หลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐ ขอเชิญร่วมโชว์วัตถุมงคล พูดคุย ประสบการณ์ได้ทุกๆท่านครับ

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย tee_tores, 6 มีนาคม 2012.

  1. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,676
    ค่าพลัง:
    +53,127
    หลวงพ่อแดง เกิดเมื่อเดือนเมษายน ปีระกา พ.ศ. ๒๔๒๑ (บางประวัติว่าเกิดวันพุธที่ ๑๗ กันยายน ๒๔๒๒) ที่บ้านสามเรือน หมู่ที่ ๔ ตำบลบางจาก อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบุรี บิดาชื่อนายแป้น มารดาชื่อนางนุ่ม อ้นแสง มีพี่น้องรวมกัน ๑๒ คน ท่านเป็นคนที่ ๕
    ปัจจุบันยังมีชีวิตอยู่เพียงคนเดียว คือ นางน้อย เกิดประดับ ท่านเป็นพี่ชายของ พระครูปัญญาโชติวัฒน์ ( เจริญ ธมฺมโชติ ) อดีตเจ้าอาวาสวัดทองนพคุณ จังหวัดเพชรบุรี เป็นที่น่าสังเกตว่า โยมบิดามารดาของท่านเป็นบุคคลผู้มีวาสนา เพราะมีบุตรชายอุปสมบทและครองสมณเพศอยู่จนถึงวาระสุดท้ายของชีวิตถึง ๒ รูป ทั้งยังได้เป็นเจ้าอาวาส ที่ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ เป็นพระครูชั้นสัญญาบัตรทั้ง ๒ รูป ด้วย ครอบครัวของท่านมีฐานะพอมีพอกิน และเป็นครอบครัวใหญ่ครอบครัวหนึ่งในละแวกนั้น
    เมื่อมีอายุครบบวชในปี พ.ศ. ๒๔๔๑ บิดามารดาได้นำท่านไปฝากไว้กับพระอาจารย์เปลี่ยนแห่งวัดเขาบันไดอิฐ และเมื่อได้บวชตามประเพณีแล้ว (บางประวัติว่า อุปสมบท เมื่อวันที่ ๒๔ พฤษภาคม ๒๔๔๔ อายุ ๒๒ ปี ที่วัดเขาบันไดอิฐ ตำบลไร่ส้ม อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบุรี พระครูญาณวิสุทธิ วัดแก่นเหล็ก อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบุรี เป็นพระอุปัชฌาย์ ) ได้รับฉายาว่า รตฺโต (แปลว่าสีแดง) ท่านจำพรรษาอยู่ที่วัดเขาบันไดอิฐตลอดมา หลังจากบวชเป็นพระภิกษุแล้ว ท่านเล่าเรียนวิชาไสยศาสตร์และวิปัสสนากัมมัฏฐานกับพระอาจารย์เปลี่ยนจนจบ เมื่อพระอาจารย์เปลี่ยนได้ถึงแก่มรณภาพในปี พ.ศ. ๒๔๖๑ หลวงพ่อแดงซึ่งขณะนั้นเพิ่งมีอายุย่างเข้า ๔๐ ปี พรรษาที่ ๒๐ ก็ได้รับตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดเขาบันไดอิฐแทนเป็นต้นมา
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 มีนาคม 2012
  2. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,676
    ค่าพลัง:
    +53,127
    ท่านมีวิทยาคมขลังเป็นที่นับถืออย่างมาก ในช่วง พ.ศ. ๒๔๗๙ ได้เกิดโรคระบาดอย่างร้ายแรงขึ้นที่จังหวัดเพชรบุรีทำให้วัวควายล้มตายลงเป็นอันมาก ท่านได้ปลุกเสกผ้ายันต์สีแดง ขนาดเท่าผ้าเช็ดหน้า ให้ชาวบ้านนำไปผูกไว้ที่ปลายไม้ไผ่ แล้วปักไว้ที่คอกวัวควาย คอกใดที่ผ้ายันต์ของท่านมาปักไว้ วัวควายของคอกนั้นจะไม่เป็นโรคติดต่อ ชื่อเสียงของท่านจึงโด่งดังเป็นที่รู้จักแต่นั้นมา มีผู้คนไปขอของดีไว้ป้องกันตัวจากท่านมิได้ขาด ท่านจึงได้ทำผ้ายันต์และตะกรุดไว้แจก ผู้ที่นำตะกรุดและผ้ายันต์ของท่านไปบูชามักจะประสบกับอิทธิปาฏิหาริย์อยู่เสมอ

    เมื่อวันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๐๒ ท่านได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็น "พระครูญาณวิลาศ" พร้อมรับพระราชทานสัญญาบัตรพัดยศ ลูกศิษย์จึงได้ทำการฉลองสมณศักดิ์ให้ท่าน

    นการนี้ท่านได้สร้างเหรียญขึ้นเพื่อแจกจ่ายแก่ผู้มาร่วมงาน นับว่าเป็นเหรียญรุ่นที่หนึ่งของท่าน เป็นเหรียญทองแดงรมดำ จำนวน ๑๕,๐๐๐ เหรียญ และเป็นเหรียญเงินจำนวน ๘๓ เหรียญ เท่าจำนวนอายุของท่านที่ย่างเข้าปีที่ ๘๓ ตัวเหรียญเป็นรูปวงรีคล้ายรูปไข่ ส่วนกว้างที่สุดประมาณ ๒.๖ เซนติเมตร สูงสุดประมาณ ๓.๔ เซนติเมตร เนื้อโละทำด้วยทองแดงรมดำ ด้านหน้าบนซ้ายมือมีอักษรปั๊มนูนสูงว่า "พ.ศ. ๒๕๐๓" ทางด้านขวามือมีอักษรเขียนว่า "อายุ ๘๒ ปี" ส่วนด้านล่างเขียนว่า "พระครูญาณวิลาศ (แดง)" ส่วนด้านหลัง ลงหัวใจพระพุทธคุณต่างๆ ไว้ด้วยภาษาขอม ตรงกลางด้านหลังลงยันต์สี่ มีหัวขมวด เป็นเหรียญที่ดังมาก พุทธคุณมีประสบการณ์สูงทาง คงกระพันชาตรี แคล้วคลาด ปัจจุบันหายากมากๆ

    หลังจากที่เหรียญรุ่นหนึ่งสร้างประสบการณ์ต่างๆ มากมาย จนกิตติศัพท์ความศักดิ์สิทธิเป็นที่เลื่องลือ ผู้คนต่างพากันมาขอเหรียญร่วมทำบุญ จนเหรียญรุ่นหนึ่งหมดไปจากวัด จึงได้มีการสร้างเหรียญรุ่นสอง สร้างขึ้นประมาณปี พ.ศ.
    ๒๕๐๗ ลักษณะองค์หลวงพ่อและอักขระเลขยันต์เหมือนกับเหรียญรุ่นหนึ่ง แต่ต่างกันที่คำว่า "เอ" (ซึ่งเป็นอักษรขอมตำแหน่งล่างสุด) ของรุ่นหนึ่งจะมีดูคล้าย "ฃ" แต่ของรุ่นสองดูคล้ายเลข "๘" เหรียญรุ่นสองนี้มีประสบการณ์แคล้วคลาดมากมายไม่แพ้รุ่นหนึ่งเลย ในการสร้างรุ่นที่สองนี้ ท่านได้สั่งทำเหรียญขนาดเล็กด้วยอัลปาก้า เพื่อสำหรับแจกแม่ครัวเรียกว่า "รุ่นแจกแม่ครัว" อีกด้วย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 มีนาคม 2012
  3. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,785
    ค่าพลัง:
    +21,343
    [​IMG]

