บโดยทั่วไปคือ 2 ปี
    แต่ 3 ปีก็พอไหว ถ้าไม่ใส่ใจเรื่องความเปลี่ยนแปลงไปของรสชาตินัก
    และถ้าเก็บดีๆ ไม่ให้กระป๋องเป็นสนิมซะก่อน

    เมื่อพวกเราต้องอยู่แต่ในที่หลบภัย ออกมาข้างนอกไม่ได้
    ตั้ง 49 วัน แถมพลังงาน และอากาศ และน้ำก็จำกัด
    มันก็ต้องเป็นอาหารที่กินได้เลย ไม่ต้องมาเสียเวลาปรุงอีกแล้ว

    ที่มาของอาหารเพื่อการณ์นี้ คือซื้อครับ ง่ายที่สุด อย่าเพิ่งไปคิดเรื่อง
    การหาสูตรแปรรูปอาหารเลยครับ เพราะท่านต้องมีเครื่องมือ-อุปกรณ์
    และความรู้ทางวิชาการประกอบด้วย อาหารของท่านจึงจะเก็บ และกินได้ด้วย

    2. เตรียมการเอาไว้กินหลังเกิดภัยพิบัติ

    อันนี้ก็ยังนึกไม่ออกว่าเหตุการณ์มันจะเลวร้ายแค่ไหน
    - ถ้าปลูกไว้ตั้งแต่ตอนนี้ มันจะถูกน้ำท่วม แผ่นดินถล่มทับ ไฟไหม้
    ให้วอดวายไปหมดหรือเปล่า
    - หรือว่าจะไปเริ่มปลูกเอาตอนหลังเกิดภัยแล้ว แล้วในระหว่างที่รอให้มันโต
    เราจะกินอะไรกัน และที่สำคัญคือ เราก็คงต้องเตรียมเมล็ดพันธุ์เอาไว้ตั้งแต่ตอนนี้เลยหรือเปล่า
    จะเก็บเมล็ดพันธุ์อย่างไรให้อยู่ได้จนถึงวันนั้น และปลอดภัยจากสัตว์ สารพิษ และอื่นๆด้วย อุณหภูมิในการเก็บรักษาก็สำคัญนะ เก็บไม่ดี มันก็หมดอายุได้ และไม่งอกให้นะ

    นี่แหละปัญหาที่ต้องขบคิดกัน

    - หรือจะตามมีตามเกิด อันนี้ก็คงไม่เรียกว่าการเตรียมการที่ดีแล้วกระมัง

    ** ถ้าผ่านพ้นอุปสรรค ปัญหาตรงจุดนี้ไปได้ ท่านจึงจะมีโอกาสได้ใช้
    สูตรอาหาร และ/หรือกระบวนการแปรรูปอาหารต่างๆ ที่พูดๆกันอยู่ในกระทูนี้หนะแหละครับ
    ตรงนี้ผมว่า ผมไม่ค่อยห่วงหรอกครับ เดี๋ยวถึงวันนั้นจริงๆ ถ้าผมยังมีชีวิตอยู่
    ก็คิดว่าคงพอจะร่วมเสนอแนะได้บ้าง ไม่มากก็น้อยแหละน่า

    ...เดี๋ยวจัดให้ครับ...

    หุ หุ หุ
     
  6. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    นี่ไง..เครื่องกลนี่แหละตัวดี
    ที่ผมต้องหนีบติดจักกะแร้ไปด้วย
    เพื่อทำงานที่โม้ไว้ข้างบนนั่นให้สำเร็จ
    (ถ้ามีโอกาสได้ทำจริงๆ หนะ นะ)

    เพราะผมก็มีแต่หลักการณ์ทางวิชชาการว่า

    - จะใช้อุณหภูมิเท่าไหร่ ความดันเท่าไหร่ จึงจะฆ่าเชื้อใน
    อาหารกระป๋องได้พอดี..ใช้เครื่องมือ อุปกรณ์อะไร..
    ก็คงเป็นท่านหนะแหละครับ ที่ในภายภาคหน้าอาจจะต้อง
    มานั่งออกแบบ นั่งประดิษฐ์กันจริงๆจังๆ
    ดังนั้น..ช่วงนี้ เห็นอะไรที่เกี่ยวข้องทำนองที่ว่ามานี้
    ก็แอบๆจด-จำ-ลองทำ เอาไว้บ้างนะครับ
    เพราะพอถึงช่วงที่ต้องทำข้อสอบจริงๆแล้ว
    จะได้ไม่สอบตกจ้า..

    - กระป๋องต้องเป็นอย่างไร แต่จะทำขึ้นมาได้อย่างไร
    อันนี้ต้อง Engineer แล้ววววว..เช่นกัน
     
  7. Rattanaporn

    Rattanaporn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    1,091
    ค่าพลัง:
    +13,348
    ตอนนี้ไอเดียของตัวเองคือกินฝึกกินอาหารให้ได้น้อยที่สุดค่ะ...คือ
    ประมาณ 1-2 มื้อต่อวัน...(แต่ละมื้อก็ปริมาณไม่ต้องมาก..เอาพอให้มี
    ชีวิตอยู่ได้...ไม่ใช่อยู่เพื่อกิน...แต่เป็นกินเพื่ออยู่จ๊า..เข้าท่ามั้ยค่ะพี่ ๆ
    เพื่อน ๆ ที่รักทั้งหลาย)...ถ้าเป็นไปได้ก็ 1 มื้อไปเลยค่ะ....ช่วง 49 วัน
    กับภัยพิบัติที่จะมาถึงในวันข้างหน้านี้จะได้ไม่มีปัญหาเรื่องกระเพาะ
    อาหารบีบคั้นทั้งทางร่างกายและหัวใจมากนัก..เพราะฝึกฝนกันมา
    อย่างดีแล้ว...(อีกอย่างกินมาก็เข้าห้องน้ำมากค่ะ...เป็นภาระให้แก่ตัว
    เองที่สุดเลย)....พวกเราหาทางลดหย่อนผ่อนปรนวิกฤตการณ์นี้ด้วยนะ
    ค่ะ...(สำคัญ*มากค่ะ...)
     

แชร์หน้านี้

Loading...