    รูปนี้เป็นรูปภาพหลวงปู่แดง วัดศรีมหาโพธิ์ ครับ ทางใต้ครับ ปัตตานีครับท่าน
     
  4. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,676
    ค่าพลัง:
    +53,127
    ท่านมีวิทยาคมขลังเป็นที่นับถืออย่างมาก ในช่วง พ.ศ. ๒๔๗๙ ได้เกิดโรคระบาดอย่างร้ายแรงขึ้นที่จังหวัดเพชรบุรีทำให้วัวควายล้มตายลงเป็นอันมาก ท่านได้ปลุกเสกผ้ายันต์สีแดง ขนาดเท่าผ้าเช็ดหน้า ให้ชาวบ้านนำไปผูกไว้ที่ปลายไม้ไผ่ แล้วปักไว้ที่คอกวัวควาย คอกใดที่ผ้ายันต์ของท่านมาปักไว้ วัวควายของคอกนั้นจะไม่เป็นโรคติดต่อ ชื่อเสียงของท่านจึงโด่งดังเป็นที่รู้จักแต่นั้นมา มีผู้คนไปขอของดีไว้ป้องกันตัวจากท่านมิได้ขาด ท่านจึงได้ทำผ้ายันต์และตะกรุดไว้แจก ผู้ที่นำตะกรุดและผ้ายันต์ของท่านไปบูชามักจะประสบกับอิทธิปาฏิหาริย์อยู่เสมอ

    เมื่อวันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๐๒ ท่านได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็น "พระครูญาณวิลาศ" พร้อมรับพระราชทานสัญญาบัตรพัดยศ ลูกศิษย์จึงได้ทำการฉลองสมณศักดิ์ให้ท่าน

    ในการนี้ท่านได้สร้างเหรียญขึ้นเพื่อแจกจ่ายแก่ผู้มาร่วมงาน นับว่าเป็นเหรียญรุ่นที่หนึ่งของท่าน เป็นเหรียญทองแดงรมดำ จำนวน ๑๕,๐๐๐ เหรียญ และเป็นเหรียญเงินจำนวน ๘๓ เหรียญ เท่าจำนวนอายุของท่านที่ย่างเข้าปีที่ ๘๓ ตัวเหรียญเป็นรูปวงรีคล้ายรูปไข่ ส่วนกว้างที่สุดประมาณ ๒.๖ เซนติเมตร สูงสุดประมาณ ๓.๔ เซนติเมตร เนื้อโละทำด้วยทองแดงรมดำ ด้านหน้าบนซ้ายมือมีอักษรปั๊มนูนสูงว่า "พ.ศ. ๒๕๐๓" ทางด้านขวามือมีอักษรเขียนว่า "อายุ ๘๒ ปี" ส่วนด้านล่างเขียนว่า "พระครูญาณวิลาศ (แดง)" ส่วนด้านหลัง ลงหัวใจพระพุทธคุณต่างๆ ไว้ด้วยภาษาขอม ตรงกลางด้านหลังลงยันต์สี่ มีหัวขมวด เป็นเหรียญที่ดังมาก พุทธคุณมีประสบการณ์สูงทาง คงกระพันชาตรี แคล้วคลาด ปัจจุบันหายากมากๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 มีนาคม 2012
  5. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,676
    ค่าพลัง:
    +53,127

    ต้องขออภัยด้วยครับ ตามพี่ จัมโบ้เอ เลยครับ
    :cool:
     
  6. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,676
    ค่าพลัง:
    +53,127
    หลังจากที่เหรียญรุ่นหนึ่งสร้างประสบการณ์ต่างๆ มากมาย จนกิตติศัพท์ความศักดิ์สิทธิเป็นที่เลื่องลือ ผู้คนต่างพากันมาขอเหรียญร่วมทำบุญ จนเหรียญรุ่นหนึ่งหมดไปจากวัด จึงได้มีการสร้างเหรียญรุ่นสอง สร้างขึ้นประมาณปี พ.ศ. ๒๕๐๗ ลักษณะองค์หลวงพ่อและอักขระเลขยันต์เหมือนกับเหรียญรุ่นหนึ่ง แต่ต่างกันที่คำว่า "เอ" (ซึ่งเป็นอักษรขอมตำแหน่งล่างสุด) ของรุ่นหนึ่งจะมีดูคล้าย "ฃ" แต่ของรุ่นสองดูคล้ายเลข "๘" เหรียญรุ่นสองนี้มีประสบการณ์แคล้วคลาดมากมายไม่แพ้รุ่นหนึ่งเลย ในการสร้างรุ่นที่สองนี้ ท่านได้สั่งทำเหรียญขนาดเล็กด้วยอัลปาก้า เพื่อสำหรับแจกแม่ครัวเรียกว่า "รุ่นแจกแม่ครัว" อีกด้วย

    ในงานฉลองอายุท่านเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๑๐ ทางวัดได้สร้างเหรียญขึ้นใหม่ โดยใช้ข้อความและตัวอักษร เหมือนรุ่นหนึ่งทุกอย่าง แต่ใบหน้าหลวงพ่อเปลี่ยนไป ในปีเดียวกันนี้มีพ่อค้าได้สร้างเหรียญขึ้นอีกรุ่นเพื่อนำไปให้ท่านปลุกเสก คราวนี้ได้เปลี่ยนใบหน้าหลวงพ่อให้ชราภาพมากขึ้น ข้อความด้านหน้าเหรียญด้านบนปั๊มคำว่า " พ.ศ. ๒๕๑๐ ที่ระลึกอายุครบรอบ ๘๙ ปี" ด้านล่างปั๊มคำว่า "พระครูญาณวิลาศ (แดง)" อักษรเลขยันต์ด้านหลังเหมือนรุ่นหนึ่ง แต่ได้ตอกภาษาจีนอ่านว่า " โจว" ไว้ที่ใต้ตัวอุ เหรียญรุ่นนี้มีเนื้อทองคำ นาค เงิน และทองแดงรมดำ เนื้อทองแดงมีจำนวน ๒,๐๐๐ เหรียญ



    พ.ศ. ๒๕๑๑ ท่านมีอายุครบ ๙๐ ปี พลโท สำราญ แพทยกุล แม่ทัพภาคที่ ๑ ในขณะนั้น ซึ่งเป็นชาวเพชรบุรีโดยกำเนิด ได้ขอให้ท่านทำเหรียญขึ้นอีกรุ่นเป็นรูปอาร์ม โดยได้ว่าจ้างให้กองกษาปณ์ กรมธนารักษ์ ออกแบบ แกะพิมพ์และปั๊มเหรียญรุ่นนี้ขึ้น โดยจำนวนที่สร้างคือ เนื้อทองแดงมีจำนวน ๔๘,๐๐๐ เหรียญ ส่วนเนื้อเงินและทองคำ ตามจำนวนที่สั่งจอง เหรียญรุ่นนี้เรียกว่า "รุ่นแม่ทัพสร้าง" หรือ "เหรียญแม่ทัพ" และยังมีเนื้ออัลปาก้าอีกด้วย

    เป็นเหรียญรุ่นที่ได้รับความนิยมมากรองจากรุ่น ๑ พิธีปลุกเสกเหรียญรุ่นนี้จัดว่ายิ่งใหญ่มาก เพราะนอกจากหลวงพ่อแดงท่านจะปลุกเสกเดี่ยวแล้ว ยังจัดให้มีพิธีพุทธาภิเษก และมีมหรสพเฉลิมฉลอง ๕ วัน ๕ คืน ภายหลังจากพิธีจึงได้นำเหรียญออกให้เช่าบูชา

    เมื่อเปิดให้เช่าบูชา มีทหารจำนวนมากได้เช่าบูชาไป แล้วนำไปทดลองยิงที่ข้างวัด ปรากฏว่า "ปืนแตก" ดังนั้น เหรียญรุ่นนี้จึงมีชื่อเรียกอีกอย่างว่า "รุ่นปืนแตก"



    การนำไปลองยิงจนปืนแตก ทำให้มีผู้สนใจบูชากันจนเหรียญหมดภายในวันเดียว ดังนั้น มทภ. 1 จึงต้องสั่งให้ปั๊มขึ้นมาอีก โดยใช้แม่พิมพ์ที่เคยใช้ปั๊มเหรียญเนื้อทองคำและเนื้อเงิน ชนิดมีดาวมาปั๊มเหรียญเนื้อทองแดงด้วย โดยต้องเร่งใช้รถ GMC บรรทุกเหรียญมาให้หลวงพ่อแดงปลุกเสก โดยเหรียญที่ปั๊มเพิ่ม หลวงพอแดงปลุกเสกเดี่ยว ไม่ทันปลุกเสกหมู่ เพื่อให้ทันก่อนวันที่ ๑๙ เมย. ๒๕๑๑ ซึ่งเป็นวันที่ได้ประกาศว่าจะเปิดให้เช่าบูชาเป็นครั้งที่ ๒



    ในปี ๒๕๑๒ ได้มีการสร้างเหรียญที่ต่อมาได้รับความนิยมมากที่สุดเหรียญหนึ่ง คือ เหรียญ "รุ่นโบสถ์ลั่น" หรือ "เหรียญสองพี่น้อง" หรือ "เหรียญรูปซ้อนหลวงพ่อแดง-หลวงพ่อเจริญ"



    หลวงพ่อเจริญ หรือ พระครูปัญญาโชติวัฒน์ อดีตเจ้าอาวาส วัดทองนพคุณ จังหวัดเพชรบุรี เป็นน้องชายร่วม บิดา-มารดาเดียวกับหลวงพ่อแดง มีอายุอ่อนกว่าหลวงพ่อแดง ๕ ปี มีความต้องการที่จะจัดสร้างเหรียญรูปซ้อนขึ้น เพื่อหาเงินมาสร้างและซ่อมแซมสิ่งก่อสร้างและถาวรวัตถุ ภายในวัดทองนพคุณ จึงได้เข้าไปปรึกษาหลวงพ่อแดง ผู้เป็นพี่ชาย

    เมื่อตกลงกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลวงพ่อเจริญจึงจัดสร้างขึ้นในปี ๒๕๑๒ แล้วนำไปให้หลวงพ่อแดงปลุกเสกก่อน ๑ พรรษา ภายหลังจึงจัดทำพิธีพุทธาภิเษกขึ้นที่วัดทองนพคุณ โดยนิมนต์เกจิอาจารย์ที่เชี่ยวชาญด้านวิทยาคมเข้ามาร่วมปลุกเสก โดยมีหลวงพ่อแดง เป็นประธานในพิธี

    ในขณะที่ปลุกเสกเหรียญรูปซ้อนดังกล่าวในพระอุโบสถนั่น ก็เกิดเสียงลั่นที่โน่นที่นี่ภายในโบสถ์ บรรดาญาติโยมและผู้ศรัทธาที่อยู่ใมโบสถ์ ต่างก็สอดส่ายสายตามองไปภายในรอบๆ โบสถ์ ว่ามีเหตุการณ์ผิดปรกติ โบสถ์จะร้าวลั่นแตกพังลงมาหรือไม่ ปรากฏว่า สภาพภายในก็เป็นปรกติ มีแต่เสียงที่ยังคงดังลั่นอยู่

    หลังจากพิธีปลุกเสกได้เรียบร้อย เสียงดังกล่าวก็ได้เงียบหายไป ชาวบ้านที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างพูดต่อกันปากต่อปาก เป็นที่โจษจันกันไปในเวลาอันรวดเร็ว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 มีนาคม 2012
  7. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,676
    ค่าพลัง:
    +53,127
    จากนั้นเมื่อนำเหรียญรูปซ้อนออกมาให้เช่าบูชา ปรากฏว่าเหรียญได้หมดไปจากวัดในเวลาสั้นๆ ไม่เพียงพอต่อผู้ที่เข้ามาเช่าหาบูชา หลวงพ่อเจริญจึงได้จัดสร้างเหรียญนี้ใหม่อีกครั้ง โดยแกะแม่พิมพ์ขึ้นมาใหม่ โดยใช้แบบอย่างเหรียญเดิม แล้วนำเหรียญรุ่นที่ ๒ ดังกล่าวจำนวนหนึ่งมอบให้กับหลวงพ่อแดงที่วัดเขาบันไดอิฐ พ.ศ. ๒๕๑๓ คณะนายทหารตำรวจจากโรงเรียนนายร้อย จปร. รุ่น ๑๒ ซึ่งมี พลโท ฉลาด หิรัญศิริ เป็นประธานรุ่น ได้ขออนุญาตหลวงพ่อแดงสร้างเหรียญเพื่อเป็นที่ระลึกในการรับราชการครบ ๓๐ ปี แล้วนำมาให้หลวงพ่อแดงปลุกเสก ๑ ไตรมาสแล้วนำมาเข้าพิธีพุทธาภิเษกที่วัดบวรนิเวศวิหาร โดยพระเกจิชื่อดังทั่วประเทศอีกครั้งหนึ่ง เหรียญรุ่นนี้มีโค้ดคำว่า "แดง" ซึ่งเป็นลายมือของหลวงพ่อ แกะเป็นแม่พิมพ์แล้วตอกลงไปด้านหน้าของทุกเหรียญ


    นอกจากเหรียญรุ่น จปร แล้ว ในปี ๒๕๑๓ หลวงพ่อแดงท่านสร้างวัตถุมงคลหลายชนิด ท่านยังสร้างเหรียญรุ่น พศ. ๒๕๑๓ อายุ ๙๒ ปี และ "พระผงญาณวิลาศ" ไว้ด้วย พระผงญาณวิลาศนี้ หลวงพ่อแดงปลุกเสกเดี่ยวเป็นเวลา 1 ปีเต็ม แล้วจึงนำออกแจกในปี ๒๕๑๔ (ที่กล่องจะเขียนว่าปี ๒๕๑๔) โดยสามารถแบ่งได้เป็น ๓ พิมพ์ ด้านหลังปั๊มยันต์และอักขระของหลวงพ่อ คือ

    ๑. พิมพ์พระสมเด็จ แบ่งออกเป็น พิมพ์ตื้นซึ่งสร้างขึ้นก่อน หายาก, พิมพ์ลึกเป็นพิมพ์ที่พบเห็นกันทั่วไปในวงการ พิมพ์สมเด็จมีสีแดง สีเหลือง สีขาว พิมพ์ใหญ่จะมีขนาดกว้าง ๒.๒ เซ็นติเมตร สูง ๓.๖ เซ็นติเมตร นอกจากนี้ยังมี "พิมพ์คะแนน" ที่มีขนาดเล็กลงมา ทำขึ้นสำหรับคั่น เวลานับจำนวนพิมพ์ใหญ่ได้ครบทุก ๑๐๐ องค์ พระผงรุ่นนี้มีประสบการณ์มากมาย แม้กระทั่งตำรวจพลร่มโดดร่มลงมาแต่ร่มไม่กาง แต่กลับรอดตายราวปาฏิหาริย์ โดยในคอแขวนพระผงญาณวิลาศของหลวงพ่อแดงนั้นเอง

    ๒. พิมพ์สามเหลี่ยมหรือพิมพ์นางพญา

    ๓. พิมพ์พระปิดตา

    โดยทั้ง ๓ แบบมีเนื้อ ๔ สีคือ ขาวอมเหลือง แดง เทา และดำ และนอกจากเนื้อผงแล้วก็มีเนื้อชินอีกด้วย

    ตถุมงคลของท่านยังมีอีกหลายรุ่น เช่น ยุวพุทธิกสมาคม ชลบุรี สร้างรุ่นพิเศษ "ไตรภาคี" เนื้อผงสีแดง พิมพ์พระแก้วมรกต พระพุทธสิหิงค์ และพระพุทธชินราช นำมาให้ท่านปลุกเสก , รุ่นวัดเทพธิดา (หลังโรงภาพยนตร์ศาลาเฉลิมไทย ) สร้าง, เหรียญที่มีรูปท่านเต็มองค์นั่งคุกเข่าอยู่ด้านหน้าเหรียญ เรียกว่า "เหรียญคุกเข่า" ที่สร้างเมื่อ พ.ศ. ๒๕๑๗

    พระครูญาณวิลาศหรือหลวงพ่อแดงมรณภาพวันที่ ๑๖ มกราคม พ.ศ. ๒๕๑๗ ด้วยโรคชราที่วัดเขาบันไดอิฐ สิริอายุ ๙๖ ปี พรรษาที่ ๗๔
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 มีนาคม 2012
  8. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,676
    ค่าพลัง:
    +53,127
    ประวัติ หลวงพ่อแดง น่าจะมีประมาณนี้คร่าวๆ นะครับ ต่อไปก็ขอเรียนเชิญ ทุกๆท่าน พูดคุย ประสบการณ์เกี่ยวกับพระเครื่องหลวงพ่อแแดงที่มีอยู่ จะโชว์พร้อมหรือไม่ก็ตามสะดวกนะครับ

    ส่วนตัวผมเอง ตั้งใจ ตั้งโพสต์นี้ ขึ้นมาเพื่อ น้อมรำลึกและเพื่อเผยแพร่ เกียรติประวัติหลวพ่อแดง ให้ท่านที่ยังไม่เคยรู้ ได้รู้ ท่านที่รู้แล้ว รู้สึกศรัทธา หลวงพ่อแดง ก็มาร่วมกันแชร์ๆ ครับ จะเป็นสายตรงในการดูวัตถุมงคลของหลวพ่อแดง ได้ ด้วย ยิ่งดีครรับ ตัวผมเองไม่มีผลประโยชน์อันใด นอกเหนือจากนี้นะครับ
     
  9. Norragate

    Norragate เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    19,518
    ค่าพลัง:
    +37,735
    ยินดีกับกระทู้ใหม่ครับ....
    กราบหลวงพ่อแดง...กราบ กราบ กราบ......
    เกจิดังของบ้านเกิดคุณย่าผมเลยครับ.......แบบนี้ต้องขออนุญาติเจิมหน้าแรกด้วยองค์นี้นะครับ ^__^

    [​IMG]

    [​IMG]
     
  10. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,676
    ค่าพลัง:
    +53,127
    เป็นเกียรติอย่างยิ่งครับ พี่ Norragate ที่นำ เหรียญรุ่น จปร ปี ๒๕๑๓ หลวพ่อแดง มาเจิมให้ครับ :cool:
     
  11. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,676
    ค่าพลัง:
    +53,127
    หลวงพ่อแดงมรณภาพด้วยโรคชรา เมื่ออายุ 96 ปี พรรษาที่ 74 ก่อนตายท่านเคยพูดกับพระปลัดบุญส่ง ธมัมปาโล รองเจ้าอาวาสวัดขณะนั้นว่า
    "เมื่อฉันหมดลมหายใจแล้วอย่าเผา ให้เก็บร่างฉันไว้ที่หอสวดมนต์ และให้เอาเหรียญที่ปลุกเสกรุ่น 1 ใส่ปากไว้พร้อมเงินพดด้วง 1 ก้อน ส่วนนี้ฉันเอาไปได้และให้เอาขมิ้นมาทาตัวฉันให้เหลืองเหมือนทองคำ"
    พระบุญส่งจึงรับปาก และได้ทำตามที่หลวงพ่อประสงค์ทุกอย่าง
    และ หลังจากที่หลวงพ่อแดงมรณภาพแล้วก็ได้เกิดเหตุอัศจรรย์ที่เป็นเครื่องพิสูจน์ ว่า อภินิหารของหลวงพ่อแดงมีจริง กับผู้หลักผู้ใหญ่ของเมืองเพชรบุรีท่านหนึ่ง ซึ่งจู่ๆ ท่านก็มีนิมิตฝันเห็นบ่อน้ำโบราณที่ซ่อนตัวอยู่ใต้ต้นก้ามปูใหญ่ พอขุดก็พบบ่อน้ำนั้นจริงๆ บ่อน้ำแห่งนี้หลวงพ่อแดงเคยพูดไว้สมัยที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ว่าเป็น "บ่อน้ำวิเศษ" และขณะที่ขุดยังพบ "หัวพญานาคสีขาว" แบบปูนปั้นอยู่ที่ก้นบ่อด้วย 1 หัว เมื่อชาวบ้านรู้ข่าวก็พากันแห่มาเพื่อจะตักน้ำเอาไปใช้กันแต่ปรากฏว่าพบงู ใหญ่ตัวหนึ่งนอนขดอยู่ใต้สังกะสีที่เอาไว้ปิดปากบ่อ ชาวบ้านที่เห็นบอกว่า ลักษณะงูที่เห็นนั้นมีหงอนที่หัวด้วย ตั้งแต่นั้นมาก็ไม่มีชาวบ้านกล้าเข้าไปตักน้ำที่บ่อนี้อีกเลย
    ที่น่าแปลกอีกก็คือ นายตำรวจท่านหนึ่งซึ่งเคยมาช่วยงานในวัดก็ฝันเห็นหลวงพ่อแดง ท่านมาต่อว่า "ทำอะไรทำไมไม่บอก"
    นายตำรวจก็ไปเล่าให้พระปลัดบุญส่งเจ้าอาวาสรูปปัจจุบันฟัง ท่านก็ไม่เชื่อแล้วยังสั่งให้ย้ายศาลเก่า 2 ศาล บริเวณเชิงเขาบันไดอิฐเพื่อปรับปรุงบริเวณ โดยไม่ยอมทำพิธีเซ่นไหว้เจ้าที่เจ้าทาง เพราะท่านเป็นคนไม่เชื่อไสยศาสตร์ ปรากฏว่าพอตกเย็นก็เกิดอาการผิดปกติ อยู่ๆ คอก็เริ่มบิดและตัวแข็งไปทั้งตัว ขยับไม่ได้ ชาวบ้านมาเยี่ยมเห็นว่าอาการหนักมากจึงช่วยกันพาส่งโรงพยาบาลเปาโล แต่พอถึงโรงพยาบาล อาการที่เป็นกลับหายราวปลิดทิ้ง และเมื่อเอ็กซเรย์พร้อมตรวจอย่างละเอียดก็ไม่พบว่าเป็นอะไรเลย และระหว่างที่นอนพักรักษาตัวอยู่ ท่านก็พูดออกมาคนเดียวโดยไม่รู้ตัวว่า
    "ของดีมีอยู่ ผ่านไปผ่านมาไม่ใช้ต้นก้ามปูตรงนั้นเป็นบ่อน้ำ ให้ขุดลงไปแล้วจะเจอ มีของดีทำไมไม่รักษา"
    ใน ภายหลังที่ออกจากโรงพยาบาลแล้วพระปลัดบุญส่งก็ได้ฝันอีกครั้ง ในความฝันท่านเห็นคนนุ่งผ้าถกเขมรมาหา มาบอกว่าเขาเป็นคนมัดหลวงพ่อเอง พูดแล้วเขาก็เอามือรีดที่ตัวหลวงพ่อเหมือนรีดเอาไขมันออก ทั้งขาและแขน จนหลวงพ่อพระปลัดบุญส่งสะดุ้งตื่นและพอตื่นขึ้นมาก็ยังเห็นผู้ชายคนนั้นอยู่ ในห้องพอถามชื่อ เขาก็ถอยออกไปแล้วตอบกลับมาว่า "เขาเป็นเปรต" จากนั้นก็หายวับกลายเป็นแสงไฟ พร้อมเสียง "วี๊ด" ดังมาก ซึ่งพระในวัดก็ได้ยินกันทั่ว
    เรื่องนี้ได้ทำให้ "พระปลัดบุญส่ง" เจ้าอาวาสวัดเขาบันไดอิฐรูปปัจจุบัน ยังยอมรับว่าไสยศาสตร์และอภินิหารของหลวงพ่อแดงนั้นมีจริงเพราะเจอแล้วด้วยตัวท่านเอง
     
  12. ทิพย์มงคล

    ทิพย์มงคล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2011
    โพสต์:
    3,892
    ค่าพลัง:
    +8,215
    เยี่ยมชมกระทู้ใหม่ของคุณตี๋ กราบหลวงพ่อแดง ครับ:VO
     
  13. ธุลี-ดิน

    ธุลี-ดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2012
    โพสต์:
    12,650
    ค่าพลัง:
    +12,202
    สวัสดีครับ เข้ามาอ่านข้อมูลหลวงพ่อแดงครับ

    [​IMG] [​IMG]
     
  14. boy_phurksa

    boy_phurksa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    106
    ค่าพลัง:
    +141
    มีโอกาสได้ไปกราบสักการะหลวงปู่แดง (สังขาร) ที่วัดมาเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ได้บูชา เหรียญอาร์ม ทองแดง รุ่นแม่ทัพ (เห็นเขาเขียนบนกล่องว่างอย่างนั้น) องค์ละ 100 บาท และ ผ้ายันต์สีแดง ๆ (ยังไม่ได้แกะดู) ผืนละ 100 บาทมา

    สงสัยต้องกลับไปลองนำมาแขวนไว้บ้างแล้วละครับ .. แต่สงสัยนิดนึง ว่า เหรียญอาร์ม ทองแดง รุ่นแม่ทัพที่อยู่บนวัด นี่ สร้างใหม่ใช่ไม๊ครับ
     
  15. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,785
    ค่าพลัง:
    +21,343
    เข้าใจว่าสร้า้งใหม่ย้อนพ.ศ.ครับ รุ่นแม่ทัพนี้บล็อคแรกไม่มีดาวหมดตั้งแต่ปีที่

    สร้า้งและน่าจะอาทิตย์แรกที่ออกให้บูชาแล้วครับ ตามประวัติจนต้องสร้า้งใหม่

    ขึ้นมาในปีเดียวกันอีกครัง

    และปัจจุบันของเก๊เพียบ..........แม้ของแท้จะสร้า้งถึงสองครั้งนับแสนเหรียญ

    .....................
     
  16. Norragate

    Norragate เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    19,518
    ค่าพลัง:
    +37,735
    ขอเจิมอีกสักงค์ครับ... (^__^)

    เหรียญย้อนยุค(ที่ไม่ต่ำกว่า10ปีแน่ๆ) หุหุ

    ปล. ว่างๆเรียนเชิญคุณ Torres แวะไปเยี่ยมบ้าน ( คนอวดพระ ) ของผมบ้างนะคร้าบบบ อิอิ ^^

    [​IMG]

    [​IMG]
     
  17. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,676
    ค่าพลัง:
    +53,127
    ขอบคุณทุกๆท่านที่แวะเข้ามาเยี่ยมชมครับ ส่วนที่คุณบอย ถาม เหรียญอาร์มเช่าจากวัดเหรียญละ 100 นั้น ขอเดาว่า น่าจะสร้างใหม่นะครับ แต่นิดนึงครับ ถ้าเราศรัทธา หลวงพ่อแดง ถึงจะไม่ทันท่านสร้าง ขอให้เชื่อเถอะครับว่า แค่เป็นรูปหลวงพ่อแดง ก็ศักดิ์สิทธิ์แล้วครับ :cool:
     
  18. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,676
    ค่าพลัง:
    +53,127
    รายละเอียดต่างๆ ถ้าพี่ๆ ท่านใดรู้จริง แบบพี่จัมโบ้เอ ก็เชิญ บอกกล่าว ได้เลยนะครับ ผมไม่ได้มีความรุ้มากมายขนาดที่จะนำมาบอกกล่าวได้ทั้งหมด ความคิดที่จะทำต่อไปคือไปหาความรู้เกี่ยวกับ ประสบการณ์ หรือตำหนิ วัตถุมงคลหลวงพ่อแดง มาสู่โพสต์นี้อีกทีนะครับ

    ส่วนพี่
    Norragate เด๋วผมจะติดตามไปนะคับ ชอบเหมือนกัน คนอวดพระ นี่ อิๆ
     
  19. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,676
    ค่าพลัง:
    +53,127
    เอา ตำหนิ เหรียญ รุ่นแรก ปี 03 มาเจิม ก่อนเลย รู้สึกว่า ข้อมูลจะหลากหลายดีมากๆ ฉะนั้น ก็ขอให้ใช้วิจารณญานในการรับชมด้วยนะครับ

    รุ่นแรก ปี 03 ไม่ดีจริง คนฮ่องกง ไม่ตามเก็บที่เมืองไทย ไปจนเกือบหมด แถม นำเหรียญแท้ๆมาแกะปลอมด้วยบล๊อคคอมพิวเตอร์ หรือที่เรียกว่าบล๊อค ฮ่องกง
    [SIZE=-1] [/SIZE]แล้วนำกลับไปขายต่อ ทั้งที่ฮ่องกง และ ไทย ด้วยมั้ง อิๆ (ไม่แน่ใจรวมถึงเหรียญของผมด้วยป่าว) ใครมีเหรียญแท้ๆ อย่าลืมเอามาให้ชมเป็นบุญตาด้วยนะครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  20. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,676
    ค่าพลัง:
    +53,127
    ท่าน พ[FONT=Times New Roman, serif].[/FONT][FONT=Times New Roman, serif].[/FONT][FONT=Times New Roman, serif].[/FONT]อรรณพ กอวัฒนา ได้เล่าไว้ในหนังสือ ลูกศิษย์บันทึกว่า มีเพื่อนที่อาวุโสกว่านำหนังสือ ประวัติหลวงพ่อปานวัดบางนมโค มาให้อ่านก็เลยสนใจ แต่สนใจกันคนละอย่าง เพื่อนเขาสนใจจะนำพระเครื่องไปให้ท่านปลุกเสก แต่ตัวท่านสนใจ ว่าหลวงพ่อฤาษีฯเป็นศิษย์หลวงพ่อปาน ซึ่งเป็นพระหมอ คงจะรักษาขาที่ถูกยิง[FONT=Times New Roman, serif]([/FONT]เพราะเป็น ต[FONT=Times New Roman, serif].[/FONT][FONT=Times New Roman, serif].[/FONT][FONT=Times New Roman, serif].)[/FONT]ได้ จึงพากันออกตามหาจนทราบว่าอยู่ที่วัดท่าซุง อ[FONT=Times New Roman, serif].[/FONT]เมือง จ[FONT=Times New Roman, serif].[/FONT]อุทัยธานี ก็ไปกับเพื่อนอีกสองคน ระหว่างทางก็ปรึกษากันในรถ และ ต่างก็อาราธนาบารมีของหลวงปู่ปาน และหลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐ ขอให้การที่คิดเอาไว้สำเร็จ ครั้นพอได้พบหลวงพ่อ เมื่อผ่านระบบทักทาย และรายงานตัวกันแล้ว ต่างก็นั่งเลิกลั่กไม่ทราบจะทำอย่างไรต่อไป จู่ ๆ หลวงพ่อท่านก็พูดขึ้นมาลอยๆ ว่า [FONT=Times New Roman, serif]

    "
    [/FONT]เออหลวงพ่อแดงนี่ท่านเป็นพระดีนะ[FONT=Times New Roman, serif]"

    [/FONT]ทั้งสามคนก็ตะลึง เพราะเมื่อเหยียบย่างเข้ามาในวัด ไม่มีใครพูดถึงหลวงพ่อแดงเลย แล้วท่านก็พูดต่อไปอีกว่า [FONT=Times New Roman, serif]

    "
    [/FONT]พวกคุณจะสร้างพระผงกันหรือ มีเจตนาดีนะ จะสร้างแบบไหน ฉันอนุญาต[FONT=Times New Roman, serif]"

    [/FONT]ท่าน พ[FONT=Times New Roman, serif].[/FONT][FONT=Times New Roman, serif].[/FONT][FONT=Times New Roman, serif]. [/FONT]อรรณพเล่าว่าความรู้สึกในขณะนั้นบอกไม่ถูก รู้สึกตัวชาหน้าชา บรรยากาศรอบตัวมันหนาวๆ ร้อนๆ ได้แต่ร้องในใจว่า [FONT=Times New Roman, serif]"[/FONT]อัศจรรย์ๆ จริง[FONT=Times New Roman, serif]" [/FONT]แล้วต่างก็มองหน้ากัน[FONT=Times New Roman, serif].... [/FONT]นี่เป็นเหตุให้มีความศรัทธาในหลวงพ่อฤาษีฯ เพราะท่านรู้วาระจิตนั่นเอง[FONT=Times New Roman, serif].... ([/FONT]เรื่องนี้น่าสนใจมากท่านสามารถอ่านเรื่องเต็มๆ ได้ในหนังสือลูกศิษย์บันทึกเล่ม ๒ นะครับ[FONT=Times New Roman, serif])

    [/FONT]ที่นำเรื่องนี้มาเกริ่นไว้ก็มีเจตนาจะเล่าเรื่องของหลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐ จ[FONT=Times New Roman, serif].[/FONT]เพชรบุรี ที่หลวงพ่อฤาษีฯ ท่านว่าเป็นพระดี นั่นแหละครับ เพราะผมได้ไปพบหนังสือเก่าๆ ที่ ท่านดร[FONT=Times New Roman, serif].[/FONT]สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา ในพระบรมราชูปถัมภ์ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ท่านเขียนเอาไว้ นานมากกว่า ๓๐ ปีแล้วเห็นว่าน่าสนใจ จึงขอนำมาเรียนเสนอแด่ทุกท่าน ดังต่อไปนี้ [FONT=Times New Roman, serif]([/FONT]กระผมกราบขออภัย ที่ได้นำเรื่องของท่านมาเผยแพร่ต่อด้วยครับ[FONT=Times New Roman, serif])

    "
    [/FONT]เมื่อกลับมาจากต่างประเทศใหม่ๆ คุณแม่ก็บอกว่าจะพาไปให้พระรดน้ำมนต์ ให้เป็นศิริมงคลแก่ชีวิตยืนนาน ผมก็เป็นชาวพุทธคนหนึ่งซึ่งเลื่อมใสในหลักธรรม และปรัชญาของศาสนาพุทธ ดังนั้นผมจึงไม่ยอมขัดอัธยาศัยของคุณแม่ ไปก็ไป [FONT=Times New Roman, serif]... [/FONT]ไปหาพระหาเจ้านะย่อมเป็นของประเสริฐเสมอ มีแต่ความร่มเย็นเป็นนิจศีล แล้วเราทั้งสองคนก็ออกเดินทางไปยังวัด ที่เป็นสำนักของหลวงพ่อ ที่คุณแม่ชอบเรียกว่า [FONT=Times New Roman, serif]"[/FONT]คุณพ่อ[FONT=Times New Roman, serif]"

    [/FONT]วัดนั้นตั้งอยู่บนเขาเตี้ยๆ แต่เต็มไปด้วยความสะอาดร่มเย็น เมื่อผมกับคุณแม่ขึ้นไปถึงบริเวณนั้น ก็แลเห็นมีผู้คนจำนวนมากนั่งอยู่ก่อน ราวกับว่ามีงานบวชนาคก็ว่าได้ คุณแม่พาผมเลี่ยงไปทางด้านหลัง ที่มีประตูเหล็กแข็งแรงชนิดยืดได้แบบเดียวกับประตูของร้านค้าต่างๆ หลังจากล่วงพ้นประตูเหล็กเข้าไปแล้ว ก็ถึงซอกเล็กๆ ซึ่งค่อนข้างมืด จากนั้นยังจะต้องผ่านประตูไม้อีกชั้นหนึ่ง ซึ่งจะถอดสลักข้างในออกได้โดยช่องที่ทำซ่อนไว้ให้เร้นลับ ต่อจากนั้นก็ถึงประตูไม้แบบโบราณ ซึ่งปิดสนิทลั่นดานข้างใน [FONT=Times New Roman, serif]

    [/FONT]คุณแม่เข้าไปเคาะแล้วเรียกค่อยๆ พร้อมกับบอกชื่อให้ทราบว่าเป็นใคร ข้างในประตูบังเกิดเสียงกุกกักอยู่เล็กน้อย ต่อมาสลักข้างในก็ถูกถอดออก พอประตูเปิดออก ผมแลเห็นพระภิกษุรูปหนึ่ง รู้สึกว่าชราภาพมาก ท่านหันหลังให้เดินกลับไปข้างใน พร้อมกับสั่งให้ปิดประตูลั่นดานเสีย พอพ้นจากประตูก็ถึงห้องยาวๆ แต่ดูจะแคบที่สุด ห้องกั้นเป็นห้องเล็กๆ ขนาดเมตรครึ่ง ยาวสองเมตร ทุกอย่างเก่าคร่ำ ทั้งประตู และหน้าต่างปิดหมด ในห้องเล็กๆ ห้องนั้น เป็นที่อยู่ของพระภิกษุชรารูปนั้น ส่วนห้องด้านใน มีเตียงไม้เก่าๆ พร้อมด้วยผ้านวมบางๆ ปูต่างที่นอน ที่หัวนอนมีหิ้งพระมีพระพุทธรูปอยู่ ๒[FONT=Times New Roman, serif]-[/FONT]๓ องค์ ติดๆ กับเตียงใกล้ทางเข้า มีโต๊ะไม้สีดำ บนโต๊ะเต็มไปด้วยข้าวของหลายอย่าง นับตั้งแต่ถ้ำชา ไปจนถึงตะบันหมาก [FONT=Times New Roman, serif]

    [/FONT]ขณะนั้น ภิกษุชรานั่งอยู่บนเก้าอี้แบบโยกได้ กำลังนั่งเคี้ยวหมากอยู่ พิจารณาโดยถ้วนทั่วแล้ว ทำให้รู้สึกว่าท่านเป็นคนใจดี ใบหูยานเป็นลักษณะของคนเปี่ยมไปด้วยบุญ มือหนึ่งพาดที่ท้าวแขน อีกมือหนึ่งวางบนตัก ด้วยสำเนียงสุ้มเสียงที่ระบุบ่งว่า เป็นผู้มีอารมณ์เย็น ท่านเปล่งเสียงทักทายว่ามาตั้งแต่เมื่อไร สบายดีหรือ พร้อมกับถามถึงญาติคนโน้นคนนี้หลายๆ คน และยังเล่าถึงเหตุการณ์ต่างๆ ในสมัยท่านให้ฟัง รู้สึกว่าท่านคุยสนุก และสนิทสนมกับเรามาก ในที่สุดจึงทราบว่าท่านสนิทชิดชอบกับที่บ้านมาก ตั้งแต่สมัยทวด และย่าทวด [FONT=Times New Roman, serif]

    [/FONT]ตอนหนึ่งคุณแม่ถามว่า [FONT=Times New Roman, serif]"[/FONT]ทำไมคุณพ่อถึงชอบอยู่อุดอู้ปิดหมดอย่างนี้ ไม่ออกไปเดินเล่นข้างนอกบ้าง[FONT=Times New Roman, serif]" [/FONT]ท่านก็ยื่นหน้าตอบว่า [FONT=Times New Roman, serif]

    "
    [/FONT]นี่คุณ คุณได้ยินเสียงนกเสียงการ้องบ้างไหม ข้างนอกน่ะ สมัยก่อนส่งเสียงกันให้แซ่ดไปหมด นกหนูมันยังทนอยู่กันไม่ได้แล้ว จะให้ฉันออกไปได้อย่างไร[FONT=Times New Roman, serif]"

    [/FONT]ผมต้องคิดมากในคำพูดของท่าน และเมื่อคิดโดยรอบคอบแล้ว ก็กระทำให้ผมเข้าใจได้ในบัดนั้นว่า พระภิกษุชราที่อยู่ข้างหน้าผมนี้ ท่านตัดแล้ว สละแล้วซึ่งกิเลสทั้งปวง ผมต้องคิดในเมื่อท่านเข้าใจพูด และโดยมากจะพูดแต่ถ้อยคำที่ล้วนแต่แหลมคมทั้งสิ้น [FONT=Times New Roman, serif]

    [/FONT]ครั้งหนึ่งท่านถามว่า [FONT=Times New Roman, serif]"[/FONT]เขาว่าหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืดใช่ไหมวะ[FONT=Times New Roman, serif]"

    [/FONT]ผมก็ตอบว่า [FONT=Times New Roman, serif]"[/FONT]ใช่ครับ เขาว่ากันอย่างงั้น[FONT=Times New Roman, serif]"

    [/FONT]หลวงพ่อจึงก้มลงมา บอกว่า [FONT=Times New Roman, serif]"[/FONT]ฉันนี่เหยียบน้ำจืดเป็นน้ำทะเลได้[FONT=Times New Roman, serif]" [/FONT]ผมฟังแล้วก็ตื่นเต้นที่จะได้เห็นของดี ท่านพูดต่อไปว่า [FONT=Times New Roman, serif]

    "
    [/FONT]เหยียบที่ท่าน้ำในแม่น้ำนี้ แล้วก็เป็นน้ำทะเลที่ปากอ่าวโน่น[FONT=Times New Roman, serif]" [/FONT]พูดจบท่านก็หัวเราะเอิ๊กอ๊ากชอบใจ ที่หลอกพวกเราที่ไม่ทันท่าน [FONT=Times New Roman, serif]

    [/FONT]ท่านพูดอีกว่า [FONT=Times New Roman, serif]"[/FONT]ฉันน่ะ อายุ ๙๖ ก[FONT=Times New Roman, serif].[/FONT]ไก่ ก[FONT=Times New Roman, serif].[/FONT]กา ไม่เป็นสักตัวเดียว เดี๋ยวนี้ใครๆ ก็รู้จักทั่วประเทศ ทีพวกคุณเรียนเมืองนอกเมืองนาเป็น ๑๐ ปี ปริญญา เอก โท พ่วงท้ายให้ยาวๆ แต่ก็ไม่เห็นมันดังเลย[FONT=Times New Roman, serif]"

    [/FONT]ท่านพูดเตือนสติ เพื่อให้เรารู้จักประมาณตน ประมาณใจ ไม่ทระนง และไม่เห่อเหิม [FONT=Times New Roman, serif]

    [/FONT]ครั้งหนึ่งเราบอกว่า [FONT=Times New Roman, serif]"[/FONT]คุณพ่อจำวัดเถอะ เดี๋ยวจะเหนื่อย[FONT=Times New Roman, serif]"

    [/FONT]ท่านกลับพูดว่า [FONT=Times New Roman, serif]"[/FONT]ฉันอยู่วัดนี้มา ๗๐ กว่าปีแล้ว ฉันจำได้ย่ะวัดฉัน ทำไมฉันจะจำไม่ได้[FONT=Times New Roman, serif]"

    [/FONT]ต่อๆ มาผมก็ได้ไปหาท่านเสมอ ซึ่งก็มีอยู่ครั้งหนึ่ง พอผมก้าวล้ำเข้าประตูไป ก็มีพวกที่นั่งอยู่บนวัด ซึ่งเขาอยากจะกราบนมัสการคุณพ่อบ้าง บางคนมาเฝ้าเป็นวันๆ ก็มี เขาเหล่านั้นตามผมพรูเข้าไป [FONT=Times New Roman, serif]

    [/FONT]พอท่านเข้าที่นั่งของท่านเรียบร้อยแล้ว ท่านถามว่า “พาใครมาด้วยหรือ” [FONT=Times New Roman, serif]

    [/FONT]ผมอึดอัดไม่ทราบจะตอบประการใดดี เพราะว่าปกติแล้ว ทางวัดจะไม่ให้ใครเข้ามาพบท่านเลย ครั้นผมตอบอ้อมแอ้มไม่ค่อยจะเต็มปากเต็มคำว่า [FONT=Times New Roman, serif]"[/FONT]ไม่รู้จัก[FONT=Times New Roman, serif]"

    [/FONT]ท่านก็เลยบอกว่า [FONT=Times New Roman, serif]"[/FONT]อ๋อ[FONT=Times New Roman, serif]! [/FONT]พวกลูกพ่อเพชร แม่พลอย[FONT=Times New Roman, serif]"

    [/FONT]ผมจึงพาซื่อพลอยเข้าใจว่า พวกเหล่านี้ คงจะสนิทชิดชอบกับคุณพ่อเช่นเดียวกัน เพราะท่านรู้จักว่าเป็นลูกเต้าเหล่าใคร แต่แล้วก็ต้องมาถึงบางอ้อ ในเมื่อท่านพูดต่อว่า [FONT=Times New Roman, serif]

    "
    [/FONT]พวกพลอยพยัก ใครเขาทำอะไรก็พลอยพยักไปกับเขาด้วย[FONT=Times New Roman, serif]"

    [/FONT]พวกนั้นก็เลยหน้าแห้งไป [FONT=Times New Roman, serif]

    [/FONT]ท่านแจกเหรียญให้คนละเหรียญ เสร็จแล้วก็ขยับไม้ตะพดแล้วตะเพิดออกมาหมด แต่รู้สึกว่าดูทุกคนต่างพากันอิ่มอกอิ่มใจที่ได้เข้ามาเห็นตัวท่าน และได้รับเหรียญจากมือ แม้จะถูกว่ากล่าวอย่างไรก็สบายใจ นี่แหละความศรัทธา[FONT=Times New Roman, serif]! [/FONT]บางคนแอบฉีกผ้าจีวรกระรุ่งกระริ่ง ที่ท่านวางไว้สำหรับเช็ดเท้า เอาไปเก็บเป็นเครื่องลาง [FONT=Times New Roman, serif]

    [/FONT]บรรดาผู้ที่ถูกด่าว่า หากรู้ซึ้งถึงความรู้สึกในส่วนลึกของท่านจริงๆ แล้ว จะไม่โกรธท่านเลย เพราะเหตุว่า เมื่อคนออกไปหมดแล้ว ท่านถึงกับหัวเราะออกมา พลางบอกว่า [FONT=Times New Roman, serif]

    "
    [/FONT]ฉันทำดุไปยังงั้นแหละ แกล้งตะเพิดไปอย่างงั้นเอง จะได้ไม่เข้ามากวนฉัน มาเป็นร้อยเป็นพัน คนนั้นจะให้รดน้ำมนต์ คนนี้จะให้เป่ากระหม่อม คนโน้นจะเอานี้ คนนั้นจะเอานี่ มันจะฆ่าฉันให้ตายเร็วๆ [FONT=Times New Roman, serif]"

    [/FONT]น่าเห็นใจ[FONT=Times New Roman, serif]- [/FONT]เพราะถ้าเปิดรับให้เข้ามาแล้ว ท่านก็คงจะไม่มีเวลาพักผ่อนเป็นแน่ โดยเฉพาะยิ่งเป็นวันเสาร์ และวันอาทิตย์ด้วยแล้ว มีเป็นร้อยๆ ทีเดียว เวลาท่านนั่งปลุกเสก หรือเป่ากระหม่อม ท่านเข้าสมาธิด้วยพลังจิตอย่างแรงเห็นได้ชัด ทั้งที่ในห้องอากาศก็ไม่ร้อน พอท่านเริ่มสวด เหงื่อเม็ดโป้งๆ เกาะอยู่เต็มใบหน้าท่าน เมื่อเสร็จพิธี เหงื่อก็ท่วมเห็นแล้วรู้สึกสงสารท่านมาก อย่าลืมว่าอายุท่าน ๙๖ แล้ว เคยถามท่านถึงเรื่องอายุ ท่านมักกล่าวอย่างทีเล่นทีจริงว่า ท่านจะอยู่สัก ๑๐๐ ปี ท่านสั่งไว้ว่าไม่ให้เผาท่าน ให้บรรจุตั้งไว้ที่วัด ลูกศิษย์ลูกหาจะได้มานมัสการท่านได้ทั่วถึง[FONT=Times New Roman, serif]

    [/FONT]ท่านไม่ค่อยเชื่อความเจริญ ในทางวิทยาศาสตร์ ทุกครั้งที่ท่านเจ็บป่วย ท่านก็จะปรุงหยูกปรุงยาของท่านเสมอ น้อยครั้งที่บรรดาหมอสมัยใหม่จะได้มีโอกาสมารักษาท่าน แม้ว่าในอาทิตย์หนึ่ง ท่านอาบน้ำเพียงครั้งสองครั้ง แต่ทว่าร่างกายของท่านก็ยังสะอาดบริสุทธิ์อยู่เป็นนิจ [FONT=Times New Roman, serif]

    [/FONT]ทางด้านวิทยาศาสตร์นี้ ปรากฏว่าท่านเคยเอาชนะมาแล้ว คือ [FONT=Times New Roman, serif]

    [/FONT]เมื่อคราวเกิดโรคระบาดครั้งใหญ่ ที่จังหวัดเพชรบุรี ยังผลให้วัวและควายต้องล้มตายนับจำนวนมาก สัตวแพทย์เองก็ถึงกับจนปัญญา หมดทางจะบำบัดเยียวยา หมดทางจะกำจัดแก้ไข คราวนั้นใครๆ ก็จำได้ว่าโรคร้ายสงบเงียบลงเพราะความขลัง และศักดิ์สิทธิ์ของผ้ายันต์แขวนคอของคุณพ่อ วัวควายตัวไหนถ้ามีผ้ายันต์ผูกคอเป็นรอดตายทุกตัว [FONT=Times New Roman, serif]

    [/FONT]ผ้ายันต์นี้ผืนเล็ก ขนาดกว้างยาวประมาณ ๔ [FONT=Times New Roman, serif]X [/FONT]๗ นิ้ว แต่ผ้ายันต์ที่สมบูรณ์จริงๆ ผืนใหญ่กว่า คือขนาดประมาณผ้าเช็ดหน้าผู้ชาย มีอักขระเลขยันต์เต็มไปทั้งผืน ใช้ได้สารพัดอย่าง ทั้งเมตตามหานิยม แคล้วคลาด ปัจจุบันท่านเลิกทำแล้ว สำหรับยันต์ผืนใหญ่ ด้วยตาท่านมองไม่เห็น [FONT=Times New Roman, serif]

    [/FONT]จากเรื่องของผ้ายันต์นี้ ผมขอเล่าให้ทราบว่า[FONT=Times New Roman, serif].... [/FONT]เมื่อปลายปี พ[FONT=Times New Roman, serif].[/FONT][FONT=Times New Roman, serif]. [/FONT]๒๕๑๔ ผมขับรถไป และได้ไปคว่ำกลางทางถึงยับเยิน เพราะพลิกถึง ๓ ตลบ ในขณะที่วิ่งไปด้วยความเร็ว ๑๓๐ กิโลเมตรต่อชั่วโมง ตัวผมเองขณะนั้นหลุดออกมาครึ่งตัว ทางหน้าต่างรถด้านตรงข้าม หลังคารถก็ยุบลงมาทับขา นี่แสดงว่าตัวผมต้องหลุดออกมาในระหว่างรถคว่ำ แต่ทว่า[FONT=Times New Roman, serif]...[/FONT]ทำไมผมจึงไม่ถูกตัวรถทับครูดกับพื้น ท่านเชื่อไหมครับ [FONT=Times New Roman, serif]? [/FONT]ตัวผมไม่เป็นอะไรเลย นอกจากมีแผลเล็กๆ ที่แขนข้างซ้ายเท่านั้น [FONT=Times New Roman, serif]

    [/FONT]เหตุทั้งนี้ก็เพราะว่า ในรถของผมขณะนั้นมีผ้ายันต์ของคุณพ่อผูกไว้ ๒ ผืน ในตัวผมวันนั้นไม่ได้มีพระติดมาสักองค์เดียว เมื่อไปนมัสการท่าน และกราบเรียนให้ท่านทราบ ท่านก็หันไปยกมือไหว้พระบนหิ้งบูชา แล้วบอกผมว่า [FONT=Times New Roman, serif]

    "
    [/FONT]คุณพระรัตนตรัยมาช่วยทัน[FONT=Times New Roman, serif]"

    [/FONT]นี่แสดงว่า ท่านถือว่าท่านเป็นแต่ผู้อัญเชิญสิ่งศักดิ์สิทธิ์มาสถิตย์ในตัวเราเท่านั้นเอง ไม่เคยหลงว่าเป็นของตัวท่านเลย [FONT=Times New Roman, serif]

    [/FONT]หลายๆ คน คงจะรู้สึกประหลาดใจอยู่บ้างเหมือนกัน หากผมจะบอกให้ทราบว่า คุณพ่อเองก็พกเหรียญเหมือนกัน โดยเอาใส่ไว้ในย่าม เวลาไปไหนมาไหน เหรียญที่ท่านติดใส่ย่ามไปนี้ มีอยู่สองเหรียญด้วยกัน ท่านเอาเข็มกลัดซ่อนปลายกลัดรวมกันไว้ เหรียญหนึ่ง เป็นเหรียญหลวงพ่อฉุย วัดคงคาราม จังหวัดเพชรบุรี ซึ่งเป็นอาจารย์ของท่าน อีกเหรียญหนึ่งก็เป็นอาจารย์ของท่านเช่นเดียวกัน จำชื่อไม่ได้ อยู่จังหวัดนครปฐม [FONT=Times New Roman, serif]

    [/FONT]ท่านเล่าว่าท่านมีอาจารย์อยู่ ๓ องค์ องค์ที่อยู่จังหวัดนครปฐมนั้น ท่านบอกว่าเก่งมาก สามารถย่นระยะทางได้ ลูกศิษย์ขึ้นรถไฟที่สถานีธนบุรี [FONT=Times New Roman, serif]([/FONT]บางกอกน้อย[FONT=Times New Roman, serif]) [/FONT]หลวงพ่อลงไปฉันน้ำ รถไฟออกท่านก็ไม่ขึ้นมา ลูกศิษย์นึกว่าท่านตกรถไฟ ทำเอาใจไม่ดี ทำไงล่ะ [FONT=Times New Roman, serif]? [/FONT]แต่พอถึงวัด ลูกศิษย์ก็เห็นท่านนั่งปร๋ออยู่ที่วัดแล้ว สร้างความตื่นตะลึงแก่บรรดาลูกศิษย์เป็นอันมาก [FONT=Times New Roman, serif]

    [/FONT]ขอย้อนกล่าวถึงเหรียญสองเหรียญที่คุณพ่อพกติดไว้ในย่ามอีกนิด ขณะที่ท่านรับนิมนต์ไปฉันเพล ณ บ้านแห่งหนึ่ง ในจังหวัดเพชรบุรีนั่นเอง ปรากฏว่ามีมือเลวมาล้วงเอาเหรียญพระ ๒ องค์นั้นไปเสียแล้ว ท่านบ่นเสียดายอยู่เป็นหลายวัน [FONT=Times New Roman, serif]([/FONT]ท่านคงเสียดายเพราะเป็นของที่ครูบาอาจารย์มอบให้มากกว่าอย่างอื่น [FONT=Times New Roman, serif]: [/FONT]ความเห็นของผม[FONT=Times New Roman, serif])

    [/FONT]ท่านที่รัก[FONT=Times New Roman, serif]... "[/FONT]คุณพ่อ[FONT=Times New Roman, serif]" [/FONT]ที่ผมเล่าให้ฟังมาแต่ต้นนี้ ท่านคงเดาออกซีครับว่า [FONT=Times New Roman, serif]"[/FONT]คุณพ่อ[FONT=Times New Roman, serif]" [/FONT]นี้คือใคร ถ้ายังสงสัยอยู่ผมจะบอกให้ก็ได้ครับ ท่านคือ [FONT=Times New Roman, serif]"[/FONT]คุณพ่อแดง[FONT=Times New Roman, serif]" [/FONT]หรือนัยหนึ่ง [FONT=Times New Roman, serif]"[/FONT]หลวงพ่อแดง[FONT=Times New Roman, serif]" [/FONT]แห่งวัดเขาบันไดอิฐ จังหวัดเพชรบุรี ที่ท่านรู้จักกันทั่วทั้งประเทศไทย
     

แชร์หน้านี้

Loading...